สังคม

ทนาย 'บอสพอล' ไม่เห็นด้วย 'อัจฉริยะ' ขู่ฟ้องสื่อ เสนอข่าวปมตีเนียนร่วมฟังสอบ 'โค้ชแล็ป' กับตำรวจ

โดย paweena_c

5 ชั่วโมงที่แล้ว

40 views

ทนายบอสพอล ออกโรงโต้ นายอัจฉริยะ หลังขู่ฟ้องสื่อมวลชน ปมนายอัจฉริยะตีเนียนเข้าร่วมฟังการสอบสวนโค้ชแล็ปร่วมกับตำรวจ ยันไม่เห็นด้วยกับนายอัจฉริยะ เพราะสื่อมีหน้าที่เสนอข่าวตามข้อเท็จจริง

จากกรณีที่ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความขอบบอสพอล ออกมาเปิดเผยว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้แฝงตัวเข้าไปพร้อมกับตำรวจ ร่วมรับฟังการสอบปากคำ โค้ชแล็ป หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดิไอคอล ชุดแรก ภายในห้องสอบสวนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทั้งที่นายอัจฉริยะไม่มีส่วนกี่ยวข้องและไม่ใช่ทนายความหรือที่ปรึกษาทางกฎหมายของโค้ชแล็ป

ขณะที่นายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่านายอัจฉริยะ ได้มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อต้องการนำเอกสารมาให้โค้ชแล็ป เพื่อลงนามแต่งตั้งเป็นทนาย แต่โค้ชแล็ป มีทนายความอยู่แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า นายอัจฉริยะ ได้เข้าไปร่วมรับฟังการสอบสวนโค้ชแล็ปจริงหรือไม่นั้น

ต่อมานายอัจฉริยะ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่สื่อมวลชนได้ลงข่าวว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เล็งคาดโทษนายอัจฉริยะปมละเมิดพื้นที่เรือนจำ โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จว่า เข้าไปในห้องสอบสวนโดยวิธีตีเนียน เข้าไปร่วมรับฟังการสอบสวนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และผิดระเบียบกรมราชทัณฑ์ และอ้างว่า รักษาราชการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้ให้ข่าว

ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด การเข้าไปในห้องสอบสวนของข้าพเจ้า ได้ทำหนังสือถูกต้องและได้รับอนุญาตจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพแล้ว และไม่ได้ถูกเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ดำเนินการตามกฎหมายหรือตั้งกรรมการสอบ

การลงข่าวเท็จหรือเฟคนิวส์ทำให้ข้าพเจ้าได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง และยืนยันว่าหากข้าพเจ้า ทำผิดกฎหมาย ขอให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินคดีตามกฎหมายกับข้าได้เลย จึงอยากให้สื่อมวลชนแก้ไขข้อมูลข่าวให้ถูกต้อง หากไม่แก้ไขก็จะบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับสื่อมวลชน

ขณะที่นายวิฑูรย์ ได้สวนกลับนายอัจฉริยะ โดยออกแถลงการณ์ระบุว่าในฐานะทนายความของดิไอคอนกรุ๊ป และทนายความของบอสพอลกับพวก ขอปกป้องการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกสำนัก

เพราะตามระเบียบของเรือนจำ การเข้าพบผู้ต้องขัง ต้องได้รับการรับรองจากผู้ต้องขังเท่านั้น ซึ่งนายอัจฉริยะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับผู้ต้องขัง จึงไม่มีสิทธิเข้าร่วมรับฟังการสอบสวนของพนัก งานสอบสวน

ซึ่งการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ได้สอบถามข้อมูลจากรักษาการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และยังได้สอบถามข้อมูลจากนายอัจฉริยะ จึงแสดงให้เห็นว่าสื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาตามหนาที่และจรรยาบรรณ ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยที่นายอัจฉริยะ จะดำเนินคดีกับสื่อมวลชน

โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 35 วรรคหนึ่ง ได้รับรองเสรีภาพของสื่อมาลชนไว้ว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนไม่ได้มีความผิดตามกฎหมาย ข้าพเจ้าขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนและให้สื่อมวลชนมีความหนักแน่นไม่เกรงกลัวต่อการนำข่าวให้กับประชาชน

https://youtu.be/ZS_2WBSOqGA

คุณอาจสนใจ

Related News