เลือกตั้งและการเมือง

รัฐมนตรีคลัง นั่งไม่ติด ขอแจง 3 คนรวด หลังฝ่ายค้านอภิปราย "ดิจิทัลวอลเล็ต"

โดย thanaporn_s

17 ก.ค. 2567

138 views

17 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาเป็นพิเศษ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... หรืองบกลางเพิ่มเติม เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ สส.ฝ่ายค้าน อภิปรายไปเพียง 2 คน ได้แก่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายคัดค้านเสร็จสิ้น ปรากฏว่า รัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คนของกระทรวงการคลัง ขอใช้โอกาสนี้ลุกขึ้นชี้แจงทันที

โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงคนแรก แซวว่า เห็นนางสาวศิริกัญญา ใส่ชุดเขียวนึกว่ามาเชียร์ ธกส. พร้อมชี้แจงว่าแหล่งงบประมาณที่ใช้ทำดิจิทัลวอลเล็ตเปลี่ยนไป เป็นเพราะกลไกที่เปลี่ยนจากรับฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อไปดูข้อมูลแล้วเราสามารถจัดการได้ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ ซึ่งคณะอนุกรรมการกำกับ ที่มีตนเองเป็นประธานก็นำข้อเสนอนี้ไปยังคณะกรรมการนโยบายเพื่อพิจารณาและมีมติเห็นชอบไปแล้ว เพื่อให้มีความเหมาะสมขึ้น

1. การบริหารจัดการงบสามารถบริหารจัดการได้รองรับได้จึงได้มีความเห็นเช่นนั้น

2.กลไกใช้มาตรา 28 ตามพรบวินัยการเงินการคลัง ก็สามารถดำเนินการได้หน่วยงานไม่มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งใด แต่หลังจากดูรายละเอียดคิดว่าอาจจะจำเป็นต้องมีข้อจำกัดเพิ่มเติมสำหรับการใช้หากเป็น ธ.ก.ศ. ซึ่งจะจำกัดกลุ่มสินค้าเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยการผลิต เป็นต้น ตนเองไม่ต้องการความจำกัดสินค้าขนาดนั้นจึงเปลี่ยนแหล่งงบประมาณ

ส่วนเรื่องการเปลี่ยนกรอบระยะเวลา หรือกรอบระยะทาง ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีการเปลี่ยนจริง แต่ยืนยันว่า ปลายปีนี้เงินถึงมือพี่น้องประชาชนแน่นอน ยังยืนยันในกรอบเวลานี้อยู่แม้จะมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดบ้าง ทั้งสินค้าต้องห้าม แหล่งเงิน และขณะนี้เราเดินหน้ามาถึง จุดที่สามารถยืนยันได้ว่าระบบเราสามารถเสร็จได้ทัน และมีเงินเพียงพอ

การผิดกฎหมายนั้น ท่านใช้คำว่าสุ่มเสี่ยง ก็ชัดเจนว่าท่านก็รู้ว่ามันไม่ได้ผิดเป็นไปตามกรอบ และตัวเลขทั้งหมด ก็ชี้แจงแทนแล้วว่าทั้งหมดอยู่ในกรอบวินัยการคลัง และอยู่ในกระบวนการงบประมาณทั้งสิ้น ซึ่งกระบวนการที่ทำผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานราชการจำนวนมาก ก่อนที่จะเข้าสู่ ครม. และการประชุมในคณะกรรมการต่าง ๆ ก็ประชุมอย่างละเอียดรอบคอบและเป็นไปตามกรอบถึงกฎหมาย

นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่นโยบายการสงเคราะห์ประชาชน ถ้ายังเถียงกันอยู่เรื่องวิกฤตหรือไม่ ตนเองเคยยกสถานการณ์ให้ดูแล้วว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในระดับที่ดี ตั้งแต่เราเป็นรัฐบาลมาตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวชี้ชัด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากได้ วันนี้รัฐบาลใช้พี่น้องประชาชนเป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ นั่นก็คือเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ให้ถึงมือพี่น้องประชาชนและประชาชนเป็นคนใช้

เราต้องให้ความเชื่อมั่นกับประชาชน ว่าเมื่อได้เงินไปแล้ว จะใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์ กับชีวิตลงทุน หาเลี้ยงชีพตัวเอง เป็นกลไกที่เราได้กำหนดไว้ และข้อจำกัดที่มีอยู่ในรายละเอียดโครงการนี้ ไม่มีนโยบายใดของรัฐ ที่มีการประเมินเม็ดเงินสูงขนาดนี้ สิ่งที่พูดมาอาจเป็นมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ตนเองยังเชื่อมั่นว่าต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้พี่น้องลืมตาอ้าปากได้

