สังคม

'แม่เด็ก 8 เดือน' ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ลูก - เปิดใจครั้งสุดท้าย ยันโยนลงน้ำ ขอโอกาสสังคมเริ่มต้นชีวิตใหม่

โดย passamon_a

1 มี.ค. 2566

625 views

นางสาว น. พร้อมพ่อ เปิดใจครั้งสุดท้าย ยอมรับทิ้งร่างลูกชายลงคลอง ทำคนเดียว ไม่มีใครรู้เห็นเพราะกลัว ขอโอกาสสังคมเริ่มต้นชีวิตใหม่ วอนสื่อมีจรรยาบรรณ หยุดถามคำถามซ้ำเติมจิตใจ


เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นางสาว น. แม่ของเด็กชายวัย 8 เดือน เปิดใจเป็นครั้งสุดท้าย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับสื่อมวลชน ที่วัดศิลามูล โดยการเปิดใจครั้งนี้ นางสาวน. ยินยอมให้ข้อมูลกับสื่อ โดยขอให้คุณวิภาดา นิ่มทอง นักข่าวของเรานั่งอยู่ข้าง ๆ ในการแถลงข่าวด้วย


โดยนางสาว น. ได้ขอโทษทุกคน ทั้งนักข่าว ตำรวจ และทุกฝ่าย ที่ทำให้วุ่นวาย จากนี้ขออย่ามาวุ่นวายกับครอบครัวของตนอีก และคนใกล้ชิดรวมทั้ง ญาติพี่น้อง เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี


ส่วนเรื่องรายละเอียดคดีขอให้ไปถามตำรวจ แต่ยืนยันว่า ตนเองโยนร่างลูกชายที่เสียชีวิต ลงไปในน้ำ ลักษณะไม่ได้ยืนแล้วโยนทันที แต่เป็นการนั่งลงและโยน ลงน้ำ จนมีเสียงดังกระทบกับผิวน้ำ ในตำแหน่งที่ไปทำพิธีโยนผ้าจริง และเห็นว่าร่างจมลงน้ำ ซึ่งในวันเกิดเหตุลูกชายสวมเสื้อลายขวางสีขาวดำ และแพมเพิส ไซซ์เอ็ม


"สาเหตุที่นำร่างลูกชายไปโยนลงน้ำโดยไม่บอกใคร เพราะกลัวจะถูกต่อว่า ไม่ใช่กลัวถูกทำร้าย ยืนยันว่าพูดความจริง ไม่ได้โกหก เพราะตนได้รับบทเรียนจากการโกหกมาเยอะแล้ว"


ส่วนที่ก่อนหน้านี้ไม่สารภาพกับตำรวจเพราะเจ้าหน้าที่เป็นผู้ชาย ใช้คำถามแบบผู้ใหญ่ ทำให้ตนไม่กล้าบอก และน้ำเสียงการพูด จึงทำให้ไม่ยอมรับและโกหกเรื่อยมา และหากพบศพ ก็ถึงจะยอมรับ แต่ทนแรงกดดันไม่ไหว และวันที่ หมอหนึ่งทำพิธี คือจุดที่ตนทิ้งลูกจริง ๆ จึงกล้าที่จะบอกและยอมรับสารภาพ เรื่องทั้งหมด ตนตัดสินทำคนเดียว ไม่มีใครรู้เห็นร่วมด้วย


นางสาว น. อยากขอโทษลูกที่ทำอะไรโดยไม่คิดให้ดีก่อน จากนี้จะเจอร่างหรือไม่ตนไม่ได้คาดหวัง แต่อยากขอให้เจอ ขอให้ได้อะไรที่เกี่ยวกับลูกจะนำไปทำบุญให้ลูก


ส่วนรายละเอียดที่พลาดทำลูกตก รวมถึงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด ขอให้ไปถามจากตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่สุดในชีวิต


ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าตนโกหกอีกครั้งหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่ได้โกหก ทุกอย่างเป็นความจริง เพราะตนได้บทเรียนจากการโกหกไปเยอะแล้ว จึงอยากขอโอกาสสังคมในการเริ่มชีวิตใหม่ อยากกลับไปเรียนหนังสือ เพราะก่อนหน้านี้ไม่กล้าตั้งเป้าหมายว่าจะทำอาชีพแพทย์ หรือตำรวจ ขอแค่หาเงินมาเลี้ยงตัวเองในแต่ละวันก็พอแล้ว พร้อมย้ำว่าตนก็รักลูกในแบบของตน แต่อธิบายไม่ถูก และในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ นางสาว น. ได้ยกมือไหว้สื่อมวลชนและสังคม ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น


นอกจากนี้ นางสาว น. และคุณพ่อ อยากขอร้องสื่อบางสำนัก กับการตั้งคำถามในบางประเด็น เพราะทำให้ทางครอบครัวรู้สึกไม่ดี  ที่ผ่านมามีสื่อบางสำนักถาม อ้างว่า กระแสสังคมสงสัยว่า พ่อและนางสาว น. เคยมีอะไรกันหรือไม่ ขนาดเพื่อนพ่อยังทำได้


ซึ่งคำถามนี้ ทำร้ายจิตใจและซ้ำเติมนางสาว น. และครอบครัวมาก พ่อของนางสาว น. บอกว่า ไม่ควรถามคำถามนี้ เพราะพ่อก็ไม่เคยรู้ลูกเป็นยังไง มารู้เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนพ่อก็ตอนเป็นข่าว ซึ่งพ่อไม่อยากฟ้องร้องเอาความอะไร แต่ขอร้องสื่อบางสำนักหยุดได้แล้ว


คำถามนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรถาม ตอนที่ได้ยินรู้สึกโกรธ และถามกลับไปว่าเอาสมองส่วนไหนคิด อยากให้สื่อดังกล่าวออกชี้แก้ข่าวให้ แต่ตนคงไม่ฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะไม่อยากมีเรื่องมีราว แต่ขอให้ออกมาแก้ข่าวให้


หลังการสัมภาษณ์เปิดใจ นางสาว น. และพ่อ ก็เดินทางกลับบ้านทันที


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5_r6n_WnFwQ

คุณอาจสนใจ

Related News