สังคม

มิจฉาชีพอ้างเป็น พนง.บริษัทประกัน ให้กดลิงก์รับเงินปันผล 2,000 สุดท้ายสูญเงิน 3 ล้าน

โดย chutikan_o

3 พ.ค. 2566

470 views

ชายวัย 60 ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไทยประกันชีวิต ให้กดลิงก์รับเงินปันผล 2,000 บาท สุดท้ายถูกดูดเงินออกไปกว่า 3 ล้านจนหมดบัญชี

วันนี้ (3 พ.ค. 2566) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายพูนศักดิ์ ว่องตระกูล อายุ 60 ปี พร้อมด้วยนางสาวอารยา ว่องตระกูล อายุ 30 ปี เดินทางเข้าพบเพื่อให้ข้อมูล พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 หลังถูกมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท ไทยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) ให้กดลิงก์ลงทะเบียนเพื่อรับเงินปันผล 2,000 บาท เนื่องในวาระฉลองครบรอบ 81 ปี ไทยประกันชีวิต แต่กลับถูกดูดเงินเกลี้ยงบัญชี 3,044,748 บาท

นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566 มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทไทยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) ให้กดลิงก์เพื่อรับเงินปันผล 2,000 บาท เมื่อกดลิงก์ที่ถูกส่งในแอปพลิเคชัน LINE แล้ว หน้าจอมือถือก็ค้างและไม่สามารถใช้งานได้เลยประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เมื่อโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ จึงเข้าไปเช็กในแอปพลิเคชันธนาคารกรุงไทยและไทยพาณิชย์ ที่มีอยู่ในโทรศัพท์ของตัวเอง และพบว่ายอดเงินในแอปฯ ธนาคารทั้ง 2 ได้ถูกโอนออกไปยังบัญชีอื่นทั้งหมด จนยอดเงินในบัญชีติดลบโดยที่เขาไม่ได้ทํานิติกรรมเองในแอปพลิเคชันของธนาคารนั้นเลย และยังพบอีกว่า ในอินบ็อกซ์ SMS ของโทรศัพท์มือถือมีข้อความ OTP หลายข้อความ เขาจึงรีบไปที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อรีบดําเนินการแจ้งอายัดบัญชี และในเวลากลางคืนมีข้อความผิดปกติของ OTP ที่มาจาก SMS CARDX ของธนาคารกรุงไทย ยอดทั้งหมด 1,755,636 บาท ธนาคารไทยพาณิชย์ ยอดทั้งหมด 1,289,112 บาท นอกจากยอดที่ถูกโอนออกจากแอปพลิเคชันธนาคารแล้ว ยังมียอดรวมเงินเครดิตลบอีก 300,000 บาทที่ถูกโอนออกจากบัญชีไป เขายืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทําธุรกรรมช่วงเวลาดังกล่าว จึงไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พหลโยธิน และส่งเรื่องมาที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจก็ยังไม่ได้รับข้อมูลหรือเอกสารจากธนาคารเลยโดยเจ้าหน้าที่ตํารวจได้ขอออกเอกสารข้อมูลกับทางธนาคารตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว

นายพูนศักดิ์ กล่าวอีกว่า นับแต่เกิดเหตุเงินถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารกรุงไทยและไทยพาณิชย์ เขาและลูกสาวได้พยายามติดต่อกับธนาคารต้นทางและธนาคารม้าซึ่งเงินถูกโอนไปเข้าบัญชีเพื่อให้รีบอายัด และส่งเลขบัญชีและชื่อของบัญชีม้าไปให้ตำรวจเพื่อให้ออกหมายอายัดด่วนภายใน 72 ชม. โดยโทรศัพท์ไปที่คอลเซ็นเตอร์หลายครั้งก็ไม่มีใครรับสาย หลายครั้งโทรไม่ติด ครั้นเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคาร สาขาแต่ละแห่งหลายครั้งก็ถูกปฎิเสธอ้างว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่โทรศัพท์กลับมาแจ้ง โยนกันไปโยนกันมา ทำให้เขาและครอบครัวซึ่งได้รับความเสียหายและกำลังเป็นทุกข์ รู้สึกว่าธนาคารไม่พยายามช่วยแก้สถานการณ์ โดยเฉพาะธนาคารออมสิน เจ้าหน้าที่ได้บอกว่า “ดำเนินการไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่มีงานโหลด มีคนมากมายที่เสียหายแบบคุณ” ทำให้การออกหมายอายัดของตำรวจไม่อาจกระทำได้เพราะธนาคารไม่แจ้งข้อมูลมา เขารู้สึกผิดหวังต่อการให้บริการของธนาคาร ไม่เหมือนเวลาประชาสัมพันธ์อยากให้สมัครบัญชี สมัครกองทุน สมัครประกันกับธนาคาร จะมีเจ้าหน้าที่โทรมาติดตาม โทรมาขายอย่างมากเกินพอซ้ำๆ แต่พอลูกค้าเสียหายเดือดร้อน ธนาคารกลับไม่ตอบสนองที่จะแก้ไขอย่างสุดกำลัง เมื่อเป็นดังนี้ เราจะมีธนาคารไปทำไม

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี รวมไปถึงสั่งอายัดบัญชีม้าทั้งหมด หาเส้นทางการเงินว่าโอนเงินออกไปถึงบัญชีใครแล้วยอดเงินสุดท้ายไปหยุดที่ใคร ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็จะพบผู้เสียหายที่ใช้โทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ และมีแอปฯ ธนาคาร เบื้องต้นแนะนำให้ลบแอปฯ ธนาคารออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัยหรือหากเกิดเหตุการณ์โดนแฮกข้อมูลแล้วมือถือหน้าจอค้างและไม่สามารถใช้งานได้ ให้นำซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์ออกจากเครื่องโดยทันที และรีบแจ้งไปยังธนาคารทันทีก็จะช่วยได้อีกทาง

คุณอาจสนใจ

Related News