อาชญากรรม
หลอกไม่หยุด! สภ.นนทบุรี เตือนภัยแก๊งคอลฯ อ้างเป็น ตร. หลอกโอนเงิน วันเดียวโดน 50 ราย
โดย nut_p
19 ก.ย. 2567
211 views
หลอกไม่หยุด! สภ.นนทบุรี เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น ตร. หลอกเหยื่อว่าพัวพันคดี แล้วให้โอนเงิน วันเดียวมีผู้เสียหายกว่า 50 ราย สัปดาห์เดียวกว่า 400 ราย
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 19 กันยายน 67 ร.ต.ต.อัครพงษ์ เดชกุล รอง สวป.ทำหน้าที่พนักงานวิทยุ สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า ตลอดทั้งวันที่ทำหน้าที่พนักงานวิทยุได้มีประชาชนจำนวนมาก วันนี้วันเดียว 53 ราย โทรศัพท์เข้ามาสอบถามชื่อตำรวจของ สภ.เมืองนนทบุรี ว่ามีชื่อนั้นชื่อนี้ไหม เนื่องจากมีคนอ้างว่าเป็นตำรวจของโรงพักแห่งนี้ ได้โทรศัพท์ไปแจ้งว่า มีส่วนพัวพันกับบัญชีผิดกฎหมายเรื่องการฟอกเงิน ให้ส่งบัตรประชาชน และแอดไลน์เพื่อดำเนินการตรวจสอบเงินในบัญชีมา โดยส่งให้ตำรวจตรวจสอบ
ทั้งนี้ สภ.เมืองนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 12-18 กันยายน 67 มีประชาชนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปแอบอ้างแล้วรวมกว่า 352 ราย ซึ่งวันที่ 19 กันยายน มีเพิ่มอีกจำนวน 53 ราย รวมยอดผู้เสียหาย 405 ราย ถูกหลอกตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนบาท โดยขณะผู้สื่อข่าวถ่ายภาพอยู่ เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้พูดคุยกับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงรายหนึ่ง อายุ 18 ปี ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพแต่งกายด้วยเครื่องแบบตำรงจโทรวิดีโอคอลมาหลอกว่า ตนผัวพันการฟอกเงินและให้ตนโอนเงินมาเพื่อตรวจสอบจำนวน 50,000 บาท แต่ตนมีเงินอยู่แค่ 2,700 บาท จึงได้โอนไปเท่านั้น แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แจ้งกลับมาว่าหากหาเงินไม่ครบตามจำนวน ต้องถอดเสื้อผ้าให้ตรวจสอบรอยสักตามร่างกาบ ตนฉุกคิดว่าคงไม่ใช่ตำรวจอย่างแน่นอน และได้วางสายไปจากนั้นได้โทรศัพท์มาสอบถามที่ สภ.เมืองนนทบุรี ถึงได้รู้ว่าถูกหลอก
ด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า ตอนนี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรไปหลอกลวงประชาชน กลุ่มเป้าหมายจะเป็นเด็กและเยาวชน นักศึกษา โดยหลอกลวงช่วงนี้มากเป็นพิเศษ เริ่มจากกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการโทรไปบอกว่าเงินในบัญชีผิดกฎหมาย ให้โอนเงินไปให้ตำรวจตรวจสอบ แล้วสูญเสียเงินจำนวนมาก บางรายเป็นหลักแสนก็มี
พ.ต.อ.จาตุรนต์ กล่าวอีกว่า วันนี้วันเดียวมากกว่า 50 ราย โดยอ้างว่าเป็นตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี จึงประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน ให้ตื่นรู้ และรู้ทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์พวกนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเองไม่มีที่จะโทรไปขอให้ส่งเงินมาตรวจสอบ ถ้าไม่มั่นใจขอให้ตั้งสติแล้วให้หาเบอร์โทรของโรงพักนั้นๆ แล้วโทรไปตรวจสอบโดยตรง ว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่อย่างไร แล้วจะทราบว่าเป็นกลลวงของมิจฉาชีพ จะได้ไม่สูญเสียทรัพย์สิน ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงตอนนี้ 400 กว่ารายแล้ว ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรไปหรอก