เจ้าหนี้อ้างลูกหนี้เอารถไปจำนำ เลยส่งทนายจัดการ ลูกหนี้โต้กลับ แค่จอดซ่อมที่อู่

หนุ่มวัย 37 ร้องให้ช่วยติดต่อเจ้าหนี้ โดนปฏิเสธรับเงิน แถมจู่ๆ มีทนายดังโทรติดต่อ บอกถ้าจะปิดยอดต้องจ่ายเพิ่มอีก 8 หมื่น ล่าสุดสามีเจ้าหนี้โต้ ลูกหนี้เอารถไปจำนำ ขณะลูกหนี้โต้กลับ แค่จอดซ่อมที่อู่

นายวิชัย จักรกระโทก อายุ 37 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.บุรีรัมย์ อยากให้ช่วยติดต่อ นางสุพิศ อายุ 51 ปี เจ้าหนี้ ซึ่งตนเองได้ซื้อรถสิบล้อกับนางสุพิศ เมื่อปี 2565 โดยราคาขายอยู่ที่ 600,000 บาท ตนเองจ่ายมา 400,000 บาทแล้ว เหลืออีก 200,000 บาท แต่นางสุพิศ ปฏิเสธการรับเงิน ไม่รับสาย ถึงขั้นที่นายวิชัย ต้องไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่โรงพัก ว่าอยากจ่ายเงินที่เหลือแต่ติดต่อไม่ได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม โทรศัพท์ตามเบอร์ที่อยู่ในหนังสือสัญญาซื้อขาย ปรากฏว่ามีปลายสายเป็นเสียงผู้ชายคาดว่าเป็นสามีของนายสุพิศ พอเจ้าหน้าที่ถามเรื่องรถที่ขายไป และรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ปลายสายตัดสายทันที แล้วติดต่อไม่ได้อีก

นายวิชัย กล่าวว่า เขาซื้อรถจากนางสุพิศ ในราคา 600,000 บาท ทำสัญญากันเอง โดยวางเงินวันรับรถ 300,000 บาท ที่เหลือ 300,000 ตามสัญญาให้จ่ายเป็นรายปี ปีละ 100,000 บาท ครบกำหนดชำระเดือน เม.ย. 67

ตอนนั้นทำสัญญาเดือนมีนาคม 2565 เดือนเมษายน เขาจ่ายให้ทันทีอีก 100,000 บาท เหลือที่ค้างอีก 200,000 บาท ต้องจ่ายเดือนเมษายน 2566 อีก 100,000 บาท แต่เดือนเมษายน 2566 ไม่มีเงินไปชำระ จึงเลื่อนออกไปจนกระทั่ง เดือน ก.ค.66 พอหาเงินได้จะเอาไปจ่ายอีก 100,000 บาท ตามสัญญา แต่กลับถูกปฏิเสธการรับเงิน แล้วไม่รับสาย

ต่อมาได้มีทนายชื่อดังของบุรีรัมย์ โทรมาหาบอกว่ารถที่ซื้อไปนั้นแจ้งยกเลิกสัญญา เขางงมากจึงถามไปว่า “ผิดสัญญาตรงไหน” เพราะยังไม่สิ้นปี เนื่องจากสัญญาจ่ายปีละครั้ง เขาจึงให้ข้อเสนอไปว่า งั้นผมจะตัดยอดทั้งหมดที่ค้าง 200,000 บาท เท่ากับจ่ายล่าช้า 1 งวด จ่ายล่วงหน้า 1 งวดถือว่าหายกันไป ได้รับคำตอบจากทนายว่า “ถ้าจะตัดยอดต้องจ่ายเพิ่มอีก 80,000 บาท เป็น 280,000 บาท” หากไม่ทำตามนั้นจะยึดรถคืน เขารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ว่า “อยากจ๊ายอยากจ่าย” และอยากรู้ว่า เจ้าของรถกับทนายความทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนางสุพิศ แต่ไม่พบใครอยู่บ้าน จึงโทรศัพท์ไปพบกับนายคำจุน อายุ 55 ปี เป็นสามีนางสุพิศ นายคำจุน กล่าวว่า หลังจากนายวิชัย ไม่จ่ายเงินค่างวดรถ เขาได้พยายามติดต่อนายวิชัย แต่ติดต่อไม่ได้ จากนั้นได้ออกติดตาม พบว่านายวิชัย เอารถไปจำนำที่เต็นท์รถแห่งหนึ่ง เมื่อเข้าไปดูก็พบรถจอดอยู่จริง จึงมอบหมายให้ทนายความเป็นคนจัดการแทน

ด้านนายวิชัยออกมาปฎิเสธว่าไม่ได้เอารถไปจำนำ แต่เอารถไปจอดที่อู่เพื่อจะซ่อมกระบะที่ทรุดโทรม ถ้าเอาไปจำนำจริงนานกว่าครึ่งปี รถคงไม่อยู่แล้ว จึงอยากจะฝากถึงเจ้าของรถ ขอให้ทำตามกติกา ตอนนี้เขาพร้อมจ่ายเงิน

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่จอดรถ พบว่ารถคันดังกล่าวยังจอดตามปกติ สอบถามช่างประจำอู่ กล่าวว่า รถคันนี้เอามาซ่อมกระบะ แต่เจ้าของรถยังไม่จ่ายอะไหล่ จึงซ่อมคันอื่นไปก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ทราบเพราะเป็นแค่ช่าง


https://youtu.be/5xGfEquN-N8