สังคม

ระยอง ระทึกซ้ำ! ไฟไหม้ถังเก็บแก๊สโซลีน มาบตาพุด - สดุดี พนง.สละชีพ พยายามขึ้นไปปิดวาล์ว

โดย thichaphat_d

10 พ.ค. 2567

221 views

วานนี้ (9 พ.ค.) เวลา 10.45 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บสาร Pyrolysis gasoline (แก๊สโซลีน) บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ถนนไอ-แปด ท่าเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ในที่เกิดเหตุพบควันไฟสีดำพวยพุ่งขึ้นทั่วท้องฟ้า มีเปลวไฟลุกไหม้บนถังสารโซลีนขนาดใหญ่ ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เพราะมีเชื้อเพลิงอยู่ภายในถัง

มีรายงานว่า ประชาชนในอำเภอบ้านฉาง ที่อยู่ห่างจากโรงงานที่เกิดเหตุประมาณ 15-20 กิโลกรัม ได้กลิ่นควันไฟ มีอาการแสบจมูก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งนำกำลังไประงับเหตุ โดยบริเวณทางเข้าโรงงาน ซึ่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด พบว่า เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจร  มีรถดับเพลิงและรถพยาบาลวิ่งปฏิบัติหน้าที่ขวักไขว่  มีการอพยพผู้ที่อยู่ภายในจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ออกมาในจุดที่ปลอดภัย เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย

ขณะที่เพจ Fire & Rescue Thailand  ได้โพสต์ข้อความว่า “ขอแสดงความเสียใจและขอแสดงความไว้อาลัย แด่ผู้เสียชีวิต จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารตั้งต้นผลิตน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้  

โดยผู้เสียชีวิตชื่อนายนพพร เรือนมา เป็นพนักงานประจำของบริษัท ที่พยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิดขึ้น โดยแรงระเบิดทำให้เสียชีวิต เพจคนอาสา ดับเพลิง-กู้ภัย ประเทศไทย ขอแสดงความยกย่องผู้เสียชีวิต ในความกล้าหาญและเสียสละ จนทำให้ตนเองต้องเสียชีวิต”

---------------------------

ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง และเกิดเพลิงไหม้ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ พากันหวาดผวาเกรงว่าจะเกิดระเบิดขึ้นอีก จึงพากันหนีออกจากพื้นที่ ขณะที่เพจประชาสัมพันธ์ จ.ระยอง โพสต์แจ้งว่า ขณะนี้มีการสั่ง Shutdown และอพยพคนบริเวณใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่

12.32 น. แสงเพลิงสงบลง ควันสีดำลดลง แต่ในเวลา 13.15 น. เกิดเปลวไฟและมีกลุ่มควันสีดำลอยออกจากถังเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีนอีก เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ทะลักล้นถังเริ่มคุมไม่อยู่ มีแนวโน้มลุกลาม เหนือการควบคุม เจ้าหน้าที่เริ่มสั่งทีมดับเพลิงถอยห่างจากจุดเกิดเหตุ

14.30 น.ไฟลุกลามต่อเนื่องยังควบคุมเพลิงไม่ได้ เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมเพลิง โดยเพลิงได้ลุกท่วมถังบรรจุแก๊สโซลีน เจ้าหน้าที่พยายามสกัดเพลิง  เพื่อไม่ให้ไหม้ไปยังถังอื่น ๆ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน /  ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย อบจ.ระยอง เปิดเผยว่า ได้กันชาวบ้านและผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้โรงงานเกิดเหตุ  เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุระเบิดซ้ำและไม่ปลอดภัย

นอกจากนี้มีการอพยพประชาชน รัศมี 1-5 กิโลเมตร ได้แก่ ชุมชนตาอวน ชุมชนกรอกยายชา ชุมชนเกาะกก ชุมชนหนองน้ำเย็น ชุมชนซอยร่วมฯ ชุมชนโภภณ ชุมชนหนองแฟบ อพยพพนักงานโรงงานข้างเคียงและในเขตพื้นที่อุตสาหกรรม ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง มาอยู่ที่วัดตากวน กว่า 100 ครัวเรือน จากนั้นมีรถของเทศบาลฯ และกู้ภัย ลำเลียงไปยังโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ห่างจากจุดเกิดเหตุ 7 กิโลเมตร และจุดอพยพอื่นที่จัดเตรียมไว้

โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดให้มีการลงทะเบียนผู้อพยพ ทั้งประชาชนชาวไทย และแรงงานต่างด้าวของโรงงานต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง มีทีมแพทย์ตรวจคัดกรองสุขภาพสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และจัดสถานที่รองรับผู้อพยพทั้งเรื่องอาหาร น้ำดื่ม ที่นอน ไว้ให้กับผู้อพยพทุกคน หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย

จากนั้นไม่นานรถกู้ภัยและรถดับเพลิงเข้ามายังพื้นที่ และทางเทศบาลแจ้งให้ประชาชนอพยพไปอยู่วัดตากวน และให้อพยพโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร  มาแต่ตัวไม่ได้เอาเสื้อผ้าของใช้มาด้วย พกมาเพียงยารักษาโรคความดันเบาหวาน  ยอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น  รู้สึกใจแป้วเมื่อทราบว่าเป็นสารก่อมะเร็งในระยะยาว อีกทั้งทิศทางลมมาทางบริเวณบ้านของตนเอง โชคดีที่ลมพัดควันขึ้นข้างบน ถ้าควันลอยต่ำอาจไม่ปลอดภัย อยากให้โรงงานระมัดระวังเพราะชาวบ้านอยู่อย่างหวาดผวา

ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ให้ทุกโรงพยาบาลในจังหวัดระยอง จัดตั้งศูนย์ใช้แผนพิทักษ์ระยอง 1 เพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้  โดยศูนย์นรินทร์ธรกู้ชีพระยอง แจ้งว่า กระแสลมพัดไปทางกรอกยายชา ชาวบ้านบริเวณนั้นที่อยู่ในตัวบ้านและอาคาร บางคนมีอาการแสบจมูกและเหม็นกลิ่นควัน

16.50 น.สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วแต่ยังมีความร้อน แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดโฟมไปยังแทงก์สารเคมี เพื่อทำความเย็นไม่ให้เพลิงปะทุอีก พบว่าถังเก็บแก๊สโซลีนไหม้ 1 ถัง โดยกลุ่มควันเบาบางลง ไม่มีกลุ่มควันสีดำแล้ว มีเพียงควันสีขาวลอยฟุ้งหายไป สถานการณ์คลี่คลาย โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงเกือบ 6 ชั่วโมง

18.30 น.หลังจากควบคุมเพลิงได้แล้ว ชาวบ้านกว่า 400 คน ที่อพยพไปอยู่ที่โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ต่างดีใจ ทุกคนต้องการกลับบ้านไม่ต้องค้างคืน ทางเจ้าหน้าที่จึงนำรถมาทยอยส่งทั้งหมดกลับบ้าน พร้อมฝากถึงโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ระยอง ควรมีมาตรการที่เข้มงวดในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และมาตรฐานในการทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดกับโรงงานที่เกิดเหตุ

ทีมข่าวเดินทางไปที่ชุมชนประมงเรือเล็กตากวน-อ่าวประดู่ คุยกับนายรุ่งโรจน์ พรมนนท์ อายุ 57 ปี หลังจากอพยพออกจากพื้นที่และกลับเข้าบ้านแล้ว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังเปี๊ยะ สักพักเกิดเปลวไฟเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ ควันดำพวยพุ่ง จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดัง 2 ครั้ง  มีคนบอกเป็นสารพิษให้รีบหนีออกจากพื้นที่ด่วน  ตนจึงพาครอบครัวอพยพไปอยู่แหลมเจริญ  5 โมงกว่า เหตุการณ์สงบก็กลับมาอยู่บ้านกว่าเดิม

“กลับมาอยู่บ้านยังรู้สึกได้กลิ่นควัน หวังว่าคงไม่ระเบิดซ้ำสอง ถ้าเกิดระเบิดไฟไหม้อีก คงอพยพกันจ้าละหวั่น อยากจะให้มีระบบเซฟตี้หรือป้องกันให้ดีกว่านี้  เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก นิคมมาบตาพุดเคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้มาแล้วหลายครั้ง เพื่อให้ชาวบ้านอยู่อย่างไม่หวาดระแวง หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้จะนอนหลับก็รู้สึกระแวงจะระเบิดอีกหรือไม่ นอนหลับไม่สนิท บางทีผวา”

