สังคม

‘เด็กเชื่อมจิต’ เตรียมมากรุงเทพฯ บุก พม. ขอคุ้มครองสวัสดิภาพ - สั่งให้สื่อหยุดพูดใส่ร้าย

โดย JitrarutP

23 พ.ค. 2567

325 views

‘น้องไนซ์ เชื่อมจิต’ เคลื่อนไหวต่อเนื่อง โพสต์บอกจะเดินทางมากรุงเทพ ขอให้ พม.คุ้มครองสวัสดิภาพ ให้กับอาจารย์น้องไนซ์ เพราะถูกสื่อใส่ร้าย และถูกเจ้าหน้าที่ พม.ข่มขู่ครอบครัว

เพจนิรมิตเทวาจุติ โพสต์ภาพน้องไนซ์กับพ่อแม่ พร้อมข้อความระบุว่า เรียน ญาติธรรมทุกท่าน เพื่อแจ้งความคืบหน้า ในวันที่ 4 มิถุนายน 2567 นี้ อาจารย์น้องไนซ์ จะเดินทางมากรุงเทพฯ และจะยื่นหนังสือแถลงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีที่ถูกใส่ร้าย เพื่อให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ รัฐมนตรี พม. ได้ทราบ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าอาจารย์น้องไนซ์ และครอบครัวถูกใส่ร้าย จากสื่ออย่างไร

และเพื่อขอให้ พม. ได้มีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพ ให้กับอาจารย์น้องไนซ์ กรณีถูกใส่ร้ายจากสื่อ และกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี ใส่ร้ายว่าเป็นลัทธิ ทำให้ได้รับความเสียหาย ทำให้อับอาย อันเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขอให้ท่านรัฐมนตรีกระทรวง พม. ได้มีคำสั่งให้สื่อหยุดพูดใส่ร้ายอาจารย์น้องไนซ์

นอกจากนั้นแล้ว จะมอบพยานหลักฐาน เกี่ยวกับกรณีที่ เจ้าหน้าที่ พม. (บางท่าน) ที่ข่มขู่ครอบครัว และอาจารย์น้องไนซ์ ในเรื่องต่างๆ (หลักฐาน มีทั้ง คลิปเสียงและวิดีโอ) และหลังจากนั้นจะเข้าให้การที่ สน.ทองหล่อ จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน

ขณะที่นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.พรรคก้าวไกล หรือ ทนายแจม ออกมาแสดงความเห็น เรื่องของเด็กเชื่อมจิต ที่กำลังถูกพูดถึงในสังคม ว่า ในฐานะที่ติดตามเรื่องนี้มาสักพักแล้ว มองในมุมของความเป็นเด็กและเยาวชน ที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาในสังคมจะต้องช่วยกันหลายภาคส่วน อะไรที่ดูผิดปกติในการเติบโตของเด็ก ทั้งสังคมหรือภาครัฐ ไม่สามารถที่จะปฏิเสธในการเข้ามาติดตามหรือตรวจสอบได้

และโดยธรรมชาติของเด็กวัยนี้ มีความฉลาดอยู่แล้ว คนมีลูกจะรู้ดีว่าเวลาพูดหรือบอกอะไร เด็กจะรับรู้ได้เร็วมาก ส่วนการเป็นเทพจริงหรือไม่จริง ก็จะเป็นข้อเท็จจริงอีกชุดหนึ่ง แต่คิดว่าหากมีเด็กคนหนึ่งเติบโตผิดปกติ สังคมจะต้องเข้าไปติดตามตรวจสอบว่าเด็กเติบโตอย่างปลอดภัยหรือไม่ มีสุขภาวะทางจิตและทางกายที่เป็นไปตามขั้นตอนปกติหรือไม่

การที่หน่วยงานจะตรวจสอบแต่ถูกพ่อแม่ปฏิเสธนั้น พ่อแม่มักจะคิดถึงความเป็นส่วนตัวของลูก แต่ขอตั้งคำถามเหมือนกันว่า สิ่งที่พ่อแม่ทำ มันเป็นการละเมิดอยู่แล้วหรือไม่ การอัดคลิปและเผยแพร่ ก็ละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกไปแล้วเหมือนกัน

ทนายแจม ยังกล่าวอีกว่า ถ้าพ่อแม่จะปกป้องลูก ก็ต้องอยู่ในมุมที่ต้องตอบคำถามได้ด้วยเหมือนกัน ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ก่อให้เกิดปัญหาในอนาคตหรือไม่



https://youtu.be/wiuXl5-ntlE

คุณอาจสนใจ

Related News