สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 22 เม.ย.65 บิ๊กป้อมปัดเจอทักษิณ - 4 พ่อแม่ลูกยังไม่ปรากฏตัว - มอบ 3 แสน รปภ.แจ้งเจอแมว

โดย thichaphat_d

22 เม.ย. 2565

41 views

-ตำรวจตรวจบ้านของครอบครัว 4 ชีวิต ที่หายตัวปริศนา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าทั้งหมดปลอดภัย แต่ยังไม่ปรากฏตัว ด้าน ลูกสาวคนโต ยังร่ำไห้ยืนยัน พ่อแม่ยังไม่ติดต่อมาหาเลย ด้านเพื่อนสนิทยันติดต่อได้แล้ว ที่หายไปเพราะหนีหนี้ ขณะที่ พ่อยันไม่เคยรู้เรื่องหนี้สิน วอนลูกชายพาครอบครัวกลับบ้าน

-ลูกชายดีเจแหบเสน่ห์ วิทยา ศุภพรโอภาส ลั่นครอบครัวติดใจสาเหตุการตาย ยันไม่ได้เสียชีวิตจากมะเร็ง แต่มาจากความผิดพลาดในการช่วยชีวิต ของโรงพยาบาลดัง เตรียมแถลงข่าวที่วัด พร้อมทนาย เสาร์นี้

-เจ้าของแมวน้องมณี มอบเงินสด 3 แสนบาท ให้ รปภ.หนุ่มวัย 18 แจ้งเบาะแสเป็นคนแรก จนพบแมว รปภ.เผยแม่ชื่อ “มณี” เหมือนแมวตัวนี้ เตรียมนำเงินรางวัลบางส่วนไปทำบุญ ส่วน “น้องมณี” ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ พบเชื้อราที่หลัง แผลที่คาง และขนร่วงจำนวนมาก

-คลิปว่อนเน็ต! พระสงฆ์ พ่นไฟ – เป่าหอยสังฆ์ กลางพิธีกรรม โยมแม่ อ้าง เป็นงานไหว้ครูปู่ฤๅษีตาไฟที่พระนับถือ หวังเสริมบารมีแลสิริมงคลให้ลูกศิษย์ ทำมานาน 10 กว่าปีแล้ว ด้าน สำนักพุทธขอนแก่น เตรียมลงพื้นที่สอบ ชี้ดูคลิปแล้วไม่เหมาะสม เข้าข่ายอวดอุตริ

-หนุ่มคลั่งเดินรำขวาน ถือมีดเหวี่ยงไปมา กลางตลาดสดท่ายางเมืองคอน ทำแม่ค้าผวาหวั่นถูกทำร้าย รีบแจ้งตำรวจจับ เจ้าตัวอ้างทำไปเพื่อขู่หมา กลัวโดนกัด ญาติเผยป่วยทางจิต ปกติให้อยู่ในบ้าน แต่กลัวเครียด เลยปล่อยให้ออกมาเดินเล่นแต่ดันมาโผล่ก่อเรื่องที่นี่

-โดนอีกคดี ศาลมุกดาหารพิพากษา จำคุก ลุงพล 2 ปี 3 เดือน ปรับ 45,000 บาท รอลงโทษ 2 ปี บุกรุกป่าสร้างวังพญานาค พร้อมสั่งให้รื้อ ใน 30 วัน ส่วน 2 ยูทูบเบอร์ โดนคุก 1 ปีปรับ 2 หมื่น รอลงโทษ 2 ปี

-หมาก ปริญ ทำเซอร์ไพร์สขอแต่งงานคิมเบอร์ลี่ พร้อมสวมแหวนเพชรเม็ดโตที่นิ้วนางให้กับแฟนสาว ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ที่สวิตเซอร์แลนด์ มีเพื่อนพ้องวงการบันเทิง และแฟนคลับร่วมแสดงความยินดีใน IG

-อั้นไม่ไหว สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ดีเดย์วันนี้ขึ้นราคาไข่คละหน้าฟาร์ม 10 สตางค์ต่อฟอง หรือ 3 บาทต่อแผง หลังต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งไม่หยุด ด้านสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ เตรียมขึ้นค่าขนส่ง 20% 1 พฤษภาคมนี้ หลังรัฐจะเลิกตรึงราคาน้ำมันดีลเซลที่ 30 บาทต่อลิตร



เรื่องเล่าการเมือง

-หลังเงียบหายไปตลอดช่วงสัปดาห์ ซึ่งมีรายงานว่าเดินทางไปต่างประเทศ เมื่อวานนี้มีความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยยืนยันว่าไม่ได้ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามกระแสข่าว

พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ถึงกรณีการเดินทางไปต่างประเทศ พร้อมมีกระแสข่าวไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “ไม่ได้ไปพบ อยู่คนละประเทศ ดังนั้นจะไปเจอกันได้อย่างไร พร้อมระบุตน ไม่เคยเจอหน้า ไม่เคยคุยกันเลย ตั้งแต่ปี 2548 แล้ว”

