ศาลยกคำร้องกรณีครอบครัวเชื่อมจิต ฟ้องทนายอนันต์ชัย พร้อมพวก กล่าวหาน้องเชื่อมจิตเป็นออทิสติก

วันนี้ (25 ก.ย.) ศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสุราษฎร์ธานี นัดอ่านคำสั่งศาลกรณีครอบน้องเชื่อมจิต ร้องต่อศาลให้คุ้มครองน้องเชื่อมจิต ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า มีพฤติกรรมผิดปกติหรือไม่ โดยสังเกตจากช่วงที่น้องเผยแพร่ธรรมะ มีท่าทีและบุคลิกคล้ายกับเด็กออทิสติก ทำให้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เป็นเหตุให้แก๊งเชื่อมจิต นำโดยน้องเชื่อมจิตมาร้องต่อศาล เพื่อคุ้มครองสิทธิเด็ก ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชน



แต่สุดท้ายศาลยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเป็นไปเพื่อปกป้องเด็ก มากกว่าเป็นโทษกับเด็ก และเป็นการตั้งข้อสังเกต โดยสอดคล้องกับพฤติกรรมที่ทำไป เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา และปกป้องตัวเด็กเอง จากการนำเด็กไปหาผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว



ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิกองทัพธรรม เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต ทั้งเรื่องที่เด็กเชื่อมจิตสอนธรรมะ ไม่เป็นไปตามพระไตรปิฎก และยังเริ่มสอนตั้งแต่อายุ 5 ขวบ มันเลยดูผิดปกติไปหมด ทำให้ศาลมีคำสั่งในวันนี้ พอเห็นคำพิพากษาก็หายเหนื่อย



อย่างไรก็ตามตั้งแต่ศาลมีคำสั่งห้ามหาผลประโยชน์จากเด็ก แต่กลุ่มเชื่อมจิตก็ยังไม่หยุด ยังมีการออกผลิตภัณฑ์นิรมิตช็อป ผ่านไลน์โอเพ่นแชต โดยให้เด็กวาดการ์ตูน แล้วทิ้งปริศนาไว้ให้สาวก จากนั้นเด็กก็มาสอนว่ามันจิต แล้วก็ขาย ซึ่งมันก็เข้าข่ายขัดคำสั่งศาล ที่ห้ามหาผลประโยชน์จากเด็กในการสอนธรรมะ แต่นี่ทำอย่างต่อเนื่อง และทำมาแล้วหลายครั้ง หลังจากนี้จะไปแจ้งที่ พม.



ส่วนคดีที่ตำรวจ ปอท. แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา กับพ่อแม่ หมอ แอดมินเพจ และทนายความของเด็กเชื่อมจิต รวม 8 คน โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า จะยื่นฟ้องศาลภายในไม่เกิน 2 เดือน เดี๋ยวเราจะได้เห็นภาพตระกูลพญานาคขึ้นศาล ไปเจอกับครุฑที่อยู่บนศาล แทนที่จะได้ไปโรงเรียน แต่เด็กต้องมาขึ้นศาล เป็นภาพที่น่าอนาถ แต่เขายังไม่สำนึก



ด้านอี้ แทนคุณ จิตอิสระ เผยว่า รู้สึกดีใจที่ศาลมีคำสั่งออกมา ซึ่งสิ่งที่เราทำก็เพื่ออยากจะช่วยคุ้มครองเด็กเท่านั้น และอยากบอกว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นคนไทยอย่าเพิ่งเบื่อ ขอให้ติดตามเรื่องนี้ให้ถึงตอนจบ พระเอกจะต้องชนะ ทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลาย และอยากฝากบอกว่า ทุกพฤติกรรมของเขาที่ยังทำอยู่ อยู่ในสายตาของพวกเราตลอด เราเก็บทุกรายละเอียด เขาจะอ้างว่าเป็นเทปเก่า แต่เจตนาเขาคือตั้งใจเผยแพร่ ซึ่งอันนี้จะเป็นการจงใจละเมิดคำสั่งศาลหรือไม่ ต้องดำเนินกันต่อไป

ส่วนเรื่องที่ทนายของฝ่ายเด็กเชื่อมจิต จะไปยื่นตรวจสอบ ผอ.สำนักพุทธฯ ที่ ปอท. ตนอยากบอกว่าพวกตนจะช่วย ผอ.สำนักพุทธฯ จะมีการฟ้องกลับแน่นอน เรื่องที่เขาไปประจาน พูดพาดพิงผู้อื่น รวมทั้งหลายกรณีพูดพาดพิงถึงพี่อ้อ ซึ่งเป็นเรื่องที่สุภาพบุรุษเขาไม่ทำกัน สิ่งที่เขาทำมันจะเข้าตัว นอกจากจะทำให้เขาไม่มีที่ยืนแล้ว เขาอาจจะไม่มีที่อยู่ด้วย เขาอาจจะได้ไปอยู่รัสเซียอย่างที่เขาต้องการก็ได้