คลิปเต็มรายการ

'รุ่นพี่รับน้องโหด' แจงยิบ มีดดาบที่เจอเอาไว้ถางหญ้า ขอโทษทำร้าย 'พ่อ-รุ่นน้อง' วอนสังคมเข้าใจ

โดย JitrarutP

19 ส.ค. 2567

697 views

วันที่ 19 ส.ค. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ เติ้ล รุ่นน้องที่ถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมด้วย พ่อ และ แม่, กัน จอมพลัง ผู้ประสานงาน และทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ถึงกรณี รุ่นพี่รับน้องโหด ทำร้าย พ่อ-รุ่นน้อง คามหาวิทยาลัย โดยในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ ได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ “เพชร” หนึ่งในรุ่นพี่สถาบัน และ สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ถึงกรณีที่เกิดขึ้น


โดย เติ้ล รุ่นน้องผู้เสียหาย ได้เล่าว่าตนโดนพวกรุ่นพี่หาเรื่องและโดนทำร้าย สั่งให้ใช้หัวปักพื้น ที่ป่ารกร้างแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในสถานศึกษา ตอนนั้นมีคนโดนด้วยหลายคน ทางมหาวิทยาลัยไม่รู้ว่ารุ่นพี่แอบทำแอบจัดกิจกรรมรับน้อง เช่น ฝึกคำพูดถ้าใครพูดไม่เพราะก็จะลงโทษด้วยการเอาสเปรย์จุดไฟเผาอวัยวะเพศ ถอนขนคิ้ว เป็นต้น ถ้าทำอะไรผิดหรือขัดใจก็จะโดนเรียกให้ไปรับโทษ หรือถ้าพูดอะไรไม่ถูกใจหรือไม่สุภาพจะโดนเหมือนกัน แล้วยังสั่งว่าห้ามยุ่งกับเพื่อนต่างสถาบันด้วย แต่ตนมีเพื่อนต่างสถาบันแล้วพวกรุ่นพี่รู้เข้าจึงทำให้โดนรุ่นพี่มาทำร้าย พร้อมยึดบัตรประชาชนและมือถือไป ก่อนกล่าวหาว่าเอาความลับในสถาบันไปบอกกับเพื่อน ตนบอกปฏิเสธไปแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อเลย แล้วยังจะบุกมาที่บ้านด้วย และหลังจากที่เกิดเรื่องแล้วมันดังขึ้นมาพวกรุ่นพี่ก็สั่งให้เพื่อนร่วมรุ่นลบเพื่อนออกให้เลิกเป็นเพื่อนกับตน

ด้านแม่ผู้เสียหายได้ เล่าว่า ตอนแรกที่ลูกมาเล่าเรื่องที่โดนทำร้ายให้ฟังก็ไม่เชื่อลูก โทรหารุ่นพี่ไปฝ่ายนั้นก็บอกว่าอย่าไปเชื่อลูกเพราะลูกนั้นพูดไม่จริง ก็เลยถามลูกอีกลูกก็ยืนยันว่าโดนทำร้ายจริงๆ ก็เลยเชื่อแล้วไปบอกกับสามี

และพ่อผู้เสียหาย ได้เล่าในมุมของตนว่า หลังจากรู้เรื่องว่าลูกโดนทำร้ายด้วยความโมโหก็เลยโทรไปคุยกับพวกรุ่นพี่และมีปากเสียงกัน จนวันที่ไปทำเรื่องย้ายลูกที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องต่ออีก หลังจากที่ทำเรื่องเสร็จก็ลงมาจากอาคารกับอาจารย์ ก็มีพวกรุ่นพี่ดักอยู่ แล้วเข้ามารุมกระทืบพ่อ ตอนโดนกระทืบไม่มีใครมาช่วยเลยทั้งๆ ที่ ครูผู้ชายก็ยืนมองอยู่ หลังจากที่โดนทำร้ายแล้วก็ไม่ได้มีการคุยอะไรอีก

กัน จอมพลัง ได้เล่าว่าทราบเรื่องนี้ มาเพราะเรื่องที่ผู้เสียหายนั้นกำลังหนีออกจากโรงพยาบาลจึงเข้ามาช่วย ส่วนกลุ่มคนพวกนี้ที่ก่อเหตุตอนนี้ทางสถานศึกษาได้ไล่ออกไปแล้ว เรื่องบัตรประชาชนของผู้เสียหาย ถ้าสอบแล้วเจอจะโดนคดีหนัก แล้วข้อมูลที่ครูบอกว่าบัตรประชาชนผู้เสียหายอยู่กับครูเพราะเด็กไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนไปจึงยึด แนะนำให้ครอบครัวแจ้งความจับ  เรื่องที่พวกรุ่นพี่ทำนั้นมันไม่ถูกต้องและไม่มีใครเห็นด้วยในสิ่งที่พวกรุ่นพี่ทำ

