สังคม
เพื่อไทย-ก้าวไกล จี้กกต.รับผิดชอบเลือกตั้งล่วงหน้าวุ่น ปัญหาเพียบ ส่อโกง
โดย panwilai_c
8 พ.ค. 2566
117 views
พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล แถลงเรียกร้องกกต.แสดงความรับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่พบข้อผิดพลาดหลายจุด อาจทำให้เกิดการร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ ในขณะที่ กกต.ยืนยันว่า มีระบบตรวจสอบซองบัตรเลือกตั้งที่อาจกรอกรหัสเขตเลือกตั้งผิด ซึ่งในขั้นตอนการคัดแยกที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่จะมีเจ้าหน้าที่วินิจฉัยส่งบัตรไปยังเขตเลือกตั้งที่ถูกต้องแน่นอน
บัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง จากทั่วประเทศ ทยอยเดินทางมาถึงที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย
นำสื่อมวลชนสังเกตุการณ์การคัดแยกซองบัตรเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง ซึ่งเลขาธิการ กกต.เปิดเผยว่า มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง มากถึง 91.83% โดยแบ่งเป็นการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขต 2,014,903 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 2,235,830 คน คิดเป็น 91.83% และลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต 57,362 คนจากจำนวน 67,086 คนคิดเป็น 94.37%
ซึ่งการคัดแยกบัตรเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง เมื่อมาถึงจะมีคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ติดตามการคัดแยกบัตรไปยัง 400 เขตเลือกตั้ง มีกล้อง cctv มากกว่า 25 ตัว และมีจอ dashboard ในการติดตามการคัดแยก ตลอด 24 ชั่วโมง โดยบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต เมื่อมาถึงแล้วจะคัดแยกให้เสร็จภายในวันที่ 10 พ.ค และจะส่งไปยังเขตเลือกตั้งในวันที่ 11-12 พ.ค. เพื่อนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.
สำหรับขั้นตอนการคัดแยกซองใส่บัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ทางบริษัทไปรษณีย์ไทย จะมีการใช้ถุงสีฟ้าในการคัดแยกซองใส่บัตรเลือกตั้งใหม่ และทำการเช็คยอดโดยนับจำนวน 3 รอบว่าจำนวนซองใส่บัตรถูกต้องตามบัญชีต้นขั้วของ กกต.หรือไม่ เสร็จแล้วจึงเรียงใส่กระบะ บรรจุลงถุงแยกตาม 400 เขต ที่มีการเฝ้าระวังติดตาม ขนส่งไปยังเขตเลือกตั้งทั่วไประเทศ และโดยรถไปรษณีย์จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยในทุกเส้นทาง จึงมั่นใจได้ว่าจำนวนบัตรจะถูกต้องไม่ล่องหน
เลขาธิการ กกต.ยอมรับว่า ปัญหาที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ไม่ได้กรอกรหัสเขตเลือกตั้ง ทางเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการคัดแยกบัตรจะมีการวินิจฉัยให้ครบถ้วน เชื่อว่าจะไม่มีซองที่ไม่ได้กรอกข้อมูลอะไรเลย เพราะก่อนจัดส่งจะมีการตรวจสอบกับตั้นขั้วที่หน่วยเลือกตั้ง ยืนยันว่าจะรักษาทุกคะแนนเสียงของประชาชนไว้อย่างครบถ้วน
สำหรับกรุงเทพมหานคร ที่มีประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง มากที่สุดถึง 811,156 คน พบว่า มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 744,687 คน คิดเป็น 91.81% ในส่วนของที่เลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการ ทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ จำนวนผู้ลงทะเบียน 212 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 208 คน คิดเป็น 98.11% ซึ่งมากกว่าการเลือกตั้งในปี 2562 ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหวังว่าจะเป็นสัญญานที่ดีในการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม
ซึ่งทาง กกท.จะถอดบทเรียนปัญหาเรื่องหน่วยเลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยเฉพาะการปฏิบัติงานขฦองเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเลือกตั้ง ที่พบกรอกรหัสเขตเลือกตั้งผิด ที่เขตห้วยขวางและที่เขตดินแดง ได้มีการแก้ไขแล้ว รวมถึงการติดตามกล้อง CCTV เก็บบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในแต่ละเขตเลือกตั้ง ประชาชนสามารถมอติเตอร์และร้องเรียนได้ ซึ่งจะมี 3 เขต ที่ไม่มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต คือหนองจอก มีนบุรี สะพานสูง
ขณะที่พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบการจัดการเลืกตั้งล่วงหน้าที่พบความผิดปกติใน 4 รูปแบบสำคัญ เช่นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไม่กรอกข้อมูลหน้าซองให้ครบถ้วน กกต.ไม่ติดรูปภาพและข้อมูลผู้สมัครหน้าหน่วย เช่นเขตเลือกตั้งที่ 1-2 จ.น่าน ไม่มีใบแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล
มีการลงทะเบียนล่วงหน้ามากผิดปกติ ที่จังหวัดขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ และจังหวัดอื่นๆ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีความจำเป็นต้องเลือกตั้งล่วงหน้า และเหตุใดต้องใช้รถขนคนจำนวนมาก ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการซื้อเสียงเพื่อการเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ และกรณีมีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า แต่ไม่มีชื่อในระบบของการเลือกตั้ง
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย แถลงข้อร้องเรียนจากประชาชนที่พบในวันเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งเรื่องจ่าหน้าซองผิดพลาด อาจส่งผลให้มีการร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ได้ รวมถึงกรณีประชาชนจำนวนมาก ลงทะเบียนไม่ได้เพราะระบบออนไลน์ล่มทำให้อาจไม่ได้ไปใช้สิทธิในวันที่ 14 พฤษภาคม กกต.จึงต้องรับผิดชอบ
พลตำรวจตรีสุรสิทธิ์ สังขพงศ์ หัวหน้าศูนย์ป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย เปิดเผยด้วยว่า ได้รับข้อมูลการร้องเรียนจากประชาชน ได้รับการร้องเรียน
พบเหตุผิดปกติส่อทุจริต เช่น นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ จังหวัดอำนาจเจริญ คนสนิทเจ้าแม่เงินกู้ มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง ข่มขู่ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคอื่น และกรณีข้าราชการระดับสูงฝ่ายปกครองอำเภอหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส และอำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง จึงขอให้กกต.ตรวจสอบด้วย