่8 เชื่อมจิตรับทราบข้อหา ยันไม่ได้ฉ้อโกงประชาชน ประชันหน้าแก๊งอเวนเจอร์

20 กันยายน 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ยกแก๊งเชื่อมจิต ทั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอม และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เมื่อเวลา 10.15 นาที ทางด้านของทนายธรรมราช​ สาระปัญญา ทนายความ พร้อมพวกทั้ง 8 คน ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เปิดเผยว่า ตามประเด็นที่มีเรื่องของการถกเถียง เรื่องของพระพุทธเจ้าใน 7 ประเด็น ที่เป็นปัญหาถกเถียงกันกล่าวหาว่า สอนเชื่อมจิต ไม่ใช่จากพระไตรปิฎก เป็นมติเถียรและสมาคม ประเด็นแรก 7 ข้อที่กล่าวหามานี้ไม่ใช่มติเถรสมาคมมหาเถระสมาคมไม่เคยวินิจฉัยว่า เชื่อมจิตมีหรือไม่มีตามพระไตรปิฎก แต่เป็นความคิดเห็นของนายอินทพร จั่นเอี่ยม เพียงคนเดียว

วันนี้ตนออกมาพูดถึงเรื่องของ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาเลขาธิการเถรสมาคม ที่เป็นคำกล่าวอ้างของนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเลขาธิการมหาเถรสมาคมย้อนกลับไปในปี 2563 ภรรยาของ นายบุญเชิด รองผอ.สำนักพุทธฯ ต้องคดีเงินถอนวัดติดคุกหลายคดี ต้องหาฉ้อโกงเงินนับ 10 ล้าน แต่วันนี้ให้มาเป็นพยานในคดีเชื่อมจิต วันนี้ตนเองยืนยันจะดำเนินการแจ้งความกลับในข้อหาแจ้งความเท็จ และที่ออกมาเปิดโปร่งในวันนี้ ให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าผิดหรือถูก ที่บอกว่ามหาเถรสมาคมมีมติประเด็นคือไม่ใช่

ในส่วนขอข้อกล่าวหาในวันนี้ ให้การปฎิเสธทั้งหมด ยืนยันไม่ได้ฉ้อโกงประชาชน ในส่วนของข้อห้ามไม่ให้เด็ก 8 ขวบ ไปทำกิจกรรมเชื่อมจิต ห้ามนำรูปภาพของเด็ก 8 ขวบ ไปโพสต์เฟซบุ๊ก ในระยะเวลา 6 เดือน ได้รับทราบและได้หยุดกิจกรรม ในส่วนของเรื่องการทำวัตถุมงคล ไม่มีใครทำ ไม่มีการทำเครื่องราง เป็นแค่เครื่องประดับ เนื่องจากญาติธรรมอยากให้ออกแบบให้แค่นั้น

ด้านแม่ของเด็ก 8 ขวบ เปิดเผยว่า ในวันที่น้องไปทำบุญ น้องไปถวายสังฆทาน ท่านมาให้พรน้อง มารับกิจนิมนต์ แต่โซเชียลเอาไปเป็นประเด็น อยากให้ไตร่ตรองก่อน ว่าทำไมต้องเป็นประเด็น ต้องพิจารณาตัวเอง ส่วนภาพที่มาลงทางเฟซบุ๊ก ก็เป็นภาพที่ท่านอนุญาต เป็นแค่ภาพไปกราบท่านแค่นั้นเอง

หลังจากที่ได้รับฟังคำแถลง ทนายอนันชัย ไชยเดช เปิดเผยว่า การดำนเนิคดีเชื่อมจิต ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาดำเนินการ ก่อนที่จะมีมติ มหาเถรสมาคมออกมาด้วยซ้ำ หลังจากนั้นเมื่อมติเถรสมาคมออกมาเราจึงนำมาใช้ในการอ้างอิง แต่ที่ทนานธรรมราชอ้างว่า การเชื่อมจิตไม่มีในพระไตรปิฎก ไม่ใช่มติเถรสมาคม แต่เป็นความเห็นของสำนักพุทธน่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของนักกฎหมายเองมาก ส่วนเรื่องของ ผอ.บุญเชิด ท่าน รอง ผอ.บุญเชิด ที่ทนายธรรมราช เอาภรรยาของท่านมาประจาน ให้สื่อมวลชนทราบตนถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก