ต่างประเทศ

'ไบเดน' วิจารณ์ศาลสูงสุด สร้างบรรทัดฐานอันตราย หลังตัดสินให้ 'ทรัมป์' มีเอกสิทธิ์คุ้มกันจากการถูกดำเนินคดี

โดย nattachat_c

3 ก.ค. 2567

173 views

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์ว่า การที่ศาลสูงสุดตัดสินให้ โดนัลด์ ทรัมป์ มีเอกสิทธิ์คุ้มกัน และไม่อาจถูกดำเนินคดีจากการกระทำต่าง ๆ ภายใต้ขอบเขตอำนาจตามรัฐธรรมนูญใ นฐานะประธานาธิบดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ 'อันตราย' และจะทำให้ประธานาธิบดีมีสถานะไม่ต่างไปจาก 'กษัตริย์'

ทั้งนี้ ศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่อาจถูกดำเนินคดีจากการกระทำต่าง ๆ ภายใต้ขอบเขตอำนาจตามรัฐธรรมนูญในฐานะประธานาธิบดี แต่อาจถูกดำเนินคดีจากการกระทำส่วนบุคคลได้ ซึ่งถือเป็นคำตัดสินประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่รับรองเอกสิทธิ์คุ้มกัน จากการถูกดำเนินคดีของผู้ที่เป็นประธานาธิบดี

ผู้นำสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันแสดงการแข็งขืน ด้วยการปฏิเสธไม่เลือก ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้ง วันที่ 5 พ.ย.นี้ โดยระบุว่า คำตัดสินของศาลสูงสุดทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากที่ ทรัมป์ จะไม่ถูกไต่สวนความผิดจากการพยายามล้มผลเลือกตั้งเมื่อปี 2020 และมันกำลังทำให้ผู้นำสหรัฐฯ ได้รับการปกป้องไม่ต่างจากพระราชา

เขากล่าวว่า “ประเทศนี้ตั้งอยู่บนหลักการที่ว่า ไม่มีผู้ใดเป็นกษัตริย์ในอเมริกา ทุกคนเท่าเทียมกันตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แม้แต่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา” และเตือนด้วยว่า คำตัดสินของศาลสูงสุด เท่ากับประธานาธิบดีมีสิทธิที่จะใช้อำนาจทำสิ่งใดก็ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ไบเดน กล่าวว่า นี่เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่อันตราย เพราะอำนาจบริหารจะไม่ถูกควบคุมโดยกฎหมายอีกต่อไป  ข้อจำกัดจะต้องขึ้นอยู่กับตัวประธานาธิบดีเองเท่านั้น

ทั้งนี้ ไบเดน วัย 81 ปี เผชิญแรงกดดันจากหลายฝ่าย ให้ถอนตัวจากการเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครต หลังทำผลงานอภิปรายสดประชันกับ ทรัมป์ ที่เมืองแอตแลนตาได้ย่ำแย่ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อายุ และสภาพร่างกายที่ร่วงโรยของเขา อาจเป็นอุปสรรคบั่นทอนศักยภาพในการทำงาน  หากต้องกุมบังเหียนรัฐบาลต่อไป ในอีก 4 ปีข้างหน้า

----------------

คุณอาจสนใจ

Related News