พร้อมกล่าวด้วยว่า ตนไม่ได้ไปประเทศอังกฤษด้วย แต่ลาไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลเท่านั้น ยืนยันไม่ได้ไปไหนเลย

อย่างไรก็ตาม ถ้าย้อนไปในวันประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในวันนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายกรัฐมนตรี กรณีที่ พล.อ.ประวิตร ลาประชุม โดยมีรายงานข่าวว่าเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ ซึ่งนายกฯ ระบุว่า “ไม่ได้ไปพักผ่อน แต่ท่านไปทำงาน” คือ ท่านนายกฯก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่อง พล.อ.ประวิตร เดินทางไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร ที่ออกมาปฏิเสธเรื่องเดินทางไปพบนายทักษิณ เกิดขึ้นหลังมีประเด็นจากที่ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ ช่วงหนึ่งบอกว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร และ สอบถามว่า เดินทางไปต่างประเทศได้เจอกับนายทักษิณ จริงหรือไม่

ซึ่ง พล.อ.ประวิตร นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนตอบว่า “เขาฝากความคิดถึงแกด้วย” ซึ่งท่านพูดแบบนั้นตนก็รู้ว่าไม่จริง เพราะตนไม่ได้คุ้นเคยกับนายทักษิณ และ พล.อ.ประวิตร ยังถามตนว่า เป็นผู้สื่อข่าวสำนักไหน ถามเหมือนเป็นนักข่าว แสดงว่า “ท่านอำเล่น ไม่ได้ไปพบคุณทักษิณจริงๆ แค่หยอกล้อเล่นๆ เท่านั้น”



-นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องความพร้อมต่างๆของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับงานสภา และยังได้เรื่องอื่นๆด้วย

หนึ่งในนั้นคือเรื่อง มิลลิ-ดนุภา ธนาธีรกุล ที่เพิ่งไปขึ้นเวทีคอนเสิร์ตระดับโลกที่สหรัฐอเมริกา

โดยนายนิโรธ เล่าว่า คุยกับนายกฯ ถึงน้องมิลลิ ว่ากำลังเป็นที่กล่าวขวัญ และถามว่าท่านนายกฯ เห็นเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งท่านนายกฯ ก็บอกว่ารู้สึกดี เห็นน้องโปรโมทให้ประเทศด้วย ซึ่งนายนิโรธ ก็ยังได้ถามนายกฯว่าน้องมิลลิเคยออกมา Call Out รัฐบาล ซึ่งนายกฯบอกด้วยว่า แสดงว่าน้องคงเห็นข้อผิดพลาดของนายกฯ แต่นายกฯอาจจะไม่เห็นเพราะงานเยอะ และบอกว่าต่อไปถ้าใครติติง จะต้องมาทบทวนดูข้อผิดพลาดของตัวเอง



-ศึกนางงาม ระหว่างมิสแกรนด์ กับ เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์ ที่มีดีกรีอดีตนางงามมิตรภาพในเวทีประกวดนางสาวไทย ล่าสุดปารีณาประกาศจะฟ้องมิสแกรนด์ หลังโดนแร็ปฟาดใส่

โดยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวการเมืองของเราว่า ดูคลิปที่ พราด้า-ธันย์สิตา ดิลกอนันต์สกุล มิสแกรนด์กาญจนบุรี แร็ปแล้ว รู้สึกว่าเป็นการดูถูก ดูหมิ่น ด้อยค่าความเป็นมนุษย์ จึงเตรียมฟ้องดำเนินคดีกับนางงามรุ่นน้อง

และถามว่าน้องออกมาเอง หรือมีใครใช้ให้ออกมา อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร เพราะเวลาถูกดำเนินคดี น้องต้องรับผิดชอบเอง

ย้อนเรื่องนิดนึง กรณีมีต้นเรื่องมาจาก น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี ไปยื่นหนังสือถึงกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร้องเรียนการจัดการประกวดนางงามเวที มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ที่มีการประกวดรอบชุดว่ายน้ำส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย เนื่องจากมีชุดวาบหวิว เนื้อผ้าบาง จนอาจสามารถเห็นอวัยวะที่สำคัญของผู้หญิง

ทำให้มิสแกรนด์กาญจนบุรี ออกมาตอบโต้กลับอย่างดุเดือด หลังจากนั้นเธอยังโพสต์คลิปแร็ป ฟาดใส่นางงามรุ่นพี่อย่างแรง



-กรณี กกต. ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ในคดีแจกใบส้ม ให้กับผู้ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 เมื่อปี 2562 และศาลชั้นต้นสั่งให้ชดใช้มากถึง70 ล้านบาท พบว่า ส่วนใหญ่เป็นค่าเสื่อมเสียชื่อเสียง ถึง 50 ล้านบาท

