สังคม

แม่ลูกร้องสื่อ นายจ้างหลอกขายฝากที่ดิน-ให้นำรถไถเข้าไฟแนนซ์ หนีหายหลังได้เงิน 4 แสน

โดย chutikan_o

14 ม.ค. 2568

449 views

แม่วัย 60 และลูกชายวัย 31 กลัวไร้ที่อยู่ ถูกนายจ้างหลอกขายฝากที่ดิน หลอกซ้ำให้นำรถไถเข้าไฟแนนซ์ ก่อนหนีหายหลังได้เงินร่วม 400,000 บาท ติดต่อไม่ได้

เมื่อช่วงสายของวันที่ 14 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเรื่องร้องทุกข์ แม่วัย 60 และลูกชายวัย 31 ปีถูกนายจ้างแสบหลอกขายฝากที่ดิน พร้อมทั้งถูกหลอกซ้ำให้นำรถไถไปเข้าไฟแนนซ์ ซึ่งนายจ้างแสบเป็นหญิงรายดังกล่าวหลังจากได้เงินร่วม 400,000 บาท ไม่สามารถติดต่อได้

แม่อายุ 60 ปี เดินทางมาพร้อมกับลูกชาย อายุ 31 ปี ที่ถูกนายจ้างอ้างขอยืมโฉนดที่ดินไปขายฝาก พร้อมทั้งนำรถไถไปทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 90,000 บาทโดยนำเอกสารมายืนยันกับผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งมีเอกสารที่เขียนด้วยลายมือในการที่ดินไปฝากขาย โดยมียอดการขายฝากทั้งสิ้น 480,000 บาท เป็นเงินต้น 4 แสน ดอกเบี้ยเมื่อครบปี 80,000 บาท

เบื้องต้นผู้เสียหายผู้เป็นแม่ อายุ 60 ปี กล่าวว่า เขาบอกว่าเขาจะไปลงทุนถมดิน ตอนนี้เขาทำค้างอยู่แต่ไม่มีทุน เธออยากได้ที่คืน อยากให้คู่กรณีมาไถ่ที่คืนให้ มันเป็นที่มรดกของพ่อแม่ เธอรู้จักผู้หญิงคนนี้เพราะเขาไปหาที่ที่ขายของ บอกว่าลูกชายไปทำงานด้วย เขาไม่มีเงินลงทุน ถามว่าเธอมีที่ไหม เธอบอกมี 1 แปลง เขาบอกขอยืมเธอ จึงถามลูกชายและโอนให้ลูกชายในวันที่เอาไปขายฝาก เธอก็ให้เงินเขาไปหมดเขา หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้

ส่วนทางด้านชายผู้เสียหาย อายุ 31 ปี กล่าวเพิ่มเติมว่า มีคนแนะนำให้ไปถมดินให้เขา ตนเองจึงนำรถไถเข้าไปทำงาน แล้วเขาขอที่ดินไปลงทุนส่วนตัว ตนเองไม่มี มีแต่ที่ของแม่ที่ติดจำนองอยู่ 100,000 บาท และดอกเบี้ย 10,000 บาท เขาบอกจะหานายทุนมาเอาออก แล้วมาทำขายฝากเพื่อให้ได้เงินเพิ่มเอาไปลงทุน พอเขาขายฝากให้เสร็จแล้วเขาดันรถตนออกเลย ทั้งๆ ที่เพิ่งไปซื้อรถมาใหม่ หลังจากนั้น 6-7 เดือน มีปัญหาเรื่องเงินต้องการใช้เงินจึงไปขอยืมเงินเขา 90,000 ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ชำระไปแล้วแล้ววันที่ตนเองมีเงินจะไปเอารถออกมา เขาให้ชำระ 145,000 บาท บอกว่าเป็นค่าจัดการ โดยต้องโอนเงินให้ก่อนที่จะเห็นรถ ซึ่งเมื่อ 2 เดือนที่แล้วยังติดต่อคู่กรณีได้ แต่ตอนนี้เขาไม่รับสาย ตอนนี้ทุกข์ใจเพราะเป็นทรัพย์สินชิ้นเดียวของบ้าน ที่ดินก็ไม่ได้คืน ตอนนี้ต้องเอาบ้านเข้าจำนองเพื่อส่งค่างวดรถไถทั้งที่รถก็ไม่ได้อยู่ด้วย ตนเองไปแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2567 แต่ก็ไม่ทราบว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว อยากให้สื่อช่วย อยากฝากถึงคู่กรณีให้ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำไว้

ล่าสุดผู้เสียหายทั้งสองถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ เนื่องจากเกรงว่าที่ดินมรดกจะถูกยึดไป เนื่องจากความไว้ใจกับนายจ้างหญิงแสบร้ายดังกล่าว พร้อมทั้งกราบวิงวอนให้นายจ้างหญิงรายนี้ กลับมาไกล่เกลี่ยพูดคุยพร้อมทั้งชำระหนี้สินที่ค้างอยู่ เนื่องจากขณะนี้ไม่สามารถที่จะติดต่อได้ทุกช่องทาง



คุณอาจสนใจ

Related News