คปท.-เครือข่าย บุกรพ.ตร. จี้ถามอาการ 'ทักษิณ' จับตาวันปล่อยตัวจะออกมาสภาพใด

ความเคลื่อนไหวกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า นายทักษิณ น่าจะได้รับการพักโทษ เเละออกจากสถานที่คุมขังได้ตั้งเเต่หลังเที่ยงคืน วันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้



ล่าสุด รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากถูกปล่อยตัวเเล้ว ก็สามารถกลับไปอยู่ในสังคมหรือไปอยู่ที่บ้านได้ และไม่จำเป็นต้องใส่กำไล EM เพราะมีอายุเกิน 70 ปี ขณะที่กลุ่มคปท. และเครือข่าย รวมตัวกันมาที่โรงพยาบาลตำรวจ พยายามเจรจาขอขึ้นไปบนชั้น 14 เเละสอบถามอาการของ"นายทักษิณ" หลังมีรายชื่อเสนอให้พักโทษ



เมื่อช่วง 10.00 น .วันนี้ (14 ก.พ. 67) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ร่วมกับ กลุ่มกองทัพธรรม และ ศปปส. เคลื่อนขบวนจากเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล มาที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ โดยจัดขบวนนำโดยรถมอเตอร์ไซค์ ตามด้วยรถเครื่องเสียง



แกนนำเครือข่าย ระบุว่า ที่เดินทางมาวันนี้ ต้องการจะขอขึ้นไปบนชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา เพื่อขอพูดคุยกับนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เเละสอบถามอาการป่วยของ"นายทักษิณ ชินวัตร"ว่าเป็นอย่างไร พร้อมจะออกจากโรงพยาบาลหรือไม่ หลังทราบว่า"นายทักษิณ" อยู่ในรายชื่อที่คณะอนุกรรมการพักโทษพิจารณาเสนอ เพราะเข้าเกณฑ์เจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรืออายุ 70 ปีขึ้นไป



นอกจากนี้ยังนำกล้องวงจรปิด 5 ตัว มามอบให้โรงพยาบาลตำรวจด้วย หลังเคยมีข่าวว่า กล้องเสีย-ใช้งานไม่ได้ นายใจเพชร กล้าจน แกนนำกลุ่มกองทัพธรรม บอกว่า กล้องที่นำมามอบให้โรงพยาบาลตำรวจวันนี้ ขอให้เอาไปติดให้ครอบคลุมพื้นที่บริเวณชั้น 14 และจากนี้ทางเครือข่ายจะขอจับตาดูว่า ในวันที่"นายทักษิณ"จะออกจากโรงพยาบาล จะมีสภาพอย่างไร



จากนั้นในช่วงเที่ยง ตัวแทนกลุ่ม คปท. กลุ่มกองทัพธรรม และ ศปปส. รวม 4 คน ได้เข้าไปพูดคุยกับตัวแทน นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ประสานงาน ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง



นายพิชิต เปิดเผยว่า เเพทย์ไม่อนุญาตให้ขึ้นชั้น 14 เเกนนำจึงถามถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ซึ่งทางแพทย์ได้ชี้แจงว่า อาการป่วยของเป็นแบบขึ้น ๆ ลง ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดี และมีช่วงที่วิกฤตบ้าง โดยส่วนตัวฟังแล้วไม่ค่อยเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้กรมราชทัณฑ์เคยชี้แจงว่า นายทักษิณหายจากอาการป่วยแล้ว แต่อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง



นายพิชิต ยืนยันว่า วันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ จะหารือกันเรื่องการล่ารายชื่อให้ ป.ป.ช. ไต่สวนข้าราชการที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กรณีนำตัวนายทักษิณออกมารักษาตัว เพราะทางเครือข่ายมองว่า ตั้งแต่นายทักษิณ กลับมา ยังไม่เคยได้รับการลงโทษ เพราะถูกพาออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรก ท่ามกลางข้อสังเกตจากสังคมว่าป่วยจริงหรือไม่



ส่วนความคืบหน้ากรณีพักโทษ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกถึงแนวทางการพักโทษของ นายทักษิณ ชินวัตร ตามหลักการคือ เมื่อรับโทษมาแล้วครึ่งปี ก็เท่ากับ 6 เดือน คือ ให้นำ 30 วันไปคูณ ก็นับไปว่าครบ 6 เดือนวันไหน และวันถัดไปหลังจากวันที่ครบ 6 เดือน ก็คือวันปล่อย ถ้าได้รับการพักโทษ หากติดวันเสาร์-อาทิตย์ สถานที่คุมขังบางที่ หากมีการประสานกับคุมประพฤติไว้ก่อนแล้ว ก็สามารถปล่อยตัวในวันเสาร์-อาทิตย์ได้เลย แต่ถ้าหากคุมประพฤติยังไม่พร้อม ก็อาจจะต้องรอปล่อยตัวในวันปกติ



นายสหการณ์ บอกด้วยว่า ในการพักโทษไม่จำเป็นต้องรายงานต่อศาล เพราะผู้ต้องขัง ยังอยู่ในคำพิพากษาของศาลและกรมราชทัณฑ์ ก็ยังคงปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ไม่ต้องขอหมายปล่อยจากศาล แต่เป็นการพักโทษในรูปแบบที่ ไม่ต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำ สามารถกลับไปอยู่ในสังคมหรือไปอยู่ที่บ้านได้ และไม่จำเป็นต้องใส่กำไล EM เพราะมีอายุเกิน 70 ปี ซึ่งเป็นไปตามมติของกรรมการที่มีมาก่อนหน้านี้



ทีมข่าวการเมืองของช่อง 3 ได้ลองคำนวณจากวันที่"นายทักษิณ"เดินทางกลับไทย คือ 22 สิงหาคม 2566 และจะครบ 180 วัน ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เท่ากับว่าหลังเที่ยงคืนของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ จะได้รับการพักโทษ และสามารถเดินทางกลับบ้านได้ทันที หากถามว่า"ทำไมถึงไม่ใช่วันที่ 22 กุมภาพันธ์" เพราะการนับวันตามศาล 1 เดือนจะนับแค่ 30 วัน เดือนไหนมี 31 วัน จะตัดเป็นเดือนใหม่ นั่นเท่ากับว่าเหลืออีกเพียง 4 วัน นาย ทักษิณ ก็น่าจะได้รับการพักโทษ



เเต่ก็มีคำถามต่อว่า เเล้วกรณีที่อัยการสูงสุดกำลังพิจารณาสำนวนคดี ม.112 และ บก.ปอท.ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดี จะอายัดตัว"นายทักษิณ"ต่อเลยหรือไม่ ทีมข่าวอาชญากรรม โทรศัพท์ไปสอบถาม"นายประยุทธ เพชรคุณ" โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ถึงประเด็นที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "หากมีการพักโทษ พนักงานสอบสวนจะอายัดตัวไว้ และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ โดยการขออำนาจศาลฝากขัง" นายประยุทธ ตอบนักข่าวสั้น ๆ ว่า "ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เเละขอให้รอก่อน"