เปิดนาทีบุกรวบ 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' คาบ้านพัก คุมตัวสอบปากคำ ตั้ง 4 ข้อหาหนัก

ตำรวจ ปคบ.รวบแม่ตั๊ก -ป๋าเบียร์ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ขณะเดียวกันได้ค้นบ้านแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ยึดอาวุธปืนยาว 4 กระบอก ตู้เซฟ 1 ใบ ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำ ขณะที่บรรยากาศที่หน้าบ้านแม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ คึกคักตั้งแต่เช้า มีทั้งนักข่าว ตำรวจ รวมถึง ทนายความของแม่ตั๊ก เข้าไปที่บ้านตั้งแต่เช้า 6 โมง



ที่หน้าบ้านของ น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก และ นายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ ย่านรามอินทรา 65 เต็มไปด้วยบรรดาสื่อมวลชนที่มาปักหลัก หลังมีกระแสข่าวว่าจะมีการขอหมายค้นบ้านแม่ตั๊ก พร้อมกันนี้มีรายงานว่ามีรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.มาจอดสแตนบายตั้งแต่ช่วงเช้า และมีเพียงทนายความที่เข้าไปในบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า



โดยเมื่อเวลา 6.00 น. ทนายความส่วนตัวของแม่ตั๊ก ได้เดินทางมาหาแม่ตั๊กที่บ้านแต่เช้า หลังจากมีกระแสข่าวลือหนาหูในโลกโซเชียลว่า ตำรวจจะเข้าค้นบ้านแม่ตั๊ก



ทนายความให้ข้อมูลกับนักข่าวที่มารอว่า จากกระแสข่าวลือว่าจะเข้าค้นบ้าน และร้านทองของแม่ตั๊กนั้น ตอนนี้เรายังไม่ได้หมายค้น และยังไม่ได้ทราบเรื่องราวดังกล่าว แต่ถ้าหากตำรวจจะมาค้นจริงๆ ทางเราก็ยินดีให้ความร่วมมือ เนื่องจากเราไม่ใช่อาชญากร และตัวของแม่ตั๊กกับป๋าเบียร์ ยังคงอยู่ในบ้าน โดยในวันนี้ก็กำลังจะส่งลูกสาวไปโรงเรียน



ทั้งนี้ เจ้าตัวไม่ได้กังวลอะไรเป็นพิเศษ นอกจากการนำเสนอข่าวในบางประเด็น ซึ่งก็พยายามย้ำมาตลอดว่า ตัวแม่ตั๊ก ยินดีที่จะซื้อทองคืนจากลูกค้าทุกราย และรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น



จากนั้นช่วง 10.30 น. หน้าบ้านก็มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังจากผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เดินทางมายังบ้านของแม่ตั๊ก เพื่อส่งหนังสือเรียกครั้งที่ 2



เจ้าหน้าที่ สคบ. กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนมาส่งหนังสือเรียกเข้าให้ข้อมูลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ส่งหนังสือเรียกครั้งแรกไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้เป็นหนังสือเรียกครั้งที่ 2 เป็นการเชิญบุคคลที่ตกเป็นข่าวทั้ง 2 คน เป็นผู้ชายกับผู้หญิง โดยเป็นกรรมการของบริษัท ก่อนจะมีเหตุขัดข้องและแจ้งขอเลื่อน นอกจากนี้ยังมีการเชิญบุคคลอื่น ที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นหนังสือเชิญครั้งแรก ซึ่งในวันนี้เป็นการเชิญ ตามภูมิลำเนาของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย



ยืนยันว่า หนังสือเรียกถูกส่งถึงผู้มีรายชื่อตั้งแต่ครั้งแรก ที่หน้าร้านทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการบริษัท โดยการส่งหนังสือเรียกครั้งนี้จะเรียกให้พบในวันที่ 4 ตุลาคม หากไม่ไปตามหนังสือเรียกก็จะมีโทษ มีจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 20,000 บาทซึ่งนี่เป็นแค่ข้อหาขัดหนังสือเรียกของเจ้าพนักงาน



ส่วนผลการตรวจทองคำ ถึงปริมาณความบริสุทธิ์จะออกผลภายในสัปดาห์นี้ ส่วนเรื่องการส่งหมายเรียกก็แล้วแต่ว่าจะออกมารับด้วยตนเองหรือส่งตัวแทนออกมารับถ้าหากออกมารับด้วยตนเองก็มีโอกาสที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้



จากนั้นช่วง 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. กองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้นำกำลัง พร้อมหมายค้นจากศาลอาญามีนบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยรามอินทรา 65 ซึ่งเป็นบ้านของแม่ตั๊ก นส.กรกนก และ นายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าตรวจค้นในบ้าน และเก็บเอกสารหลักฐานในคดี ตรวจพวกหลักฐานในสำนวนต่างๆ



จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนผ่านรั้วบ้าน ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชูบัตรประจำตัว เพื่อขอเข้าตรวจค้น ก่อนที่ทนายความส่วนตัวของแม่ตั๊ก จะออกมารับหมาย



จากนั้นได้ทำการอ่านหมายค้นต่อหน้าทนายความ เนื้อหาในหมายศาล คือ ศาลเห็นควรว่าให้ค้นบ้านดังกล่าวเพื่อยึดสิ่งของ ทองรูปพรรณ หรือสินค้าของแถม หรือสินค้าที่ผิดกฎหมายอื่นๆ รวมทั้งวัตถุ และเอกสารที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด



จากนั้นทนายความจึงเปิดประตูรั้วอัตโนมัติให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ชุดทำงานประมาณ 15 นายเข้าตรวจค้น ซึ่งตำรวจที่จะเข้าตรวจค้นแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อหน้าทนายความว่าไม่ได้มีการพกพาอาวุธปืนเข้าไปภายในบ้าน



หลังจากการตรวจค้นนาน 1 ชั่วโมง ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว เริ่มมีการนำรถที่จอดอยู่ในบ้านออกจากบ้านพักไป จากนั้น 13.00น. เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นได้มีการนำเอาอาวุธปืนยาว ที่บรรจุในกระเป๋า 4 กระบอก ตู้เซฟขนาดเล็ก 1 ตู้ เพื่อนำไปตรวจสอบ



ต่อมาตำรวจ บก.ปคบ. ก็ได้นำตัวแม่ตั๊ก และป๋าเบียร์ ออกจากบ้าน เพื่อนำตัวไปกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค



โดยคุมตัวป๋าเบียร์ออกมาก่อน โดยสวมเสี้อเชิ้ตสีขาว ก่อนที่ป๋าเบียร์จะยกมือไหว้สื่อ ตามมาด้วยแม่ตั๊ก ซึ่งก็สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และมีผู้ชายเอาแจ็คเก็ตบังสื่อให้ ส่วนแม่ตั๊กเอามือป้องใบหน้าตัวเอง จากการสังเกต ทั้งคู่มีสีหน้าเรียบเฉย และเจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ ของสื่อมวลชน โดยทั้งคู่ไม่ได้ถูกสวมกุญแจมือแต่อย่างใด



จากนั้นป๋าเบียร์ได้เดินขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนั่งฝั่งขวา และตามมาด้วยตัวของแม่ตั๊กที่นั่งฝั่งซ้าย และไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน โดยก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนออกมาจากบ้าน



เบื้องต้น ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา กับ 2 สามีภรรยา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jQX6TCmYty8