ด้าน ทนายแก้ว ดร. มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมาเห็นว่าการกระทำของพวกวัยรุ่นที่กระทำความรุนแรงนั้นชัดเจน ทั้งทำร้ายร่างกาย ลักทรัพย์ และซ่องโจร ในกรณีนี้กฎหมายคนกระทำรับผิดของคนกระทำ และคนใช้ทรัพย์รับผิดของผู้ใช้ทรัพย์ รับโทษเหมือนกัน และความผิดของโรงเรียนสามารถไปร้องเรียนได้เพราะความผิดนั้น ร้ายแรงจนสามารถสั่งปิดสถานศึกษาได้ พร้อมแนะนำให้แจ้งความเพราะคดีนี้เป็นอาญาแผ่นดิน ใครที่ร่วมกระทำคดีนี้จะมีความผิดด้วยทั้งหมด

และในช่วงออนไลน์ได้โฟนอินกับ เพชร หนึ่งในรุ่นพี่คู่กรณี อ้างว่า วันที่เกิดเรื่องนั้นพวกตนรู้สึกโมโหที่โดนพ่อของรุ่นน้องหาเรื่องจึงทำให้เกิดความรุนแรง เรื่องห้ามคบเพื่อนเองก็ไม่ได้ห้าม แค่ห้ามไม่ให้เอาเรื่องคนในไปพูด บัตรประชาชนของรุ่นน้องก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใคร เรื่องมีดที่ในข่าวบอกว่าสั่งให้พบไปทุกคนก็แค่บอกว่าเพื่อความปลอดภัยของน้องเอง  ยังไม่เคยพาไปตีกับใคร ที่รับน้องไม่มีรุ่นน้องผู้หญิงเข้าร่วมกิจกรรม ที่เติ้ลกล่าวอ้างว่ามีการแก้ผ้าปิดตา และที่ไม่อยากมาออกรายการเพราะกลัวทำเสียรูปคดี อยากร้องขอให้สื่อออกข่าวให้สังคมรู้บ้างว่าเรื่องที่ไปเผารุ่นน้องไม่เคยทำ เรื่องดึงขนคิ้วมีจริง การรับน้องเป็นความสมัครใจของทุกคน ตนรู้ว่าผิดที่ทำเรื่องแบบนี้ลงไป เรื่องที่ขอออกจากมหาวิทยาลัยแล้วโดนกระทืบไม่ใช่มันไม่ใช่เหตุผลหลัก เหตุผลหลักคือพ่อของเติ้ลโทรมาด่าและขู่ห่าก่อน ตนรู้ว่าที่ทำมันผิด ที่ไปกระทืบผู้เสียหายแต่ทำไปเพราะพ่อของเติ้ลมาด่าตนก่อน


“ผมรู้ว่าพวกผมผิดครับพี่ เรื่องที่ผมทำไป ทำน้องกับทำพ่อ อันนี้ผมผิด ไม่ได้จะให้ทุกคนบอกให้ถูก แต่สิ่งที่ผมบอกคือ มูลเหตุไม่ใช่การออกรับน้องและโดนกระทืบ มูลเหตุคือพ่อน้องเขาโทรมาขู่ฆ่า ขู่ทำร้ายครับพี่” เพชร หนึ่งในรุ่นพี่ กล่าว...


เมื่อ “กัน จอมพลัง” ถามว่า เหตุใดสถานที่รับน้องถึงพบอาวุธมีดและดาบ

เพชร จึงชี้แจงว่า “เอาไว้ถางหญ้าครับ พี่ครับผมจะเอาเขาเป็นน้องผมนะครับพี่ ผมจะทำเขาทำไมครับพี่ มีดดาบผมบอกว่าให้เตรียมตัวไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่ผมไม่ได้บังคับนะครับ ทุกอย่างคือความสมัครใจของทุกคนครับพี่”

ด้าน สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา กล่าวว่าทางกระทรวงอุดมศึกษาได้มีการสั่งงานให้ ลงพื้นที่และตรวจสอบแล้วพบสองประเด็น จนได้มีส่งการให้มหาลัยไปตรวจสอบอย่างชัดเจน ถ้าพบว่าใครที่ร่วมก่อเหตุให้ไล่ออกทันที เรื่องข่าวที่เป็นข่าวลือว่ามีการตั้งงกลุ่มหรือลัทธิ ก็ได้สั่งการให้มหาลัยไปดำเนินการอยู่ กระทรวงมีมาตรการอยู่แล้วที่จะจัดการเรื่องพวกนี้ เพราะมีกฎไม่ให้มีการรับน้องอย่างรุนแรง ถ้าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นต้องมีการรับผิดชอบจากผู้ดูแล สุดท้ายเรื่องเด็กที่โดนไล่ออกมหาลัยไปนั้นทางมหาลัยควรดำเนินคดีแจ้งความด้วยเช่นกันเพราะเหตุเกิดในสถานที่ราชการ

คุณอาจสนใจ

Related News