สังคม
“บิ๊กโจ๊ก” ซัด ผบ.ตร. เลือกปฏิบัติ-ดำเนินการทางวินัยไม่เป็นธรรม แฉเส้นเงินเว็บพนันเอี่ยวตำรวจชั้นผู้ใหญ่เพียบ
3 ชั่วโมงที่แล้ว
35 views
“บิ๊กโจ๊ก” ซัด ผบ.ตร. เลือกปฏิบัติ-ดำเนินการทางวินัยไม่เป็นธรรม พร้อมแฉเส้นเงินเว็บพนันเอี่ยวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เพียบ ยันรักองค์กร ไม่อยากให้เสียหายเพราะตำรวจบางคน
พลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นข้อมูลพร้อมแผนผังรายชื่อบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ให้ตรวจสอบเส้นเงินต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ภายหลังจากเสร็จสิ้น การชี้แจงต่อกรรมาธิการ กว่า 3ชั่วโมง พลตำรวจเอกทสุรเชชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า นอกจากการให้ข้อมูลต่อ กมธ.เเล้ว ตนยังได้ยื่นเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องเส้นเงิน การรับผลประโยชน์จากเว็บพนันของตำรวจ ประมาณ 30 กว่าคน เพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่พิทักษ์และคุ้มครองระบบคุณธรรมของข้าราชการตำรวจ (กพค.ตร.) เคยชี้มูลไปแล้วต่อพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเอกสารชิ้นนี้ เมื่อวานตนเองถูก พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง นายกสมคมตำรวจ ได้ตำหนิตนว่าเหตุใดมีข้อมูลเเล้วจึงไม่นำมาให้ ตนขอฝากไปยังพลตำรวจเอกวินัย ว่าข้อมูลเรื่องนี้ตนเองเคยมีหนังสือไปถึง พลตำรวจเอก กิตติรัตน์ พันธ์เพชร ผบ.ตร. ตั้งเเต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 แล้ว ซึ่งปัจจุบันผ่านมาเป็นปี แต่บิ๊กต่ายยังนิ่งเฉย แม้จะอ้างว่ามีการตั้งคณะกรรมการแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ตนเองยังได้นำเอกสารเส้นเงินเว็บพนัน ที่จ่ายไปยังชุด PTC เป็นชุดทำงานที่ถูกเเต่งตั้งมาเพื่อปราบปรามเว็บพนัน ซึ่ง พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ อยู่ในชุดทำงานนี้ด้วย ซึ่งจะไปเกี่ยวพันกับ "ส.ส.ช ช้าง" เพราะเป็นเส้นเงินที่เชื่อมโยงกัน ยืนยันว่าสิ่งที่ตนยื่นไป โดยเฉพาะเรื่องเส้นเงิน ตนให้ความยุติธรรม ซึ่งตนไม่เชื่อว่าบุคคลเหล่านั้นจะรับเงิน แต่ในเมื่อวันนี้ตนเองไม่ใช่ตำรวจ ตนเองเป็นประชาชนที่จ่ายภาษี จึงมีสิทธิ์ยื่นต่อ กมธ.ให้ตรวจสอบ หากผลเป็นจริงตามที่ตนร้อง นั่นหมายความว่า “ท่านมีหน้าที่ปราบปราม แต่กลับรับเงินเสียเอง”
ขณะเดียวกันทางด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็ได้เปิดเผยข้อมูลนี้เช่นกัน แต่รายละเอียดในเรื่องเงินต่าง ๆ มีการโอนเงินไปยังข้าราชการตำรวจบางคน ร้อยกว่าครั้ง และในนั้นยังมีการโอนเงินไปให้ภรรยา “บิ๊ก ต.เต่า” - พี่ชาย บิ๊ก ต.เต่า - พี่สาว บิ๊ก ต.เต่า - นายเวร บิ๊ก ต.เต่า แสดงให้เห็นว่า “บิ๊ก ต.เต่า” เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายทุกเรื่อง
ส่วนการประชุมในภาคบ่าย จุดเริ่มต้นเกิดจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เรื่อง"ตั๋วหนู" มีการแต่งตั้งนายตำรวจข้างกายคนหนึ่งของนายกรัฐมนตรี ยศพลตำรวจโท ซึ่งเกี่ยวข้องกับผับจินหลิงและตู้ห่าว ซึ่งนายตำรวจท่านนี้ถูกตนเองดำเนินคดี และคดีอยู่ใน ปปช.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พลตำรวจเอก กิตติรัตน์พันธ์เพชร ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ทำเนียบรัฐบาล ตำหนิ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กรณีคำพูดว่า “ตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ” มองว่า พูดดังกล่าวรุนเเรงเกินไป เป็นคำพูดที่ทำให้ตำรวจเจ็บช้ำ ในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ พลตำรวจเอก สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้สังคมมองว่าตำรวจไม่ได้ทำดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการปราบปรามเเก๊งสเเกมเมอร์-เว็บพนัน ซึ่งการที่ตนเองพูดถึงว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรม ไม่ได้เหมารวมถึงตำรวจทั้งเเผ่นดิน แต่พูดถึงตำรวจบางกลุ่ม โดยเฉพาะตำรวจไซเบอร์ ที่มีหน้าที่ปราบปรามเว็บพนัน แต่สุดท้าย ตำรวจบางรายรับเงิน-มีผลประโยชน์จากเว็บพนัน ซึ่งตำรวจเพียงหยิบมือเดียวทำให้ตำรวจกว่า 2 แสนคน ต้องเสียหายสิ่งที่ ผบ.ตร.ควรทำ คือรีบแก้ไขและจัดการปัญหาดังกล่าว ไม่ใช่มาพูดโต้แย้งกับตนเอง พออธิบายกับสังคมหรือตอบคำถามกันไม่ได้ ก็พยายามจะเอาตำรวจทั้งประเทศมาพูดให้เกลียดชังตนเอง
ก่อนหน้านี้ในเรื่องของเส้นเงินจากเว็บพนันไม่มีมาแตะเเม้เเต่เส้นเดียว ตนเองถูกให้ออกจากราชการ แต่ตำรวจบิ๊ก ต.เต่า มีเส้นเงินโอนเข้าคนใกล้ชิดร้อยกว่าครั้ง กลับไม่ถูกดำเนินการใดๆ มองว่า ผบ.ตร.เลือกปฏิบัติ
เมื่อถามถึงกรณี พลตำรวจเอก กิตติรัตน์ พันธ์เพ็ชร ผบ.ตร. ระบุถึงอดีตตำรวจบ้านปทุมวัน ไม่ควรทำร้ายบ้านตัวเอง คำพูดนี้คิดว่าหมายถึงใคร พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์" ยอมรับว่าหมายถึงตนเเน่นอน เพราะตนเป็นคนบ้านปทุมวัน ท่านจะเกลียดผมไม่เป็นไร หากรักองค์กรจริง ท่านจะต้องปกป้อง-รักษาองค์กร ช่วยกันปราบปรามผู้ที่ทำให้องค์กรเสื่อมเสีย
แท็กที่เกี่ยวข้อง บิ๊กโจ๊ก ,ผบ.ตร. ,เส้นเงินเว็บพนัน