สังคม

เด็ก 4 ขวบยังโคม่า เป็นเจ้าหญิงนิทรา ผัวเมียรับเลี้ยงเด็กปัดทำร้าย-ขืนใจ แจงรอยแผลทั่วตัว

โดย nattachat_c

26 มี.ค. 2567

720 views

ความคืบหน้า กรณีเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่จังหวัดพิจิตร บาดเจ็บสาหัส มีเลือดคั่งในสมอง ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ และอวัยวะเพศฉีกขาด ซึ่งแม่เชื่อว่า ลูกสาวถูกนางรัตนาพร และนายทรัพย์สิน สองผัวเมียที่รับจ้างเลี้ยงเด็ก ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน


โดยแม่ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ส่วนน้องไอซ์ เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งน้องยังมีอาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

-------------

วานนี้ (25 มี.ค. 67)  ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับพ่อแม่ของน้องไอซ์ ที่ไปเฝ้าอาการลูกสาว


คุณแม่บอกว่า ตนต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ จึงต้องจ้าง นางรัตนาพร และนายทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ให้เลี้ยงน้องไอซ์ และเวลาวิดีโอคอลมาหาลูก ก็จะได้เห็นเฉพาะใบหน้าของลูกเท่านั้น จะไม่เห็นลำตัว จึงไม่เห็นว่าลูกมีบาดแผลตามร่างกาย  


จนมารู้สึกผิดสังเกต เมื่อลูกซึม ๆ เหมือนไม่ค่อยอยากคุย จนกระทั่ง นางรัตนาพร โทรมาบอกว่า ลูกมีอาการชัก ล้ม และต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลยุพราช จังหวัดพิจิตร จากนั้น ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์  


จนถึงขณะนี้ น้องไอซ์ยังอาการไม่ดีขึ้น ไม่มีอาการตอบสนอง สมองบวม และมีเลือดคั่ง ปอดช้ำ มีแผลฟกช้ำตามร่างกาย อวัยวะเพศฉีกขาด  


ตนเห็นสภาพลูกแล้วก็ติดใจหลาย ๆ อย่าง ทำใจให้เชื่อไม่ได้ที่ นางรัตนาพร บอกว่า น้องปั่นจักรยานแล้วล้ม จึงไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจสืบหาความจริง


ส่วนที่นางรัตนาพร อ้างว่า เคยติดต่อให้พ่อแม่พาน้องไอซ์กลับไปเลี้ยง แต่พ่อแม่ไม่ยอมเอาตัวกลับไป แม่น้องไอซ์ยอมรับว่า นางรัตนาพร เคยบอกให้ตนเอาลูกกลับไปเลี้ยงจริง แต่ตนมาทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ต้องย้ายสถานที่อยู่บ่อย ๆ เงินเดือนก็ไม่เพียงพอ และตนเลิกกับพ่อน้องไอซ์มาประมาณ 6 เดือนแล้ว ทำให้ตอนนั้น ตนยังไม่พร้อมที่จะดูแลลูก  


แต่เมื่อต้นเดือนมีนาคม ตนได้ติดต่อไปเพื่อจะเอาลูกกลับมา แต่ตนมีเพียงค่าเดินทางไปรับลูกเท่านั้น ไม่มีเงินจ่ายค่าเลี้ยงดู ทำให้นางรัตนาพร และนายทรัพย์สิน ไม่อยากให้ตนเอาลูกกลับไป โดยอ้างว่า กลัวตนจะเอาลูกไปทิ้ง และยังจะเอาน้องไอซ์ไปเข้าโรงเรียน ตนจึงยังไม่ได้ไปรับลูก กระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้น

-------------

ด้าน พ่อของน้องไอซ์ กล่าวว่า ทางคนเลี้ยงเคยติดต่อตนให้พาลูกกลับไปเลี้ยงจริง ซึ่งอดีตภรรยาก็มาขอให้ตนช่วยรับลูกไปเลี้ยงก่อน ตนจึงติดต่อไปช่วงต้นเดือนมกราคม โดยคุยกันผ่านวีดีโอคอล


แต่น้องไอซ์กลับจำพ่อไม่ได้ และน้องยังบอกว่าไม่อยากมาอยู่กับตน อยากอยู่กับคนเลี้ยงมากกว่า และยังเรียกนางรัตนาพรว่าแม่ทุกคำ ตนจึงมองว่าเขาน่าจะเลี้ยงได้ดีกว่า และลูกก็ดูจะติดทางนั้นด้วย จึงตัดสินใจ ไม่เอาลูกกลับมา

