ญาติเศร้ารับศพเหยื่อเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีมาบตาพุด กลับบ้านเกิด - ตร.อายัดศพ กลับไปชันสูตรที่รพ.ตำรวจ

ภรรยา-เพื่อนร่วมงาน รับศพพนักงานบริษัทมาบตาพุดแทงค์ฯ หลังเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ถังสารเคมี งดให้สัมภาษณ์สื่อเพราะบริษัทสั่งห้ามแม่หนึ่งผู้บาดเจ็บเผยลูกชายโดนไฟลวก อยู่ห้อง ICU ใส่เครื่องช่วยหายใจ มีสติพยักหน้า-ยกมือได้


กรณีเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสาร Pyrolysis gasoline (แก๊สโซลีน) บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ถนนไอ-แปด ท่าเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ทำให้พนักงานได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบาดเจ็บขณะเข้าระงับเหตุ 2 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.45 น. ของวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา

วานนี้ (10 พ.ค.) เวลา 12.00 น. แฟนสาวและเพื่อนร่วมงานเดินทางไปที่โรงพยาบาลระยอง เพื่อติดต่อรับศพนายนพพร เรือนมา หรือ พร อายุ 34 ปี พนักงานของบริษัทฯ ที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว โดยจะนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ญาติยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เพราะยังทำใจไม่ได้ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งร้องไห้อยู่ข้างห้องพักศพ โดยมีเพื่อนโอบไหล่ปลอบใจ

จากการสอบถามกลุ่มเพื่อน ระบุว่า ทางบริษัทขอความร่วมมือห้ามให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เนื่องจากกลัวข้อมูลคาดเคลื่อน โดยให้สื่อให้ฟังคำชี้แจงหรือแถลงการณ์จากบริษัทฯ เท่านั้น  หากใครให้สัมภาษณ์จะมีความผิด ทำให้กลุ่มเพื่อนจึงไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลใด ๆ กับนักข่าว  แม้กระทั่งจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใดก็ไม่เปิดเผย  บอกเพียงว่าหลังรับศพ กลุ่มเพื่อนและผู้บริหารของบริษัทฯ จะเดินทางไปร่วมงานศพด้วยที่จังหวัดเชียงราย

ทีมข่าวพยายามสอบถามกลุ่มเพื่อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลการทำงานของผู้เสียชีวิต กลุ่มเพื่อนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากทางบริษัทได้สั่งห้ามไว้  เกรงว่าจะกระทบต่อการทำงาน บอกเพียงว่านายนพพร เสียชีวิตไปแล้ว ไม่อยากพูดถึงหรือทำให้ครอบครัวรู้สึกสะเทือนใจอีก หากอยากทราบรายละเอียดขอให้บริษัทฯ เป็นผู้ให้ข้อมูลเอง

ทีมข่าวได้คุยกับนางสมพร ติ๊บประสอน แม่ของนายณิชฌาน ติ๊บประสอน ผู้บาดเจ็บ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลกรุงเทพ ระยอง เปิดเผยว่า โดนไฟลวกบริเวณใบหน้า ขา และแผ่นหลัง ตอนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่ยังมีสติ หมอถามอะไรสามารถพยักหน้า ยกมือตอบโต้ได้ อาการดีขึ้นความดันปกติ ยอมรับเป็นห่วงอาการของลูกชาย แม่เยี่ยมลูกชายผ่านห้องกระจกเท่านั้น


ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต้องรอให้ลูกชายอาการดีขึ้นก่อน เพราะขณะนั้นเพื่อนพนักงานคนอื่นก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ มีเพียงพนักงาน 4 คนเท่านั้นที่ขึ้นไปบนแทงค์ ขณะที่ทางบริษัทฯ พร้อมที่จะเยียวยาและดูแลทุกอย่าง ทั้งนี้ตนอยากให้บริษัทมีมาตรการป้องกันที่ดีกว่านี้ ไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้อีก

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดปูแกง ม.1 ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย พบว่าชาวบ้านมาช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อจัดพิธีศพ  โดยได้นำเต็นท์มากางที่หน้าศาลาอเนกประสงค์ ซึ่งทางญาติยังไม่ได้พูดคุยกันถึงกำหนดการวันฌาปนกิจศพ

นางปั๋น เรือนมา อายุ 67 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีลูกชาย 2 คน นายนพพร เป็นลูกคนที่ 2   วันเกิดเหตุตนไม่ทราบเรื่อง แต่มีเพื่อนบ้านมาตามที่บ้าน บอกมีเรื่องจะคุยด้วย ตนก็แปลกใจว่าทำไมไม่คุยที่บ้าน  แต่ก็ตามเขาไป พอไปถึงก็ถามว่ามีเรื่องอะไรกันแน่  เขาบอกว่านพพรลูกชายตนเสียชีวิตในที่ทำงานที่ จ.ระยอง  สาเหตุที่เพื่อนบ้านพาไปคุยในที่ที่มีคนเยอะ เพราะกลัวว่าตนอยู่คนเดียวจะเสียใจ  ยอมรับว่าตอนได้ยินข่าวทีแรก แทบจะช็อก ทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าลูกคนเล็กจะจากไปเร็วแบบนี้ ทำใจไม่ได้ คิดถึงลูกทีไรน้ำตาก็จะไหล

----------------------------------

ขณะที่เวลา 18.00 น. ในระหว่างที่ ญาติของนายนพพร กำลังนำร่างเดินทางกลับภูมิลำเนา จ.เชียงราย ขณะที่เดินทางกำลังจะเข้า จังหวัดอ่างทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แจ้งให้ ญาตินำศพของผู้เสียชีวิต มายังโรงพยาบาลตำรวจ ในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจหาสารเคมีตกค้างในร่างกายก่อน ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตนั้น ไม่ได้ติดใจเรื่องการเสียชีวิตแล้วและอยากนำร่างกับภูมิลำเนา แต่มันเป็นขั้นตอนของคดีความจึงจำเป็นต้องนำร่างกลับมายังโรงพยาบาลตำรวจ

https://youtu.be/MCGORYx3sdg