สังคม
แม่นักเรียนชั้น ม.3 ขอความเป็นธรรมลูกชายเสียชีวิต หลังร่วมกิจกรรมทางโรงเรียน
โดย gamonthip_s
21 เม.ย. 2567
883 views
ช่วงสายวันนี้ 21 เม.ย. 67 นางสาวพัชรี อายุ 44 เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกชายวัย 15 ปี เสียชีวิต ขณะเดินทางไปร่วมกิจกรรมปัจฉิมนิเทศของโรงเรียน ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และมีการจัดกิจกรรมจบชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่หาดนางรำ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยสาเหตุเพื่อนของลูกชายและครูที่คุมไปร่วมกิจกรรม อ้างว่าเป็นการถูกทำโทษในกลุ่มเพื่อนจากการเล่นเดาะบอล และมีการสั่งทำโทษให้พุ่งหัวปักพื้น แต่ลูกชายพุ่งหัวปักพื้นในทะเลที่น้ำตื้น ทำให้หัวกระแทกกับพื้นทราย จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์แจ้งว่ามีอาการกระดูกต้นคอซี่ที่หนึ่งและสองแตกร้าวและมีเส้นประสาทเกี่ยวกับการควบคุมการหายใจเสียหาย ส่วนตัวจึงเชื่อว่าลูกชายน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่จุดเกิดเหตุ
โดยภายหลังเกิดเหตุ ทางโรงเรียนมีการช่วยเหลือเงินมาเพียงจำนวน 10,000 บาท แต่ตนเองต้องยืมเงินจากครูมาอีก 40,000 บาท รวมถึงดำเนินการในการกู้ยืมเงินนอกระบบมาอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล เพราะหลังเกิดเรื่องวันที่ 21 มีนาคมลูกชายต้องรักษาร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาล ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นเวลา 5 วัน และเสียชีวิตในวันที่ 26 มี.ค. 67 แต่เมื่อตนเองดำเนินการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้กับลูกชายเป็นที่เรียบร้อย ทางโรงเรียนไม่มีการช่วยเหลือเงินเพิ่มเติม ทำให้ต้องขอความช่วยเหลือกับทางสายไหมต้องรอด เนื่องจากตนเองมีฐานะยากจน แต่ทางโรงเรียนก็ปฏิเสธเรื่อยมา โดยบอกแต่ให้รอเงินประกัน
ซึ่งเงินประกันดังกล่าวของทางโรงเรียนทราบว่ามีเงินประกันอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท แต่เมื่อคำนวณแล้ว เมื่อหากได้รับมาก็ต้องดำเนินการใช้หนี้ทั้งหมดที่หยิบยืมมา จึงคาดว่าจะไม่เหลือมาประกอบพิธีที่เหลือ
ตลอดระยะเวลาหลังเกิดเรื่องมา ตนเองได้พยามร้องขอความช่วยเหลือทางโรงเรียนให้เข้ามาช่วยจัดงานพิธีศพต่าง ๆ แต่โรงเรียนก็ปฏิเสธอ้างว่าไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ ส่วนคดีความนั้น ในตอนแรกพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้มีการสอบถามตนเองตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุว่าติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายหรือไม่ ในตอนแรกตนเองได้บอกกับทางตำรวจไปว่าไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะขณะที่ตนเองเฝ้ารักษาลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาล ตนเองต้องมาใช้พื้นที่พักอาศัยอยู่ในสถานที่ราชการแห่งหนึ่งที่เขาให้พักฟรี แต่ตนเองได้รับการติดต่อมาจากทางพ่อของตนเองว่า มีผู้บริหารของโรงเรียนติดต่อไปพูดคุย และอ้างว่าหากมีการดำเนินคดีกับทางโรงเรียนจะไม่มีการช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องเงินจัดพิธีต่าง ๆ รวมถึงเงินประกัน จึงจำเป็นต้องบอกกับตำรวจไปอย่างนั้นในตอนแรก
โดยนายเอกภพ ระบุว่า เบื้องต้นตนเองจะประสานไปที่ตำรวจสัตหีบ เพื่อให้ช่วยรับแจ้งความเกี่ยวกับข้อสงสัยของตัวคุณแม่ ที่มีต่อการเสียชีวิตของลูกชาย เพื่อให้ตำรวจช่วยพิสูจน์ความจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไร และมีผู้ใดกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ลูกชายของผู้เสียหายเสียชีวิตหรือไม่ เพราะในกิจกรรมลักษณะแบบนี้ต้องมีผู้ควบคุมดูแล แต่เหตุใดจึงกลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ส่วนเรื่องการดำเนินการกับทางครูและโรงเรียน ตนเองจะประสานไปที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ อีกครั้งด้วย เพื่อเป็นการป้องกันเหตุไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีกในโรงเรียนอื่น ๆ