ตร.เตือนเปิดเพจหลอกจำนำรถ เข้าข่ายผิด กม. พบเครือข่าย 'เจ๊พลอยชลบุรี' เชิดรถไปขายต่อกว่า 500 คัน

กลุ่มผู้เสียหายกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเคยร้องเรียนผ่านรายการข่าว 3 มิติ ว่าถูกเพจรับจำนำรถชลบุรี นำรถไปขายต่อ ทั้งที่โอนเงินไปไถ่ถอนคืนแล้ว ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 500 คน รถถูกนำไปขายรวม 511 คัน ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลางติดตามรถจากกลุ่มนายทุน มาคืนให้ผู้เสียหายได้อีก 70 คัน มีผู้ต้องหาถูกจับรวม 10 ราย


ด้วยความเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง โรคไตและเบาหวาน ทำให้เจ้าของรถตัดสินใจนำรถไปจำนำกับเพจเจ๊พลอยรับจำนำรถชลบุรีด้วย 10,000 บาท ได้มา 9,000 บาท เพื่อนำเงินไปรักษาตัวและหวังจะไถ่ถอนคืน ใน 2 เดือนต่อมา แต่เมื่อโทรศัพท์ไป กลับถูกเยาะเย้ยถากถาง เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองปราบปราม ใช้เวลาในการติดตามหารถที่ถูกขายไปทันที หลังเจ้าของนำไปจำนำกับเพจ โดยรถถูกกระจายขายต่อไปให้กับนายทุนทันที

เจ้าหน้าที่ติดตามยึดมาได้จำนวน 70 คัน จากลานจอดรถแห่งหนึ่งในจ.นนทุบรี ผู้เสียหายแต่ละราย ระบายความในใจว่าเสียเวลา เสียเงินเช่ารถ ตามรถตัวเองไปตามที่ต่างๆ เพราะยังผ่อนกุญแจอยู่ หมดหวังได้คืนแล้ว เมื่อตำรวจให้มาดูรถ ก็แทบได้ชีวิตใหม่กลับมา เพราะป่วยเป็นมะเร็งเช่นกัน


แม้นางสาวพลอยชมพู ผู้ต้องหา จะถูกจับและถูกคุมขังในเรือนจำ แต่จากเพจรับจำนำรถรายใหญ่ในภาคตะวันออก สร้างความเสียหายไว้มากมาย มากถึง 509 ราย รถยนต์ที่ถูกประทุษร้ายไปกว่า 511 คัน


พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระบุว่าเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ต้องผ่อนรถ แต่รถถูกเพจรับจำนำขายต่อ ไม่ต่างจากถูกโจรกรรมรถ เพียงแต่มีเพจขึ้นมารับรถกันเป็นขบวนการ ขอบอกว่าเจ้าของเพจรับจำนำรถ ไถ่ถอนแล้วไม่คืน อย่างเคสนี้ มีผู้เสียหายกว่า 500 คน ความผิดหลายกระทง โทษรวมแล้วน่าจะเป็น 100 ปี จึงไม่คุ้มถ้าจะทำเพจมาฉ้อโกงประชาชน


ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางจึงขอเตือนเพจรับจำนำรถจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะการรับจำนำรถต้องมีการขออนุญาตก่อน และเตือนผู้นำรถไปจำนำจะเสี่ยงต่อรถสูญหาย หรือนำไปขายชายแดน โดยเครือข่ายเจ๊พลอยชลบุรี ถูกจับกุมในขบวนการทั้งหมด 10 คน และแต่ละคนมีโทษหนัก ทั้งฉ้อโกงประชาชน และผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน รับจำนำรถ 500 คันก็ 500 กระทงแล้ว ซึ่งหากนำรถที่เหลือมาคืน ก็อาจจะได้รับการลดหย่อนโทษ