เปิดเครือข่ายผลประโยชน์ “ปืนสวัสดิการ” ใช้เงินเบิกทางเอกสารราชการ

ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเครือข่ายผลประโยชน์ ในขบวนการจัดซื้อปืนสวัสดิการ พบใช้เงินเบิกทางงานเอกสารราชการทุกขั้นตอน จนถึงมือนายอำเภอ

ปฏิบัติการทลายเครือข่ายเบล 1,000 กระบอก ทำให้ได้เห็นถึงปัญหาปืนสวัสดิการ ล้นประเทศ มีการออกใบอนุญาตซื้อหรือใบ ป.3 เป็นจำนวนมาก มีผู้ได้รับผลประโยชน์ เป็นนายทุน เจ้าหน้าที่รัฐ และร้านปืน แต่เมื่อมีการออกใบอนุญาตเท็จจำนวนมาก จะส่งผลเสียต่อสังคมโดยรวม เพราะปืนหาง่าย คดีความรุนแรงจะเพิ่มมากขึ้นไป

เครือข่ายนายดนุพล หรือเบล ที่มีการนำเอกสารเท็จไปขอใบอนุญาตซื้อปืนมากกว่า 2,000 ใบ ซื้อปืนสวัสดิการได้ 2,000 กระบอก จากแผนผังจะเห็นว่าขบวนการนี้ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน โดยนายดนุพล จะสั่งผ่านนายญาณเดช ให้ค่าตอบแทน 6,000 บาทต่อ 1 ใบอนุญาต นายญาณเดช จะติดต่อไปยัง น.ส.กรณิช หน้าห้องของอดีตนายอำเภอไทรโยค ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน 700 บาทต่อ 1 ใบอนุญาต และ นส.กรณิช จะให้นายสาวิตร อดีตนายอำเภอไทรโยค เซ็นต์ใบ ป. โดยจ่าย 2,000 บาทต่อ 1 ใบ

เมื่อได้ใบอนุญาตซื้อปืน หรือใบ ป.3 มาแล้ว นายญาณเดช จะไปซื้อปืนที่ร้านตามนายเบลสั่ง หรือนำไปให้ทีมลูกน้องนายเบลไปซื้อเอง โดยราคาปืนสวัสดิการราคา 3-4 หมื่นบาท แต่นายเบลนำมาขายราคา 80,000-100,000 บาท จะได้กำไรจากการขายปืนในตลาดมีด หรือส่งขายไปประเทศเพื่อนบ้านกระบอกละ 40,000-50,000 บาท

ส่วนที่ อ.ศรีราชา จะพบการบัตรประชาชนมาสวมสิทธิไปขอใบอนุญาต โดยทั้งสองอำเภอ ไม่มีผู้ขอใบอนุญาตเดินทางไปขอด้วยตัวเอง มีการปลอมลายเซนต์ผู้ขอใบอนุญาต นับเป็นการออกเอกสารเท็จ เมื่อนายอำเภอออกใบอนุญาตซื้อให้มาก เครือข่ายนี้จึงได้กำไรมหาศาล

ผลประโยชน์ตกอยู่ในเครือข่ายกลุ่มผู้ต้องหา ที่แบ่งเป็น 4 กลุ่ม เป็นกลุ่มนายทุน กลุ่มจัดหาคนทำใบ ป.3 ได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มร้านปืน แต่ผลเสียกลับตกอยู่กับส่วนรวม เกิดคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกันรายวัน คดีอุกฉกรรจ์เกิดขึ้น โดยคนร้ายมีปืนประสิทธิดีเทียบเท่าหรือดีกว่าเจ้าหน้าที่ และสืบหาตัวคนร้ายได้ยาก

ผู้ต้องหาทั้ง 16 คน ถูกนำส่งฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในคดีร่วมกันฟอกเงิน ส่วนนายอำเภอผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