สังคม

อธิบดีกรมโรงงานฯ เข้าเป็นพยาน คดีฟ้อง บ.เอกอุทัย ครอบครองวัตถุอันตราย เผยให้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว

โดย panwilai_c

8 พ.ค. 2567

122 views

กรณีกรมควบคุมมลพิษ แจ้งความเอาผิดบริษัทเอกอุทัย สาขากลางกลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งศาลจังหวัด สีคิ้ว นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ และวันพรุ่งนี้ โดยอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ไปขึ้นศาลให้การเป็นพยานฝ่ายโจทก์ด้วย พร้อมระบุว่าได้ข้อมูลในส่วนที่ตัวเองเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบบริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง อย่างครบถ้วนแล้ว



นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ไปให้การเป็นพยานที่ศาลจังหวัดสีคิ้วในวันนี้ ตามที่ศาลมีกำหนดนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์เป็นเวลา 3 วัน คือเมื่อวานนี้ วันนี้และ วันพรุ่งนี้ โดยผู้ที่ถูกเรียกให้การเป็นพยาน นอกจาก อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการ ดำเนินกิจการของบริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง ไปให้การอีกหลายคน ทั้งจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค และจากกรมควบคุมมลพิษ



นายจุลพงษ์ เปิดเผยสั้นๆว่าได้ให้การเป็นพยาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อศาลครบถ้วนแล้ว แต่รายละเอียดอื่นๆมากกว่านี้ไม่อาจเปิดเผยได้



เฉพาะคดีนี้มีขึ้นเมื่อปี 2564 โดยกรมควบคุมมลพิษ แจ้งความกับตำรวจ สภ.กลางดง อ.ปากช่อง เพื่อกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ บริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง ใน 5 ฐาน ความผิด คือ



1.ฝ่าฝืนเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ที่ห้ามฝังกลบสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วภายในบริเวณโรงงาน

2. ระบายน้ำทิ้งจากการ ประกอบกิจการโรงงานเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งบันทึกแจ้งความระบุว่ามีการลักลอบเทน้ำทิ้งลงแหล่งน้ำใต้ดิน

3.ทำผิดเงื่อนไขข้อบัญญัติ ท้องถิ่นในการป้องกัน ควบคุมเหตุ รำคาญ

4.ประกอบกิจการโรงงาน จำพวกที่ 3 ลำดับ 105 คือการฝังกลบกากของเสีย โดยไม่ได้รับอนุญาต

5 ครอบครองของเสีย เคมีวัตถุ ที่เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย ประเภทที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต



ก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบหลักฐานหลายอย่างที่เชื่อได้ว่าเป็นการทำผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว เช่น คลิปภาพรถบรรทุกขณะเทของเหลว ที่เป็นกากสารเคมีชนิดกรดเข้มข้น ลงในบ่อดินที่ขุดขึ้นเอง ในพื้นที่ครอบครองทำประโยชย์ด้านหลังโรงงาน ต่อมาถูกพิสูจน์ทราบว่าบริเวณนั้นเป็นที่ดินของกรมป่าไม้



นอกจากคลิปภาพเคลื่อนไหวแล้ว ยังมีภาพอีกจำนวนมากที่บ่งชี้ว่ามีพฤติกรรมตามข้อกล่าวหา คือครอบครองกากสารเคมีอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะจำพวก กรดเข้มข้น กรดซัลฟูริก และน้ำมันเครื่องเก่าหรือตัวทำละลายเป็นต้น โดยเก็บไว้ในโกดัง และฝังไว้ใต้ผืนดิน



ซึ่งการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ขณะนั้น ยังพบว่า บริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง เป็นผู้รับจ้าง กำจัดกากขยะอุตสาหกรรมของบริษัท วิน โพรเสส จ.ระยองด้วย



และนี่ก็เป็นคลิปภาพล่าสุด ที่เจ้าหน้าที่ได้รับเมื่อไม่กี่วันก่อน เป็นภาพจากชายที่อ้างว่าเป็นอดีตพนักงานบริษัท ให้เบาะแสว่าเป็นเหตุการณ์ที่ พนักงานถูกสั่งให้เทน้ำสารเคมี ลงในบ่อดินในพื้นที่ดังกล่าว



อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบพบว่า จากที่กรมควบคุมมลพิษร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ 5 ข้อหานั้น พนักงานสอบสวนภูธรกลางดง มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องทั้ง 5 ข้อหา แต่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง 2 ข้อหาคือประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามเทศบัญญัติของเทศบาลตำบลสีมามงคล และอีกหนึ่งข้อหา คือครอบครองของเสียเคมีวัตถุประเภทที่ 3 ตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่ง 2 ข้อกล่าวหาดังกล่าวนี่เอง ที่ศาลนัดไต่สวนพยานตลอด 3 วันนี้

คุณอาจสนใจ

Related News