'ทนายพัช' ค้านพยานทุกปาก ยัน 'แอม ไซยาไนด์' ไม่ผิด ไม่จำเป็นต้องจ่าย 31 ล้าน

ศาลนัดสืบพยานหลักฐานคดีแอม ไซยาไนด์ วางยานางสาวก้อยเสียชีวิต จำเลยทั้ง 3 คนยังให้การปฏิเสธ ทนายพัช ซึ่งเป็นทั้งทนายความจำเลย และเป็นจำเลยเองด้วย บอกว่า ได้ยื่นคัดค้านพยานหลักฐานของอัยการ เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าสารไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกายของก้อยได้อย่างไร  ส่วนที่คุณแม่ของก้อยจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 31 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่า แอมไม่ผิดก็ไม่จำเป็นต้องจ่าย



วันนี้ ศาลอาญา รัชดาภิเษก มีนัดตรวจพยานหลักฐานคดีแอม ไซยาไนด์ หรือ คดีที่นางสาวสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ ตกเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆ จากกรณีการเสียชีวิตของนางสาวศิริพร หรือ ก้อย โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว แอม ไซยาไนด์ จากทัณฑสถานหญิงกลางมายังศาลอาญา โดยมีรายงานว่า แอม ดูโทรมและซูบผอมลงไปกว่าเดิมมาก



นอกจากนี้ยังมีพันตำรวจโทวิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองอ๊อฟ อดีตสามีของแอม และ นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายความของแอม ที่ตกเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ในฐานความผิดให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน เดินทางมาศาลตามนัด



ด้านครอบครัวของก้อย มีคุณแม่ และลูกสาวของก้อย เดินทางมาศาล พร้อมกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความฝ่ายโจทก์ร่วม โดยทนายเดชา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ พนักงานอัยการได้ตรวจพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ไปแล้วกว่า 8-10 แฟ้ม ทั้งหลักฐานการสั่งซื้อไซยาไนด์ หลักฐานการวางยาพิษ หลักฐานช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ การขโมยกระเป๋าของก้อยไปซุกซ่อน ภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงหลักฐานในคดีการเสียชีวิตของเหยื่อรายอื่นทั้งหมด 14 ราย ซึ่งเชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างแน่นหนา แม้จำเลยทั้ง 3 ยังคงให้การปฏิเสธ



ส่วนคุณแม่ของก้อย ก็บอกว่ามั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับคนที่ทำให้ลูกสาวเสียชีวิตได้ และยังเตรียมที่จะฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายเป็นเงินประมาณ 31 ล้านบาทด้วย ซึ่งเป็นการคำนวณจากรายได้และค่าเลี้ยงดูลูกของก้อย



ขณะที่ระหว่างที่อยู่ในห้องพิจารณาคดี คุณแม่ของก้อยได้พยายามถามหาโทรศัพท์ไอโฟนของลูกสาว ที่ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับคืนจากแอม แต่แอมกลับเงียบเฉย ไม่ตอบคำถามคุณแม่ คุณแม่ก็เลยเข้าไปต่อว่าแอม ซึ่งทนายพัช ก็พยายามห้ามไม่ให้แอมพูดอะไร



ภายหลังออกจากศาล ทนายพัช ได้เปิดเผยว่า คดีนี้ตนเป็นทั้งจำเลย ทนายจำเลย และเป็นทนายให้ตัวเองด้วย โดยวันนี้ได้มีการยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม เป็นการคัดค้านเอกสารวัตถุพยานของพนักงานอัยการ ที่ไม่สามารถบรรยายฟ้องได้ว่า สารไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกายของก้อยได้อย่างไร ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบของความผิด เชื่อว่าจะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้



และตนยังได้ชี้แจงต่อศาลว่า ผู้เสียชีวิตมีการใช้ยารักษาอาการซึมเศร้า โดยมีหลักฐาน เกี่ยวกับยาที่ก้อยได้รับจากโรงพยาบาล รวมทั้งผลชันสูตรศพที่พบสารของยาตัวดังกล่าวอยู่ด้วย



ส่วนกรณีที่คุณแม่ของก้อยจะฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 31 ล้านบาทนั้น ทนายพัช ยืนยันว่า ในเมื่อแอมไม่มีความผิด ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจ่าย รวมถึงเรื่องโทรศัพท์ไอโฟนของก้อย ก็ขอให้คุณแม่ไปติดตามเอาเองที่ สภ.บ้านโป่ง



สำหรับประเด็นที่จำเลยได้ยื่นคัดค้านพยานหลักฐานนั้น ทนายเดชาบอกว่า ไม่กังวล เพราะแม้จะไม่มีประจักษ์พยาน แต่ตำรวจและพนักงานอัยการก็มั่นใจในหลักฐานทั้งพยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดกับแอมได้ โดยศาลได้นัดสืบพยานนัดแรกวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 จะใช้พยานในการนำสืบทั้งหมด 88 ปาก รวมทั้งหมด 25 นัด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YOcs9B2yNzs