-------------

ขณะที่ นางรัตนาพร และนายทรัพย์สิน สองสามีภรรยาที่รับจ้างเลี้ยงน้องไอซ์ เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.67)  ตำรวจ สภ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เรียกตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง


ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ และยืนยันว่า น้องไอซ์บาดเจ็บจากการตกบันได ส่วนอวัยวะเพศฉีกขาดเพราะปั่นจักรยานล้ม  บาดแผลตามร่างกายอื่น ๆ ก็เกิดจากล้มโดนเตาถ่าน และเล่นในโอ่งน้ำ


นางรัตนาพร ยังบอกด้วยว่า ตนเองเป็นเพื่อนของแม่เด็ก ที่บอกว่ารับจ้างเลี้ยง ก็แทบจะไม่ใช่ เพราะตลอดเวลา 2-3 เดือน ที่เลี้ยงเด็กมา แม่เด็กโอนเงินให้เพียง 200 บาท แต่ตนรับเลี้ยงเด็กไว้ เพราะสงสารที่ถูกขับไล่ออกจากบ้าน ไม่มีที่อยู่ 


ส่วนเด็กมีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่ยอมกินอาหาร เวลาจะเดินจะวิ่ง ก็มักล้มง่าย ๆ ส่วนที่ลำคอเด็กมีแผล เพราะตอนจับน้องไอซ์อาบน้ำ น้องจะชอบหนี ตนก็ดึงน้องกลับมา แต่พลาดมือไปโดนที่ลำคอ ส่วนเรื่องอวัยวะเพศฉีกขาดนั้น สามีของตนยืนยันว่าไม่ได้ทำ เพราะต้องทำงานทุกวันหาเช้ากินค่ำ ค่าแรงแค่วันละ 400 บาทเท่านั้น ยืนยันว่า ตนสองคนเป็นผู้บริสุทธิ์


แต่เจ้าหน้าที่พบว่า สองผัวเมียให้การไม่ตรงกัน และยังพบว่า นางรัตนาพร ส่งลูกชายวัย 5 ขวบ ไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัย  


เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงลงพื้นที่ไปที่บ้านนางรัตนาพร ที่หมู่บ้านห้วยคต  ต.บางไผ่  อ.บางมูลนาก เพื่อหาหลักฐานมาประกอบสำนวนคดีอีกครั้ง    

-------------

นายสุนทร อินทร์รอด ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ครอบครัวนี้ไม่ค่อยได้สุงสิงกับใคร ทำให้ไม่รู้พฤติกรรมว่า ทำร้ายเด็กหรือไม่ แต่เคยเห็นเด็กวิ่งเล่นบนถนน  จึงมาสอบถามว่าทำไมปล่อยให้เด็กวิ่งบนถนน ซึ่งได้รับคำตอบว่า เป็นเพราะเด็กกล้ามเนื้อไม่ดีเลยให้วิ่งออกกำลังกาย


ส่วนลูกสาววัย 13 ปี ของนางรัตนาพร และนายทรัพย์สิน บอกว่า ที่น้องไอซ์ได้รับบาดเจ็บเพราะตกบันได ตนเองไม่ได้เห็นกับตา เพราะตนอยู่ที่บ้านตายาย ซึ่งอยู่หลังบ้านแม่ ห่างกันประมาณ 20 เมตร  นอกจากนี้ ที่บ้านยังมีเพื่อน ๆ ของตามานั่งดื่มเหล้าเป็นประจำ แต่ไม่เคยเห็นใครทำอะไรน้อง


ตำรวจยังวิดีโอคอล คุยกับลูกชายวัย 5 ขวบของนางรัตนาพร เพื่อถามเรื่องอุบัติเหตุ ขณะเล่นที่โอ่งน้ำเลี้ยงปลา แต่เด็กชายกลับบอกว่า รถล้มที่ท่อน้ำทิ้งหน้าบ้าน ทำให้ข้อมูลไม่ตรงกัน


พันตำรวจเอกถาวร รวมกิ่ง ผู้กำกับการ สภ.บางมูลนาก เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส


และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายทรัพย์สิน ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาหรือสามี ของตนโดยโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม  


แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และต้องรวบรวมพยานหลักฐานมาประกอบสำนวนคดีให้มากที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ โดยเฉพาะจากการสืบสวน ต้องนำพยานอีก 1 ปาก มาสอบสวน


ในขณะนี้ มีหลักฐานพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนพยานหลักฐานในการกระทำผิด  เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้ต้องหาพยานหลักฐานจากสิ่งแวดล้อม

-------------

คุณอาจสนใจ

Related News