เราตั้งงบประมาณในการขาดดุลสูงเกือบเต็มเพดาน ก็เป็นข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของกลไกทางงบประมาณ ตนเองเข้าใจว่าท่านรู้แต่ถ้าเป็นข้อสังเกต เพราะเรามีพระราชบัญญัติหลายฉบับ ที่สามารถรองรับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ มิฉะนั้น ประเทศไทยอยู่ไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง และการจัดเก็บรายได้ที่พลาดเป้า ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครเก็บได้ตรงตามเป้าถือเป็นเรื่องปกติ ฉันต้องพยามเก็บให้ได้มากที่สุด และยืนยันว่ากลไกของ พ.ร.บ. จะไม่มีหน่วยงานไหนที่จะไม่สามารถขอเบิกงบประมาณได้ในช่วงปลายปี

ข้อห่วงใยของเม็ดเงินที่ไม่มี กลไกในการทำโครงการใดก็ตาม ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบวิธีการ และกฎหมาย ถ้าบอกว่าวันนี้ไม่มีเม็ดเงินรองรับ ก็ถูกในส่วนหนึ่ง เพราะเรากำลังพิจารณาอยู่ ส่วนความเป็นห่วงเรื่องการให้ข้อมูลของรัฐบาลในการลงทะเบียนวันที่ 1 สิงหาคม ถือเป็นเรื่องเล็กมาก รัฐบาลไม่มีข้อขัดแย้งกัน และมีการพูดคุยกันตลอด แต่ท่านอาจจะรู้น้อยกว่า เพราะท่านไม่ได้อยู่ในที่ประชุม

นโยบายนี้จ่ายเงินโดยตรงกับประชาชนเพราะผูกกับบัตรประชาชน 10,000 บาทต่อหนึ่งใบเท่านั้น ดังนั้น การทุจริตของภาครัฐยังมองไม่เห็น ตนเองก็ดูอย่างละเอียด และยืนยันว่าไม่มีการทุจริต เราทำอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนการทุจริตของผู้รับเงินทางการใช้ผิดประเภท ผิดวัตถุประสงค์ หรือผิดจากกลไกที่เรากำหนด โดยในอดีตก็เคยเกิดขึ้น ซึ่งรัฐสามารถฟ้องร้องคืนได้ โดยเราไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก หากใครที่เคยทำผิด ในอดีต เราจะตัดสิทธิ์ออกทันที

ส่วนการกล่าวหาว่าทำไมต้องให้ผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไปนั้น เพราะอีก 2 ปีจะสามารถเลือกตั้งได้ ถ้ารัฐบาลคิดแบบนั้นจริงจะเลือกคนที่อายุ 14 ปี เพราะเมื่อหมดวาระ ก็จะสามารถเลือกตั้งได้เลย แต่ขอยืนยันว่า อายุเหล่านี้ เป็นช่วงวัยที่สามารถนำเงินไปใช้จ่าย และมีกลไกไปหมุนเศรษฐกิจให้เงินงบประมาณที่มอบให้ได้อย่างเหมาะสม ส่วนการไม่ให้เงินสดนั้นนั้นก็ยืนยันว่า เราไม่ได้ให้เป็นเงินคริปโต ซึ่งเราต้องสร้างระบบการแลกเปลี่ยนกลางของรัฐ

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ระบบทางรัฐคือทางเข้า ที่จะเชื่อมโยงไปบริการต่าง ๆ ที่ภาครัฐจัดสรรให้ประชาชนหนึ่งในนั้น คือระบบการแลกเปลี่ยน คือดิจิทัล วอลเล็ต ยืนยันว่า จะพลิกเปลี่ยนการใช้จ่ายของคนไทยในการแลกเปลี่ยนเงินตรา แล้วจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญให้ประชาชนใช้ต่อไป

โครงการทั้งหมดนี้ เป็นโครงการที่จะเกิดประโยชน์มหาศาล และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นทางรอดเป็นทางลัดและเป็นทางรอดของประชาชนประเทศชาติเจริญได้ด้วยกลไกนี้ รัฐบาลไม่ได้ทำนโยบายแต่เพียงข้อเดียว ซึ่งดิจิทัล วอลเล็ต เป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของพวกเรา แต่ในมิติอื่นๆ ทั้งภาคการเกษตร การดูแลราคาสินค้าเกษตรการ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ การลงทุนจากต่างชาติ การปรับการท่องเที่ยวทางเศรษฐกิจ

“อย่ามองนโยบายใดเป็นชิ้น ถ้ามองเป็นชิ้นท่านจะมองไม่เห็น ถ้าเดินเข้ามาใกล้ จ่อหน้า จะมองอะไรไม่ออก อ่านอะไรไม่เห็น ขอให้ท่านเดินกลับไปก้าวหนึ่ง และมองกลับมาในการทำงานของรัฐบาล ท่านจะเห็นว่าสิ่งที่เราทำมีทุกมิติ และนี่เป็นหนึ่งในกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต และเรามีการพัฒนาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้รองรับให้ประเทศไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาวต่อไป” นายจุลพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย

ภายหลัง "นายจุลพันธ์" ชี้แจงเสร็จ "นายพิชัย ชุณหวิชร" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอใช้สิทธิรัฐมนตรีลุกขึ้นชี้แจง และตามด้วย "นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกชี้แจงต่อ

คุณอาจสนใจ

Related News