ไม่จบ! สาวแจ้งความนายฮ้อย หลังนำแชตที่คุยไปลงโซเชียล เรียก 50,000 บาท ดีลจบยอมความที่ 5,000

ไม่จบ! กรณีสาวช้ำเล่นแอปฯหาคู่ แล้วเจอหนุ่มไม่ตรงปก จากนายร้อยเป็นนายฮ้อย ล่าสุดงานเข้านายฮ้อย หลังนำแชตที่คุยกับสาวไปโพสต์ลงโซเชียล ถูกสาวแจ้งความเรียกเงิน 5 หมื่น



ข่าวนี้รายการเรานำเสนอไปเมื่อวันก่อน เป็นเหตุการณ์ที่ น้องเจี๊ยบ อายุ 35 ปี หญิงชาวอำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร นัดเจอหนุ่มในแอปหาคู่ โดยนั่งรถทัวร์จากบ้าน มาหาฝ่ายชายที่รีสอร์ต ในอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี แล้วพบว่าผู้ชายไม่ตรงปกอย่างแรง ตอนแรกบอกเป็น นายร้อย แต่แท้จริงคือ นายฮ้อย ก่อนเขียนโน้ตให้ช่วย



ขณะที่ นายฮ้อย หรือ อ้น อายุ 29 ปี ขอพูดบ้าง ยืนยันว่าตัวเองไม่เคยโกหกหลอกลวง บอกกับฝ่ายหญิงตั้งแต่แรกว่า เป็นนายฮ้อย รับซื้อ-ขายวัว ไม่เคยบอกว่าเป็นนายร้อยตำรวจ ส่วนรูปโปรไฟล์ก็ใช้รูปตัวเอง ไม่เคยเอารูปใครมาใช้ตั้งโปรไฟล์ พร้อมกับเปิดแชตแฉกลับฝ่ายหญิง เป็นคนทักมาหาเขาก่อน และเสนอตัวมาหาเอง เหมือนเสนอขายบริการ โดยในแชตบอกว่า "เจี๊ยบ ขาว อวบนะ" "เจี๊ยบดุนะ" "ตัวเองไซซ์ไหน" ขณะที่ อ้น บอกว่า "อยากได้คนดูแล มาเป็นแม่ของลูก"



เรื่องราววันนั้น หลังน้องเจี๊ยบ เขียนโน้ตให้เจ้าของรีสอร์ตช่วยแจ้งตำรวจ เบื้องต้นทั้งคู่ไม่ติดใจเอาความกัน ตำรวจจึงให้แยกย้ายกันกลับบ้าน พร้อมพาฝ่ายหญิงไปส่งขึ้นรถโดยสารกลับอำเภอพังโคน




แต่ล่าสุดเหมือนงานจะเข้า นายฮ้อยอ้น อีกรอบ เพราะเจ้าตัวไปโพสต์ตัดพ้อลงในเฟซบุ๊ก บอกว่า "จะจัดจักเทื่อคืยากแท้น้อ บ่ได้เมียนำเขาดอกชาตินี้55 อยากฮอดตำรวจ ทักมาเสนอให้แท้ๆ อย่างว่าไม่ตรงปกอีก วาสนากูคักน้อ วาสนานาง บ่ได้เป็นเมียเสี่ย วาสนาบ่ได้เป็นเมียนายฮ้อย เขามักนายร้อย ฟังความสองด้านเด้อพี่น้อง แต่อย่าว่านาง จักเทื่อก่อนกะบ่ได้" พร้อมกับลงแชตคุยกับ น้องเจี๊ยบ ด้วย




ซึ่งตัวน้องเจี๊ยบ ดันไปเห็นข้อความ จึงไปแจ้งความเอาผิดหมิ่นประมาทกับนายฮ้อยอ้น เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาท วันนี้ตำรวจ สภ.พังโคน จึงเรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน โดยนายฮ้อยอ้น เดินทางมาพร้อมพ่อกับแม่ มีการเผชิญหน้ากับ น้องเจี๊ยบ อีกครั้ง




โดยน้องเจี๊ยบ ยืนยันเรียกเงิน 50,000 บาท เพราะนายฮ้อย ไปโพสต์ให้เสียหายอับอายคน นายฮ้อย ขอต่อรอง น้องเจี๊ยบลดเหลือ 15,000 นายฮ้อย เลยบอกจ่ายได้ที่ 5,000 สุดท้ายตกลงจบกันที่ 5,000




แต่สาวเจี๊ยบ ยังเหลี่ยมใส่บอกจะไม่ถอนแจ้งความ ขอให้เรื่องเงียบไปก่อนถึงจะถอน ทางด้านนายฮ้อย ก็ไม่ยอม ในเมื่อรับเงินไปแล้วต้องถอนแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานว่าเลิกแล้วต่อกัน ซึ่งทางฝ่ายของนายฮ้อย มีเป็นที่ปรึกษามาด้วย ก็ช่วยแย้งว่า ในเมื่อรับสินไหมไปแล้ว ต้องถอนแจ้งความเลย เพราะความจริงข้อความที่ปรากฏในเฟซบุ๊กไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต กลับกันในแชตของฝ่ายหญิง มีการส่งข้อความไปเสนอขาย มีการต่อรองราคา เข้าข่ายการค้าประเวณีมากกว่า



ขณะที่นายฮ้อย บอกว่า เขาเรียก 50,000 บาท แต่ตนพร้อมจ่ายที่ 5,000 บาท ซึ่งวันนี้ อยากให้เขาถอนแจ้งความจะได้จบๆ กันไป




สุดท้ายตกลงจบกันด้วยดี นายฮ้อยอ้น ถึงกับโล่งอก ยิ้มออกแล้ว