คดีนี้ นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่เขต 8 พรรคเพื่อไทย ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก กกต. หลังถูก กกต.สั่งระงับการเลือกตั้งหรือให้ใบส้ม และดำเนินคดีอาญา จากกรณีที่นายสุรพล มอบเงินทำบุญวันเกิดให้กับพระสงฆ์ 2000บาท กับนาฬิกาแขวนผนัง 1 เรือน ระหว่างการเลือกตั้ง จนต้องมีการเลือกตั้งใหม่ และเสียสิทธิไม่ได้เป็น ส.ส. ก่อนที่ในเวลาต่อมาศาลฎีกายกคำร้อง ของ กกต. เพราะฟังไม่ได้ว่าการทำบุญของนายสุรพล เป็นการซื้อเสียง

ทีมข่าวการเมืองได้ตรวจสอบรายละเอียดตามคำพิพากษา ล่าสุดพบว่า สาเหตุที่ กกต.ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ถึง 70 ล้านบาท เป็นเพราะศาลเห็นว่า กกต. มีการวินิจฉัยที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ไม่รับฟังข้อเท็จจริงให้ถี่ถ้วนรอบคอบ และใช้อำนาจที่ไม่ชอบ ลงโทษเกินกว่าเหตุ ทำให้นายสุรพล ได้รับความเสียหาย จนไม่ได้เป็น ส.ส.

และจากค่าเสียหายที่ กกต. ต้องชดใช้ ส่วนใหญ่ศาลได้พิจารณา จากประสบการณ์ชีวิต เกียรติยศ และศักดิ์ศรี ที่นายสุรพล ขอคิดค่าเสียหาย นับตั้งแต่ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรก ในปี 2535 เป็นต้นมา รวมเป็น ส.ส.แล้ว 8 สมัย

ซึ่งศาลคำนวณเป็นเงินค่าเสียหายอัตราวันละ 5,000 บาท เป็นเวลา 30ปี รวมเป็นเงิน ถึง 54 ล้านบาท แต่ในส่วนนี้ นายสุรพล ยื่นร้องเรียกค่าเสียหายส่วนนี้ไว้เพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีค่าเสียหายจากการเสียโอกาสไม่ได้เป็น ส.ส. ทั้งที่ชนะเลือกตั้ง โดยศาลคิดเป็น เงินเดือน ส.ส.ที่ควรได้รับเดือนละ 113,560 บาท เป็นเวลา 3 ปี รวม4,088,160 บาท ด้วย

รวมทั้ง ยังมีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 อีก 1,060,523 บาท และค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี ที่ถูก กกต. ฟ้องร้อง 9,000,000 บาทด้วย รวมเป็นค่าเสียหายที่ต้องชำระ 64,148,683 บาท ยังไม่รวมดอกเบี้ยอีกราว 5 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า กกต. จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไปหรือไม่ และยังไม่มีการชี้แจงถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น



-กลายเป็นดรามาต่อเนื่อง สำหรับนางจุรีพร สินธุไพร ก่อนหน้ามีประเด็นเรื่องคลิปเสียงล็อตเตอรี ล่าสุดงานเข้าอีก หลังมีกรณีรับรองเท้าแบรนด์เนมเกิน 3 พันบาท ตามกฎหมายของป.ป.ช.

เรื่องนี้ต่อเนื่องหลังนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเมื่อวันก่อน ชี้แจงกรณีคลิปเสียงการสนทนากับ แรมโบ้-เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้รัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการวางแผนดิสเครดิตทางการเมือง จากคนที่พยายามเข้าหา และเคยมอบรองเท้าแบรนด์เนมยี่ห้อดัง 2 คู่ทั้งที่ไม่รู้จักกัน จนมาเกิดกรณีคลิปเสียงขึ้น จึงนึกย้อนหลังได้ว่าเป็นความผิดปกติ

สุดท้ายกลายเป็นงานเข้าอีก โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้ว่าเรื่องนี้ เข้าข่ายการรับทรัพย์สินเกิน 3 พันบาท ตามกฎหมายของป.ป.ช.

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายของรัฐบาล พูดถึงประเด็นนี้ ก็มองว่าสามัญสำนึกควรจะเข้าใจได้ ซึ่งท่านก็แนะนำว่า ควรส่งคืนให้หน่วยงานต้นสังกัด จะถือว่าไม่เป็นความผิด และบอกว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ทราบรายละเอียด

ส่วนนางจุรีพร ชี้แจงว่า รองเท้าทั้ง 2 คู่ ตนทราบจากแม่บ้าน ว่ามีคนมาฝากไว้ ซึ่งเก็บอยู่ในกล่อง ไม่เคยหยิบมาใช้งาน จึงไม่รู้ว่าราคาจะแพงหรือไม่แพงอย่างไร แต่ก็เตรียมนำของดังกล่าวส่งคืนต้นสังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในวันนี้



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_0JemFSmdYA

คุณอาจสนใจ

Related News