สังคม

เบื้องหลังปฏิบัติการลับตามจับ 'แป้ง นาโหนด' Top Secret In Madan

โดย parichat_p

3 มิ.ย. 2567

53 views

กว่า 7 เดือนในการตามจับ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาหลบหนีเรือนจำนครศรีธรรมราช จนมาจับกุมได้ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย กลายเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่อินโดนีเซีย เตรียมขยายผลร่วมกับตำรวจไทย ปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ รวมถึงกลุ่มบุคคลที่ให้การช่วยเหลือนายเชาวลิต หลบหนีมายังอินโดนีเซีย และเบื้องหลังสำคัญมาจากการตามเแกะรอยของ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 9 และ คณะทำงานสืบสวนชุดพิศษ ที่มาลงพื้นที่ตรวจสอบในเมืองเมดาน จนนำไปสู่การจับกุมตัวแป้ง นาโหนด ได้สำเร็จ


คลิปวีดีโอ ที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ได้จาก รปภ.คอนโดในเมืองเมดาน ระบุว่ามีหญิงชาวไทยทะเลาะวิวาทกับผู้ชายไทย กลายเป็นหลักฐานยืนยันว่า นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด กบดานอยู่ที่เมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย จริง หลังชุดสืบสวนที่นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 9 ตามแกะรอยจากคนใกล้ชิดในประเทศไทย และเริ่มปฏิบัติการลับตามจับ แป้ง นาโหนด Top Secret In Madan นำไปสู่ความร่วมมือกับตำรวจสากล Interpol อินโดนีเซีย ตามจับกุมนายเชาวลิต โดยการประสานงานของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติรรม ที่ถือเป็นความรับผิดชอบตามจับผู้ต้องหาหลบหนีจากเรือนจำของกรมราชทัณฑ์


ซึ่งหลังจากมีหลักฐานยืนยันตัวตนว่านายเชาวลิต อยู่ที่เมืองเมดานจริง พันตำรวจเอก ทวี จึงลงพื้นที่เมืองเมดาน ด้วยตัวเองในวันที่ 25 พฤษาคม หลังประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย โดยการประสานงานจากพลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ผ่านทางนายยูซูฟ ลัลลา อดีตรองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย จนเกิดปฏิบัติการจับกุมเกิดขึ้น รวมถึงมีการเสนอไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของไทย ตั้งคณะทำงานสืบสวนชุดพิเศษ 8 คน เช่น พันตำรวจเอกสมพงษ์ สุวรรณวงศ์ พันตำรวจเอกศักดา เจริญกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 9 พันตำรวจเอก ชย พานะกิจ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง


จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า นายเชาวลิต หลบหนีระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ในวันที่ 22 ตุลาคม 2566 จนมาพบเบาะแสว่าหลบหนีอยู่บนเทือกเขาบรรทัด เกิดการปะทะในวันที่ 8 พฤศิจกายน ชุดสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 9 ตามแกะรอยจนพบว่าร่องรอยนายเชาวลิต นั่งรถจักรยานยนต์ชาวบ้าน หลบหนีจากเขา ในช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ย. และไปลงเรือที่ท่าแพ อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยใช้สปีดโป๊ท หลบหนีมาที่เกาะอาเจะห์ อินโดนีเซีย ก่อนจะให้เครือข่ายยาเสพติดช่วยเหลือทำเอกสารปลอม ทั้งสูติบัตร ทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนปลอม ในชื่อนายสุไลมาน นำไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย แต่ด้วยเมืองอาเจะห์ อยู่ห่างไกลความเจริญ นายเชาวลิต ที่ติดนิสัย ติดหรู อยู่สบาย จึงหาทางย้ายไปเมืองเศรษฐกิจ เช่นเมดาน


โดยใช้วิธีการจีบผู้หญิงชาวอินโดนีเซีย ผ่านโซเซียลมีเดีย แล้วมาเช่าคอนโดหรูใจกลางเมือง ในชื่อชาวอาเจะห์ มากถึง 5 ห้อง เพื่อใช้สับขาหลอก และเบาะแสสำคัญมาจากหลักฐานการเดินทางเข้าออกเมืองเมดาน ของหญิงไทยที่ใกล้ชิดกับนายเชาวลิต จึงทำให้ตามตัวพบหลังใช้เวลาตามหานานถึง 7 เดือน เพราะหลังจากหลบหนี นายเชาวิต ใช้วิธีการตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการปล่อยข่าวผ่านคนใกล้ชิดว่าไปหลบหนีอยู่ในที่ต่างๆ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านการช่วยเหลือของเครือข่ายยาเสพติ จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาในการพิสูจน์ทราบ


แต่ยังจับตากลุ่มคนใกล้ชิด จนมาพบหญิงคนหนึ่งที่เดินทางกลับจากเมืองเมดานเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และเริ่งมาลงพื้นที่จนพบว่าเป็นคนเดียวกับที่อยู่ในคลิป ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม และยังได้เบาะแสจากเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ที่ให้การช่วยเหลือนายเชาวลิตด้วย


ในขณะที่การตรวจค้นของตำรวจอินโดนีเซีย ในวันที่ 25 พฤษภาคม โดยสืบรู้หมายเลขห้องจากข้อมูลการสั่งอาหารและส่งผ้าซักรีด แต่กลับไม่พบตัวนายเชาวลิต เพราะได้ออกจากเมืองเมดาน ไปเกาะบาหลี ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งตำรวจอินโดนีเซีย ตามแกะรอยการเดินทางจนพบ และตามไปจับกุมได้ ในอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งที่เกาะบาหลี ในวันที่ 30 พฤษภาคม

คุณอาจสนใจ

Related News