พ่อแม่สุดช้ำ ฝากลูกวัย 1 เดือนให้ย่าช่วยเลี้ยง ก่อนดับปริศนา อ้างสำลักนม ล่าสุด ย่าหนีหาย ติดต่อไม่ได้

วันที่ 6 ต.ค.67 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เพื่อติดตามความคืบคดี หลังนายพล อายุ 27 ปี และนางสาวรัตน์ อายุ 28 ปี เข้าร้องเรียนกับทางมูลนิธิฯ ว่า ลูกสาววัย 1 เดือน 25 วัน เสียชีวิตปริศนา หลังนำไปฝากให้ย่าแท้ๆ กับปู่ช่วยเลี้ยงดูแค่ 5 วัน จู่ๆ เสียชีวิต มีเลือดออกทางจมูก แพทย์ชันสูตรสาเหตุการตาย "สันนิษฐานสมองได้รับบาดเจ็บ" หลังเกิดเหตุวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ย่าหลบหนีหายตัวไป ติดต่อไม่ได้ ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบปากคำหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูกสาว

น.ส.รัตน์ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนกับสามีเพิ่งมีลูกสาวคนแรก แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องทำงานกันทั้ง 2 คน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก จึงได้นำลูกไปฝากให้นางเอ (นามสมมติ) อายุ 55 ปี แม่ของสามี ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าแท้ๆ กับสามีใหม่ของย่า ช่วยเลี้ยงดูที่บ้านย่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.67 โดยที่บ้านย่าจะมีสามีใหม่ของย่า และน้องสาวพ่อ อาศัยอยู่ด้วย

หลังฝากเลี้ยงแบบกินนอนได้ 5 วัน เช้ามืดตี 5 ของวันที่ 5 ต.ค. ย่าได้โทรมาบอกให้พ่อแม่รีบไปดูลูก เพื่อพาไปหาหมอ เพราะลูกสาวเกิดอาการสำลักนมอย่างรุนแรง พ่อแม่ใช้เวลาเดินทาง 10 นาทีก็ไปถึง พบสภาพลูกน้อยตัวเขียว ไม่หายใจ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง หมอได้ปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้

หมอระบุว่า เด็กขาดอากาศหายใจก่อนส่งโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง และพบว่ามีเลือดออกทางจมูกด้วย หมอจึงได้เรียกย่าเข้าไปสอบถาม ย่าให้ข้อมูลกับโรงพยาบาลว่า เด็กตื่นมาร้องตอนประมาณตี 1 จึงได้ชงนมให้กินและหลานก็หลับไป กระทั่งตี 5 ตื่นมาเห็นว่า หลานมีอาการชักเกร็งจึงรีบโทรบอกพ่อแม่ให้ไปดูลูก และโรงพยาบาลยังให้แม่ไปแจ้งความ เพราะหมอสงสัยอาการของลูกที่มีเลือดออกทางจมูก

จากนั้นย่าก็อ้างอีกว่า ช่วงเย็นของวันที่ 4 ต.ค. ได้อาบน้ำให้หลานแล้วขาของหลานไปโดนขอบอ่าง ซึ่งแม่คิดว่าถ้าแค่นั้นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ และจู่ๆ ย่าก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์หายออกจากบ้านจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่กลับมาและติดต่อไม่ได้เลย

ต่อมา ทางโรงพยาบาลบางละมุงได้ส่งศพลูกสาวไปชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.67 แพทย์ระบุสาเหตุการตาย สันนิษฐานสมองได้รับบาดเจ็บ และแม่ได้รับศพลูกสาวมาทำพิธีทางศาสนาและฝังไว้ที่วัดสโน จ.ลพบุรี ส่วนผลชันสูตรอย่างละเอียดจะต้องรอประมาณ 45 วัน จากนั้น แม่ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองปรือ วันที่ 11 ต.ค. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ย่ามาพบ แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีวี่แววจะเจอตัวย่าเลย แม่ไม่เชื่อว่า หากเพียงแค่ย่าให้เด็กกินนมจะทำให้ถึงกับเสียชีวิต และมีเลือดออกที่จมูกเลยหรือ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวย่า

พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ กล่าวว่า ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวน มีการสอบปากคำไปแล้ว 3 ปาก คือ พ่อ แม่ของน้องที่เสียชีวิต และสอบปากคำนายนนท์ อายุ 59 ปี ปู่เลี้ยง สามีคนปัจจุบันของย่า ส่วนสาเหตุการตายของน้อง ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า แต่อย่างไรก็ตามตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมทั้งจะติดตามเชิญตัวผู้เป็นย่า ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถติดต่อได้ เข้าให้การกับตำรวจ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง