ตำรวจเตรียมแถลงคดีเรือน้ำมันของกลาง หลังพบลอยลำในน่านน้ำสงขลา แต่น้ำมันกว่า 3 แสนลิตร

จากกรณีเรือของกลาง พร้อมน้ำมันเถื่อนบรรจุภายในเรือ จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือ เจ.พี. บรรจุน้ำมันเถื่อน ประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 7 คน , เรือซีฮอด บรรจุน้ำมันเถื่อน ประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 6 คน , และเรือดาวรุ่ง บรรจุน้ำมันเถื่อน ประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 5 คน หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย. 67) เจ้าหน้าที่ได้พบเรือน้ำมันของกลางทั้ง 3 ลำแล้ว ก่อนนำกลับมาที่ จ.สงขลา โดยจะมีการแถลงรายละเอียดของคดีในวันนี้ (17 มิ.ย. 67)



สำหรับเรือทั้ง 3 ลำ ที่ถูกพบ เบื้องต้นมีรายงานว่า ตำรวจน้ำ พบเรือทั้งหมด ถูกจอดลอยลำทิ้งไว้ โดยมีลูกเรือเหลืออยู่บนเรือทั้งหมด ประมาณ 6-7 คน จากเกือบ 20 คน ที่ได้รับแจ้งข้อมูลก่อนหน้านี้ แต่ไม่พบน้ำมันของกลางกว่า 330,000 ลิตร



อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้รับข้อมูลจาก “นายเล็ก” ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกเรือที่จะต้องขึ้นเรือ 1 ใน 3 ลำนี้ด้วย แต่เมาหลับไป จึงไม่ได้ขึ้นเรือ โดยอ้างว่า เรือทั้ง 3 ลำ มีเส้นทางไปยังเกาะกูด จ.ตราด เพื่อมุ่งหน้าออกไปยังน่านน้ำประเทศกัมพูชา เนื่องจากคาดว่าได้รับคำสั่งจาก “โจ้ ปัตตานี” ที่หลบหนีคดีน้ำมันเถื่อนอยู่ในประเทศกัมพูชา เป็นผู้สั่งการให้เรือทั้ง 3 ลำ ไปขนย้ายน้ำมันขึ้นบก ที่ประเทศกัมพูชา แต่ต่อมากลับพบว่า เรือทั้ง 3 ลำ อยู่ในน่านน้ำ จ.สงขลา จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นการปล่อยข่าวให้เจ้าหน้าที่เกิดความสับสน ส่วนที่พบเรืออยู่ในจ.สงขลา ก็เชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกับเจ้าของเรือตัวจริง เพราะเรือทั้งหมด มีถิ่นที่อยู่ใน จ.ปัตตานี ในชื่อของ “นายโจ้ ปัตตานี”



ส่วนน้ำมันที่สูญหาย มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่หลบหนีไปอีกประมาณ 10 คน จะเป็นผู้ลักลอบนำไปขายให้กับเรือประมงกลางทะเล ซึ่งกรณีนี้ ตำรวจต้องเร่งติดตามกลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนี และสืบสวนขยายผลว่า ได้นำน้ำมันไปขายให้ผู้ใดบ้าง และบุคคลใดเป็นผู้บงการ สั่งให้เรือทั้งหมดหลบหนีจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ



ส่วนการขับเรือทั้ง 3 ลำ เชื่อว่าเป็นการใช้ประสบการณ์ และคำนวนจากแผนที่ โดยขับตามกันมา ตั้งใจนำน้ำมันส่งขายกลางทะเล ก่อนปล่อยเรือคืนตำรวจ