สำนักพุทธฯ แจ้งความ 'ลัทธิเชื่อมจิต' แล้ว 'ทนายอนันต์ชัย' แจ้งเพิ่มอีก 7 ข้อหาพรุ่งนี้

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา หรือ มหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม , นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ อดีต สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ , ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง , ดร.อธิเทพ ผาทา อาจารย์ประจำหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพระไตรปิฎกศึกษา คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย , พระมหาวัฒนา ปัญญาปทีโป เปรียญธรรม 9 ประโยค พระอาจารย์สอนพระไตรปิฎร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม สอนระดับ ปริญญาตรี โท และเอก เดินทางมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

เข้าพบนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ในฐานะคณะทำงานตรวจสอบ กลั่นกรอง ข้อมูล ข่าวสาร และการกระทำอันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่ดูแลพระพุทธศาสนาโดยตรง แต่ที่ผ่านมามีความไม่ชัดเจนในอำนาจหน้าที่และกฎระเบียบ จากกรณีที่เกิดขึ้นของลัทธิเชื่อมจิต ขณะนี้มูลนิธิทนายกองทัพธรรมกำลังร่างกฎหมาย อำนาจหน้าที่ของสำนักพุทธฯ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น และมีข้อเสนอว่า ควรให้ตั้งองค์กรองค์กรหนึ่ง ที่ตรวจสอบการเผยแพร่หลักคำสอนของพระพุทธศาสนา เพื่อให้ทำงานอย่างทันท่วงที

กรณีกรณีลัทธิเชื่อมจิต รู้สึกไม่สบายใจที่มีการกล่าวว่าการไหว้ เปรียบเสมือนการไหว้พระพุทธเจ้า ถือว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เป็นเรื่องเลวร้าย มูลนิธิทนายกองทัพธรรม ในฐานะองค์กรเอกชน เห็นว่าลัทธิเชื่อมจิตที่เกิดขึ้น ต้องควรรีบดำเนินการเพราะหากปล่อยไว้จะเป็นปัญหาอย่างมาก ดังนั้นประชาชนและหน่วยงานต่างๆ จึงต้องออกมาปกป้อง

การดำเนินการขององค์กรจะไม่ได้มองเฉพาะจิตแต่จะดูทุกลัทธิเชื่อมจิต ที่บิดเบือนหลักคำสอน ดังนั้นเราจะต้องเอาลัทธิเหล่านั้นมาดำเนินคดี โดยมีสำนักพุทธฯ และ พม.เป็นหน่วยงานหลัก โดยมีมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เป็นหนึ่ง และเครือข่ายต่างๆ เป็นกำลังหนุนในข้อกฎหมาย

ดังนั้นจึงอยากบอกกับประชาชนว่า ขอให้สบายใจเพราะเป็นนิมิตหมายที่ดี เนื่องจากขณะนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมาดำเนินการในเรื่องนี้ด้วยตนเองแล้ว ที่ผ่านมาหากมีการล่วงเกินหรือกล่าวอะไรที่ไม่เหมาะสม ก็ต้องขอโทษสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ณ โอกาสนี้

ขณะที่ต้นอ้อเป็นหนึ่ง ได้กล่าวขอโทษและขออภัยสำนักงานพระพุทธศาสนาในในช่วงที่ผ่านมาที่มีการต่อว่าในประเด็นต่างๆ เพราะก่อนหน้านี้ตนเองออกมาต่อสู้เพียงคนเดียว ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนออกมาดำเนินการดังนั้นวันนี้จึงอยากจะขอโทษที่ล่วงเกินเกินไป

ทนายอนันต์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่สนใจว่าทนายธรรมราช และลัทธิเชื่อมจิต จะแจ้งความดำเนินคดีเรื่องใดๆกับตนเอง สิ่งที่ตนเองโฟกัส คือเรื่องที่ทางเครือข่ายแจ้งความไว้กับ ปอท. และ ปอท. รับเป็นคดีแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า ส่วนเรื่องที่ลัทธิเชื่อมจิตแจ้งความดำเนินคดีมานั้น ก็สู้คดีกันตามขั้นตอน

ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย. 67) มูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย หรือทีม Avengers จะเดินทางไป บก.ปอท.แจ้งความเอาผิดกับเด็ก 8 ขวบ พร้อมทีมงานลัทธิเชื่อมจิต ในข้อหาความผิดดังต่อไปนี้

1 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), (2), (5)

2.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 83, 84, 86, 90, 91

3.พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

4.พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มาตรา 5 และมาตรา 8

5.พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มาตรา 13

6.ประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (8), 37 ทวิ