'ทนายอาคม' แฉ 'ตั้ม' เบรกประกันตัวเมีย เพราะหวงบ้าน ไม่ยอมวางโฉนด ซ้ำบอกไม่คืนเงิน 'เจ๊อ้อย' เพราะกลัวหมดตูด

ขณะที่ทนายอาคม วันนี้มาร่วมรายการ ก็ย้อนเล่าถึงการไปเยี่ยมทนายตั้มเมื่อ ศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยบอกว่า ทนายตั้มร้องไห้ คำถามแรกที่ถาม คือ "ผมจะรอดไหมพี่" ซึ่งทนายอาคม บอกให้ทนายตั้ม "คืนเงินเขาเถอะ"



พร้อมเล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนจะเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็เคยนั่งคุยกัน 3 คน ทนายตั้ม ทนายสายหยุด และทนายอาคม ก็ย้ำว่าให้คืนเงินพี่อ้อยไป แต่ตอนนั้น ทนายตั้ม ตอบกลับว่า "คืนแล้วก็หมดตูดสิพี่"



ทนายอาคม ยังเล่าเพิ่มเติม พร้อมเปิดภาพประกอบ โดยบอกว่า เป็นแผนประทุษกรรม ที่ตัวเขาก็เชื่อ "ทนายตั้ม" มีส่วนรวมกระทำความผิด

เริ่มจาก ก.พ. 66 มีการทำเรื่องแพลตฟอร์มสลากออนไลน์

มี.ค. – เม.ย. 66 ทำเรื่องบุตรบุญธรรม

ต่อมา พ.ค. 66 เกิดเรื่องคริปโต 39 ล้านบาท

ส.ค. 66 ออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท

และมีการทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 ที่มีชื่อทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก

และมีประเด็นซื้อรถเบนซ์ ช่วย ก.ค. 66



ทั้งหมดนี้ ทนายอาคม เชื่อว่า ทนายตั้มมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด และเชื่อว่าเริ่มต้นเกิดเหตุหลังทำพินัยกรรม เพราะเป็นจุดที่ทำให้รู้ว่า พี่อ้อยมีเงินจำนวนมาก จึงเริ่มมีการตีซี้



ทนายอาคมยังเล่าด้วยว่า เขาจะเป็นทนายความให้นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้ม โดยมองว่า สาเหตุที่ คุณเดือนไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะ รับโอนบ้าน ซึ่งซื้อด้วยเงินของพี่อ้อย มีการแนะนำว่า ให้คุณเดือน เอาโฉนดบ้านไปวางไว้กับศาลเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตอนแรกตกลงกันว่าจะทำตามนี้ มีการให้ญาติไปแจ้งให้ทนายตั้มรับทราบ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทนายอาคมไปเยี่ยมทนายตั้ม จึงย้ำเรื่องนี้อีกรอบ ปรากฎว่า ทนายตั้ม ตอบกลับว่า "ถ้าเอาไปวางที่ศาลแล้วผมจะเอาหลักทรัพย์อะไรยื่นประกันตัว"



ประเด็นนี้ พี่หนุ่ม ถาม ทนายเพิ่มเติมว่า ในเมื่อบ้านเป็นชื่อคุณเดือนทำไมต้องแจ้งให้ทนายตั้มทราบ ทนายสายหยุด ตอบว่า เพราะเป็นสินสมรส จึงต้องแจ้งให้ทราบและต้องยินยอม



ทั้งนี้ในรายการยังมีการพูดถึงโทษทางคดีของทนายตั้ม โดยมีการวิเคราะห์ว่ามีโอกาสได้รับโทษมากน้อยแค่ไหน ทนายสายหยุด บอกว่า ถ้ารับสารภาพ ก็จะได้รับการลดโทษ แม้ว่าทนายความจะได้รับการลดโทษน้อย แต่ก็ยังมีโอกาสได้รับการลดโทษ แต่หากสู้คดี ก็จะไม่มีเหตุบรรเทาโทษ



ซึ่งโทษ คดีฉ้อโกง แยกเป็นกรรม กรรมละ 3 ปี กรณีทนายตั้ม 4 กรรม รวมเป็น 12 ปี

ส่วนฟอกเงินโทษสูงสุด 10 ปี ยังไม่รวมการปลอมแปลงเอกสารหรือเรื่องอื่นๆที่อาจตามมา ทั้งนี้ต้องรอดูว้า เมื่อถึงวันยื่นฟ้อง เมื่อทนายตั้มทราบว่า เจ้าหน้าที่จะยื่นฟ้องอะไรบ้าง โทษเท่าไหร่ จะยอมรับสารภาพในวันนั้นหรือไม่ ซึ่งหากยอมรับสารภาพวันนั้นก็ยังไม่สายเกินไป



ช่วงท้ายรายการ พี่หนุ่ม ให้ทนายสายหยุด ย้ำถึงการยุติบทบาททนายของทนายตั้ม ส่วนเมื่อถามว่ามีอะไรฝากถึงทนายตั้ม หรือไม่ ทนายสายหยุดบอกว่า ถ้ามีเวลาไปเยี่ยมลูกความคนอื่น ก็จะแวะไปเยี่ยมในฐานะเพื่อน แต่ไม่คุยเรื่องคดีความ



ส่วนทนายอาคม ฝากถึงญาติทนายตั้ม บอกว่า ให้ไปให้สติทนายตั้มหน่อย ก้าวพลาดไปแล้ว กลับตัวยังทัน ถ้าดื้อไปสุดท้ายไม่มีเหตุลดโทษจริงๆ อยากให้อธิบายให้ทนายตั้มเข้าใจ ว่า ทุกคนที่สนิทกับเขาถอยหมดแล้ว ทนายสายหยุดน่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้ว จะไม่มีคนใกล้ชิดแล้ว คิดถึงเมีย คิดถึงลูก พ่อแม่ วันที่รับใบอนุญาตเป็นทนายความ สภาทนาย อบรมจริยธรรมไว้อย่างไร ให้ตระหนกนึกถึงให้เยอะๆ



ทั้งนี้ตลอดรายการ มีช่วงสีสัน คือ ทนายสายหยุด ลืมปิดเสียงโทรศํพท์ ทำให้มีสายโทรเข้ามา 2 ครั้ง เพลงที่ทนายสายหยุดใช้ คือ เพลง กินข้าวหรือยัง ของต่ายอรทัย พี่หนุ่มแซวว่า ทำไมตั้งเพลงนี้ ทนายบอกว่าเพราะดี ก่อนจะถูกแซวซ้ำว่า เพราะ จะบอกวากินข้าวไม่ได้กินหญ้าหรือเปล่า หรือบางช่วงถูกแซวว่ากินข้าวหรือยัง เจ้าตัวบอก กินไม่ลงมาหลายวันแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/oLwoeKceDRI