อาชญากรรม

‘ทนายพัช’ พร้อมสู้คดี ‘แอม ไซยาไนด์’ แจงปม ไม่สลดในศาล

โดย olan_l

4 ชั่วโมงที่แล้ว

65 views

ทนายพัช ยอมรับ คาใจผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเมื่อวานนี้ แต่จะเตรียมพยานหลักฐานมาต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ และฎีกา เพราะยังไม่ถึงที่สุดอะไรก็เกิดขึ้นได้



หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" และจำคุกอดีตสามีของแอม กับทนาย พัชฐานให้การช่วยเหลือ และร่วมทำลายหลักฐาน ล่าสุดทีมข่าวได้เปิดใจคุยกับทนายพัช เกี่ยวกับผลคำพิพากษา และเหตุการณ์ต่างๆ ภายในศาล ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์

น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือ ทนายพัช ทนายความของนางสรารัตน์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" บอกว่า เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าผลอาจจะออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งเธอได้บอกกับแอมตั้งแต่แรกว่า ถ้ากระทำความผิดให้รับสารภาพ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ดังนั้น จึงไม่ได้เกินความคาดหมาย แต่คดีก็มีชั้นอุทธรณ์ และชั้นฎีกาต่อไปอยู่แล้ว และโทษประหารชีวิตก็มีการขออถวายฎีกาได้ ซึ่งเราเคารพในคำพิพากษาของศาล แต่ส่วนไหนที่ไม่เห็นด้วยก็ใช้สิทธิต่อไป

แล้วที่เธอเคยมั่นใจในคดีนี้นั้น ตนเคยพูดกับแอมอยู่แล้วว่า ในชั้นตน ศาลอาจจะพิพากษาแบบนี้อยู่แล้ว ให้ไปดูในชั้นสูง เพราะจะได้ข้อเท็จจริงที่ถูกกลั่นกรองออกมาแล้ว

โดยตอนนี้ตนก็พอใจอย่างหนึ่งว่า มีข้อยุติว่าศาลมองอย่างไร เพราะตนพูดมาตลอดว่าชั้นต้นควรจบได้แล้ว มันต้องสะเด็ดน้ำ และได้เห็นว่ายังมีพยานของเรา ที่ศาลไม่ได้หยิบยก ก็จะนำไปอุทธรณ์เอา ทั้งหลักข้อกฎหมาย  การได้มาของพยานหลักฐาน ได้มาโดยชอบหรือไม่ การรับฟังพยานเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือ คดีนี้เป็นคดีที่ไม่มีประจักษ์พยาน ที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดว่าตนมีอะไรบ้าง รอเปิดแค่ในชั้นศาล และขั้นต่อไปตนจะมีอะไรเหนือกว่านั้น

ในส่วนของตัวเองที่โดนโทษไปด้วยก็เคารพในคำพิพากษา แต่เชื่อว่ายังมีพยานหลักฐานอยู่ว่าเหตุการณ์จริงๆ เป็นอย่างไร ซึ่งตนขออุบไว้ก่อนว่าจะมีวิธีการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์อย่างไร และตอนนี้ตนถือว่าตนเป็นทนายความที่ผ่านมาทุกมิชชั่นแล้ว

สำหรับคดีอื่นๆ ก็อยากให้รีบนำเข้ามา เพราะเป็นเรื่องเก่าเก็บแล้ว ซึ่ง แอม จะจ้างตนเป็นทนายความต่อหรือไม่ หรือจะไปใช้ทนายขอแรงจากศาล ก็ต้องแล้วแต่แอม แต่หากแอมไม่ได้เลิกจ้าง ตนและทีมทนายความของแอม ก็จะทำคดีนี้ต่อไป เพราะความลับและเอกสารในสำนวนนี้ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งเมื่อวานนี้หลังมีคำพิพากษา แอมก็ถามแค่ว่า "พี่พัช เราอุทธรณ์ต่อใช่ไหมคะ ทำเลยไหม" และแอมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เขายังไงก็ได้

ทนายพัช บอกอีกว่า ในส่วนของอีก 13 คดี ไม่ได้กังวลว่าผลจะออกมาเป็นแนวทางเดียวกัน เพราะทราบว่ายังสืบพยานไม่แล้วเสร็จ เรายังไม่รู้ว่ามีพยานเด็ดอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำผิดจริง แอมก็ต้องรับโทษ ถึงแม้ตนจะเป็นทนายความ แต่ก็ไม่แคร์ เพราะก่อนจะทำคดีก็เคยถามแอมแล้ว

กรณีที่ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมฟังคำพิพากษาว่า แอมก็ไม่ได้มีท่าทีเสียใจ ไม่ได้ร้องไห้ ไม่สลด และยิ้มแย้มแจ่มใสหัวเราะกับทนายในศาลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น ทนายพัช ยืนยันว่า ไม่ได้มีพฤติกรรมการหัวเราะเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนคำว่า "ไม่สลด" คงไม่ใช่ แต่จะนิ่งๆ มากกว่า และถามว่าทำไมต้องแสดงอาการสำนึก ควรเก็บอารมณ์มากกว่า ไม่จำเป็นต้องตีโพยตีพาย ดราม่าดูละครมากไปหรือไม่

ซึ่งการที่มีการซุบซิบกันระหว่างศาลอ่านคำพิพากษานั้น เป็นเพราะตนพยายามบอกกับแอมว่า ให้ทำใจดีๆ เก็บอารมณ์ อย่าร้องไห้ อย่าโวยวาย แบะพยายามบอกให้ระวังตัว ระวังด้านหลัง เพราะเคยเกิดเหตุการณ์ในศาลก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเปิดเผยไม่ได้ แต่ศาลเคยเตือนฝั่งตรงข้ามไปแล้วก่อนหน้านี้ ตนจึงต้องพยายามระวัง ส่งซิกให้ทนายช่วยไปยืนด้านหลังแอมไว้

ส่วนที่บอกว่าตนหันไป จุ๊ๆ บอกว่าอย่าเสียงดัง ก็เพราะว่าการอยู่ในศาลควรสำรวม แต่พอศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว มีเสียงดังเกิดขึ้น ทั้งที่ศาลยังอ่านไม่จบ ตนจึงหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น และบอกว่าให้อย่าเสียงดัง เพราะศาลท่านอ่านอยู่

โดยหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปขอคัดคำพิพากษาจากศาล ซึ่งอาจจะต้องรอประมาณ 15 วัน และพร้อมจะยื่นอุทธรณ์ต่อทันที รวมถึงแอมเองยังได้บอกด้วยว่า อาจจะมีการฟ้องบุคคลบางคนด้วย ขอให้รอดูต่อไป



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-D1PUSpZa2g

คุณอาจสนใจ

Related News