สังคม

ผบช.น.ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง ปมแชทหลุดบังคับลง 'ตู้ม้า' ให้ทราบภายใน 3 วัน

โดย parichat_p

10 มิ.ย. 2567

46 views

จากกรณีผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ ไม่พอใจผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ที่มีคำสั่งให้ลงตู้ม้าในพื้นที่ เเละขอเงินวัดมาซื้อโดรน จนต้องมาเคลียร์ใจกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรี บอกว่า "เรื่องนี้คงไม่ใช่เเค่ขอโทษเเล้วจบ ต้องไปตรวจสอบต่อว่ามีคำสั่งนี้ออกมาจริงหรือไม่"


จากกรณีสื่อออนไลน์ โพสต์ภาพแชทข้อความของกลุ่มไลน์ ศปก.น. 2566 ซึ่งมีสมาชิกถึง 393 คน โดยระบุว่า นายตำรวจยศ "พ.ต.อ." เขียนข้อความเรียนถึง ผบช.น. ตอนนี้มี "พลตำรวจตรี"นายหนึ่ง บังคับให้ลงตู้ม้าในพื้นที่ ต่อมาทาง ผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ ได้เข้าขอขมาต่อผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 โดยให้เหตุผลว่าในคืนดังกล่าว ขอสำนึกผิดที่ขาดวิจารณญาณ ประกอบกับมีความเครียด ความกดดันเรื่องงาน และ ได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากผู้ไม่หวังดี มาโจมตีผู้บังคับบัญชาให้ฟัง โดยที่ตัวเองไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีก่อน จึงโพสต์ข้อความลงในกลุ่มไลน์ไป แต่เมื่อฟื้นคืนสติได้แล้ว ก็รีบลบข้อความออกจากกลุ่มไลน์ในทันที ไม่คิดว่าจะมีใครแคปหน้าจอไปลงในโลกโซเชียล


ล่าสุด พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีคำสั่งตั้งให้ พลตำรวจตรี พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน ให้รายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน


ผู้สื่อข่าวถามประเด็นนี้กับนายกรัฐมนตรี "ได้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่" / นายกฯ บอกว่า "ไม่ทราบ-ยังไม่ได้ตรวจสอบ รักษาการ ผบ.ตร.พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ก็ยังไม่ได้รายงาน ถ้าเป็นเรื่องใหญ่คงส่งเรื่องมาเอง"


หลังจากได้ฟังเรื่องจากผู้สื่อข่าว นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นว่า ต้องดูสาเหตุที่เกิดขึ้นว่ามีคำสั่งให้ลงตู้ม้า ตามที่ร้องเรียนจริงหรือไม่ แล้วตู้ม้าผิดหรือไม่ ถ้าผิด ผบช.น. ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง ก็ต้องตอบคำถามตรงนี้ เชื่อว่าอยู่ในกระบวนการขั้นตอนอยู่แล้ว


เมื่อถามว่าไม่ใช่ว่าขอโทษแล้วจะจบใช่มั้ย นายกฯยืนยันว่า "ไม่น่าจะจบ ต้องไปตรวจสอบว่ามีคำสั่งจริงหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย"


ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามประชาชน ย่านภาษีเจริญ บางส่วนยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่มีตู้ม้า มีแต่ตู้คีบตุ๊กตา แต่ก็ยอมรับว่า หากย้อนกลับไปประมาณ 20-30 ปี ก็เคยมีบ้าง แต่หลัง ๆ ก็หายไปหมดแล้ว


ส่วนประเด็นข้อความที่ผู้กำกับการเขียนในไลน์กลุ่ม ในทำนองว่าถูกบังคับให้ไปขอเงินวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อซื้อโดรน ซึ่งรู้สึกอึดอัดเพราะต้องไปเฝ้าวัดทุกวัน แหล่งข่าวในวัดให้ข้อมูลว่า เรื่องสนับสนุนซื้อโดรน เป็นการขอความอนุเคราะห์ผ่านทางมูลนิธิหลวงพ่อวัดปากน้ำจริง มีการทำเอกสาร ทำหนังสือมายังวัด เเละมีการพิจารณาจากคณะกรรมการวัดอย่างถูกต้อง-เรียบร้อย และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นหลายเดือนแล้ว โดยเป็นโดรน 1 ตัว ที่ใช้ในการดูแลความปลอดภัย และสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ทั้งนี้ ทางมูลนิธิก็ได้ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อยู่แล้ว ทั้งด้านการศึกษาที่มีการมอบทุนการศึกษา ซึ่งในกรณีนี้ก็เป็นด้านสาธารณะประโยชน์ ส่วนราคาของโดรนนั้น ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่กันเเน่


จากกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้ภาคประชาสังคมตั้งคำถาม เเละอยากให้ตรวจสอบเเละรายงานผล เพราะตู้ม้าเป็นการพนันรูปเเบบหนึ่ง เเทรกซึมอยู่ในชุมชน เด็กเเละเยาวชน-คนทั่วไปเข้าถึงได้ เเละที่ผ่านมา ภาครัฐเเละรัฐบาลก่อนหน้านี้ ก็เคยมีนโยบายกวาดล้างครั้งใหญ่มาเเล้ว จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี เเละสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ชี้เเจงให้กระจ่างชัด รวมทั้งมีบทลงโทษหากกรณีตู้ม้าเป็นเรื่องจริง

คุณอาจสนใจ

Related News