คลิปเต็มรายการ

‘แม่ของก้อย’ จี๊ดใจ ‘แอม ไซยาไนด์’ ยิ้มได้แม้พัวพัน 14 ศพ ‘รพี’ ถามดังอยู่ร่วมในสังคมได้หรือ?

โดย JitrarutP

21 พ.ย. 2567

119 views

วันที่ 21 พ.ย. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ ทองพิน, ส้ม แม่และพี่สาวของก้อย (ผู้เสียชีวิต), ต้าร์ สามีของหนิม (ผู้เสียชีวิต) และ รพี ชำนาญเรือ ผู้ช่วยเหลือทางคดี, รพีพัฒน์ สมัคราษฎร์ ทนายความ ถึงกรณี “แอม” วางยาไซยาไนด์คร่าชีวิต 14 ศพ

พี่สาวของก้อย เผยในรายการโหนกระแสว่า วันที่อยู่ในศาลตนหวังลึกๆ ว่า แอมจะเดินมาขอทา เพราะก็เคยรู้จักกัน แต่กลับไม่ได้ยินประโยคนั้นเลย แอมยิ้ม ขาตางอน ทาปากแดง ในขณะที่ครอบครัวของเรามีแต่เสียน้ำตา

ด้านแม่ของก้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทนายพัช ทนายความส่วนตัวของแอม พูดจาไม่ดีใส่ตน ถามว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า บอกด้วยว่าจะขยี้ให้เละเลย พูดจาดูถูก ดูหมิ่นผู้ตาย เหยียดหยาม ข่มขู่ ไม่ให้เกียติครอบครัวผู้สูญเสีย ตนเจ็บหัวใจมาตลอด

เช่นเดียวกับ ต้าร์ สามีของหนิม อีกหนึ่งผู้เสียชีวิต ที่เข้าไปฟังคำพิจารณาคดีแอมกับก้อยในวันนั้น ได้กล่าวเสริมว่า “บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีวันนั้น เศร้า อึดอัด มีความยั่วยุโมโหคุณแม่และครอบครัวผู้ตาย อยากให้นึกภาพ ทนายพัชพูดไปยิ้มไป ยักคิ้วหลิ่วตา จีบปากจีบคอพูด”

ขณะที่ ทนายรพีพัฒน์ ให้ข้อมูลทางคดีว่า คดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน แต่พยานบอกเล่า นิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อมต่างๆ มีน้ำหนัก สามารถรับฟังเพื่อพิสูจน์การกระทำได้ว่า แอมมีส่วนในการตายของก้อย เพราะแอมเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับก้อย แอมเมื่อถูกฟ้องคดี ในชั้นสอบสวนไม่ยอมให้การเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ อ้างว่าจะให้การในชั้นศาล แต่พอเมื่อถึงเวลาที่จะเบิกความต่อศาลแอมกลับไม่เบิกความต่อศาลเพื่อไม่แสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง มันเป็นข้อพิรุธ เพราะไม่มีใครที่ไหนที่จะไม่พยายามแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง

โดยในช่วงท้าย รพี ชำนาญเรือ ผู้ช่วยเหลือทางคดี ได้ตั้งคำถามไปยังสภาทนายความถึงกรณี “ทนายพัช” ว่า ทนายที่มีบุคลิกลักษณะนิสัยแบบนี้ ควรมีหรือไม่ในประเทศไทย คำพิพากษาพูดไว้ชัดเจนว่าอาชีพทนายมีเกียรติศักดิ์ศรี แต่มายุยงให้ลูกความตัวเองซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน แนะนำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“ส่วนแอม ในขณะที่ฟังศาล เขายังยิ้มได้ ไม่รู้สึกรู้สา ผมเชื่อว่าเขาออกมาอยู่ในสังคมได้สบาย แต่ผมอยากถามว่าสังคมจะอยู่กันยังไง ถ้ามีบุคคลแบบนี้อยู่ในสังคม คิดเอาแล้วกัน 14-15 ศพ ที่ยังพัวพันอยู่ในคดีนี้ สังคมจะยินยอมให้คนแบบนี้ อยู่ร่วมกับพวกเราได้ใช่ไหมครับ” นายรพี ตั้งคำถามทิ้งท้าย...

คุณอาจสนใจ

Related News