พบผู้เสียหายเพิ่ม ปมโครงการบ้านจัดสรรกำลังพล ร้องถูกหักค่าหัวคิวได้เงินส่วนต่างไม่ครบ

ทีมข่าวเดินทางมาที่โครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี เป็นบ้านชั้นเดียว กำแพงติดกันคล้ายห้องแถว ซึ่งเป็นบ้านที่นางพัสนีย์ หรือ ก้อย ผู้ประกอบการและเป็นผู้เสียหาย ขายให้จ่าสิบเอกโต (นามสมมติ) เมื่อปี 63 ในราคา 1 ล้านบาท

โดยจ่าสิบเอกโต (นามสมมติ) จะต้องกู้เงินจากกรมสวัสดิการทหารบก ในยอด 1.5 ล้านบาท โดยขณะนั้นไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการหัก 5% แต่จะรู้เพียงว่า ตัวเองจะได้เงินส่วนต่างประมาณ 5 แสนบาทเพื่อเอามาใช้ต่อเติมบ้าน




ซึ่งตนก็ได้รับเงินทอนจำนวน 500,000 บาท จากนางพัสนีย์ในทันที โดยทราบภายหลังว่านางพัสนีย์ หรือ ก้อย นำเงินส่วนตัวมาจ่ายให้กับตน เพราะไม่อยากมีผัญหา ตนไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ ทหารได้เงินค่าส่วนต่างครบเต็มจำนวนหรือถูกหักหรือไม่อย่างไร แต่ตนคิดว่าคงไม่มีใครออกมาพูดอะไร เพราะเกรงใจกองทัพ




หลังทราบข่าว ก็ยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ เพราะหากคำนวนเงิน 5% ของนายทหารทั้งประเทศที่ถูกหักจากกู้ซื้อบ้านจากกรมสวัสดิการทหารบก ยอดรวมก็ค่อนข้างที่จะสูง




ล่าสุดผู้สื่อข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้คุยกับ นายทหารที่กู้สวัสดิการกับกองทัพบกเพื่อซื้อบ้านกับของผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ จังหวัดนครราชสีมา กู้ในยอด 1.5 ล้าน เช่นกัน แต่ได้รับเงินทอนส่วนต่างค่าตกแต่งบ้านเพียง 3 แสนจากทั้งหมดที่ต้องได้คือ 4 แสนกว่า และยังต้องตามทวงถามอยู่ถึงทุกวันนี้ พอถามไปทางกรมสวัสดิการ ก็โยนให้ไปทวงถามเอากับผู้ประกอบการ




ซึ่งในฐานะที่เป็นกำลังพลสังกัดกองทัพบก อยากให้เห็นใจ ทหารชั้นผู้น้อยที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองและอยากได้เงินก้อนมาตกแต่งบ้าน แม้จะต้องกู้เกินกว่าราคาเป็นจริง ส่วนเรื่องค่าหัวคิวหรือค่าดำเนินการ 5% กำลังพลจะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะเป็นการตกลงกันระหว่างกรมสวัสดิการกับผู้ประกอบการสร้างบ้านขาย