เลขากฤษฎีกาชี้ 'ชาญ' ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันยุ่งเหยิงคดีเก่า - 'ภูมิธรรม' โดดป้อง ต้องศาลสั่งเท่านั้น

วานนี้ (2 ก.ค. 67) ที่ บริเวณหอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้กล่าวถึงคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบ ของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบ ประทับรับฟ้องคดีการทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพช่วยน้ำท่วม เมื่อปี 2554 และมีคำสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ ว่า

ถึงแม้การที่นายชาญฯ จะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้ารับตำแหน่งได้ เพราะตามจุดประสงค์ของคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา ได้ให้เหตุผลเอาไว้แล้วว่า การเข้ารับรับตำแหน่ง นายก.อบจ.ปทุมฯ ของนายชาญ นั้น ต้องหยุดลงในทุกกรณี ถึงแม้ ปปช.จะชี้มูลตั้งแต่ปี 55 มาแล้ว ตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่ง นายก.อบจ.ในสมัยนั้น

และถึงแม้ว่า จะพ้นจากตำแหน่งมาแล้วจนในครั้งนี้จะได้รับเลือกตั้งมาก็ตาม ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าไปยุ่งเหยิงกับคดีที่ผ่านมา และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ปกติ โดยที่ไม่ต้องมีใคร หรือหน่วยงานไหนไปร้องต่อศาล ให้ทางนายชาญหยุดปฏิบัติหน้าที่

----------------

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย พูดถึงกรณีของคุณชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ก็บอกว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และส่งเรื่องต่อศาลตั้งแต่ปี 2555 โดยศาลประทับรับฟ้องไปแล้ว ซึ่งตอนนั้น คุณชาญได้พ้นตำแหน่งไปแล้ว ไม่ได้มีคำสั่งอะไรออกมา ก็ถือว่าจบไป

ส่วน ความเห็นของกฤษฎีกา คิดว่าเป็นข้อคิดเห็นทางกฎหมาย แต่มองว่าคุณชาญจะหยุดหรือไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องเป็นคำสั่งศาลเท่านั้น ไม่ได้เป็นไปตามอัตโนมัติอย่างที่กังวลใจกัน

ที่เป็นปัญหาของประเทศไทยคือคนจินตนาการไปก่อนที่ศาลจะตัดสิน

----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/jkC-di_kLJc