------------------------------

บริษัทฯ แถลงการณ์ขออภัย แจงสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน เป็นสารที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพในระดับต่ำ เสียใจพนักงานเสียชีวิต 1 ราย พร้อมให้ความช่วยเหลือคนเจ็บ-ผู้เสียชีวิตเต็มที่ หยุดกิจกรมต่าง ๆ ในโรงานตามขั้นตอนความปลอดภัย เร่งหาสาเหตุ

วานนี้ (9 พ.ค.)  บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ออกเอกสารแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ชี้แจงกรณีเกิดกลุ่มควัน ว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 10.45 น. ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ทำเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

บริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยได้ตัดแยกระบบ และหยุดกิจกรมต่าง ๆ ภายในโรงงานตามขั้นตอนความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสาเหตุ เบื้องต้นได้รับแจ้งว่ามีผู้ใด้รับบาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว

โดยเหตุดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้สารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน เป็นสารที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพในระดับต่ำ บริษัทฯ ขออภัยในเหตุที่เกิดขึ้น และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของชุมชน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ลงพื้นที่ เพื่อดูแล ชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นของชุมชนบริเวณรอบโรงงาน และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่หากพบว่าได้รับผลกระทบ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อศูนย์สื่อสารหมายเลขโทรศัพท์ 038-911-995 หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบโดยเร็วที่สุด

ต่อมาบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ออกเอกสารแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมเหตุการณ์และประเมินความเสียหาย รวมทั้งการหาสาเหตุ  จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งบริษัทฯ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ ได้ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ เป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by product) จากการผลิตสารตั้งต้นในการผลิตเม็ดพลาสติก โดยได้แยกเบนซีน โทลูอีน มิกซ์ไซลีน ออกหมดแล้ว ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมต่างๆ (Solvent)

ต่อมาทางบริษัทออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้วเพลิงสงบแล้วเกิดร่วมกับทางจังหวัดระยอง ซึ่งทางผู้อำนวยการจังหวัดระยองได้ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว

------------------------------------

รมว.อุตสาหกรรม ห่วงสถานการณ์เพลิงไหม้สารเคมีมาบตาพุด ระยอง สั่งการผู้ว่าการนิคมฯ บัญชาการในพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด เตรียมลงพื้นที่วันนี้ (10 พ.ค.)

วานนี้ (9 พ.ค.) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน ของบริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด  ว่า ขณะนี้ได้สั่งให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เร่งตรวจสอบทุกระบบและให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในการเผชิญสถานการณ์และบัญชาการเหตุการณ์ในภาวะฉุกเฉิน

โดยมีนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่า กนอ. บัญชาการประจำวอร์รูม ประจำวอร์รูม เพื่อประสานเหตุการณ์และระงับเหตุและมีนายคณพศ ขุนทอง รองผู้ว่าการ กนอ. สายงานปฏิบัติการ 3 อยู่หน้างาน

ส่วนการแก้ไขควบคุมเพลิง  มีการระดมรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีทีมงาน EMCC มาบตาพุด และเจ้าหน้าที่ท่าเรือฯ มาบตาพุด นำรถตรวจการณ์ EMCC เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเหนือลม และท้ายลม รวมทั้งตรวจสอบผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ชุมชน พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับบริษัท SCG เพื่อใช้เรือในการอพยพบุคคลากรในพื้นที่

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า มีรายงานทางข้อมูลเทคนิค ทราบว่าบริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (MTT) ได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินและประกอบกิจการท่าเทียบเรือและคลังเก็บสินค้าเหลว(สารปิโตรเคมี, คลังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์) ระหว่างการเดินระบบปกติ ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน (Pyrolysis Gasoline) หมายเลขถัง TK 1801 ขนาดบรรจุ 9,000 ลบ.ม.

การเผชิญเหตุ บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนตอบโต้สภาวะฉุกเฉิน และ กนอ.ได้จัดส่งรถตรวจสอบคุณภาพอากาศ เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณรอบ พร้อมทั้งแจ้งปิดร่องน้ำทางเดินเรือท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (10 พ.ค.) เวลา 10.00 น.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ณ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/B0R6Oen0BNc

คุณอาจสนใจ

Related News