หนังคนละม้วน! ‘เอกภพ’ แฉกลับ ‘พยานสายลับ’ เตรียมงัดหลักฐาน ดำเนินคดีหลังพลิกลิ้นปมดิไอคอน

'ทนายบอสพอล' เตรียมบุกดีเอสไอ จ่อชง ดำเนินคดี 'เอกภพ-พยานเท็จ' ยอมรับ ตกใจหลังพบพยานให้สัมภาษณ์มีการเตี๊ยมบทก่อน ขณะที่พยานเท็จเล่าที่มาก่อนเปิดตัวแฉดิไอคอนกลางรายการดัง ด้าน ‘เอกภพ’ โต้ 'พยานสายลับ' ลั่น "ผมก็มีหลักฐาน" จ่อฟ้องดำเนินคดี 

วานนี้ 31 ต.ค.2567 เวลา 14.30 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาในคดี The iCon ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอลในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

โดยนายวิฑูรย์ กล่าวว่า บอสพอลปกติและสบายดี ซึ่งตนได้พูดคุยกับบอสพอลและทีมทนายความในคดี เกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา ซึ่งรายละเอียดการพูดคุยเป็นความลับ เพียงแค่พูดคุยกับบอสพอลก็หมดเวลาแล้ว จึงยังไม่ได้พูดคุยกับบอสกันต์และบอสแซมตามที่ตั้งใจไว้

ส่วนประเด็นหลักที่ได้รับมอบหมายจากบอสพอลทและจะต้องทำอย่างเร่งด่วน คือวันนี้ ( 1 พ.ย.67) เวลา 14.00 น. จะเดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือใน 2 ประเด็น คือ

1. สอบถามเรื่องรายละเอียดการนำพยานฝ่ายตนเองกว่า 2,000 คน เข้าไปให้ปากคำ ว่าจะต้องไปให้ปากคำที่ดีเอสไอหรือ ปคบ. รวมถึงสอบถามศักยภาพของเจ้าหน้าที่ ว่าในแต่ละวันจะสอบปากคำพยานได้กี่คน โดยตนเองวางแผนไว้ว่า หากสามารถสอบปากคำได้วันละ 120 คน จะให้เวลาเพียง 20 วันในการสอบปากคำ เสร็จทันส่งสำนวน แต่หากรับได้ไม่ถึงจำนวนที่วางไว้ ก็จะใช้เวลาในการสอบปากคำนานขึ้น และจะขอให้ดีเอสไอออกหมายเรียกให้สมาชิก “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่ไม่ยอมเข้ามาแจ้งความกว่า 200,000 คน เข้ามาให้ปากคำด้วย ซึ่งหากมีหมายเรียกก็ต้องเข้ามาให้ปากคำ

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ จะขอให้ดีเอสไอพิจารณาดำเนินคดีกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อต่อเพจสายไหมต้องรอด และพยานที่นายเอกภพพามา กรณีที่นำพยานเท็จเข้ามาพบตำรวจและอ้างว่าดีเอสไอเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เรียกรับเงินจาก ”ดิไอคอนกรุ๊ป“ ทำให้ดีเอสไอได้รับความเสียหาย ซึ่งดีเอสไอจะดำเนินคดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณา

พร้อมยอมรับว่า จากที่ตัวเองได้ฟังเสียงของพยานคนดังกล่าวที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อช่องหนึ่ง รู้สึกตกใจมากที่มีการนัดแนะเตี๊ยมคำให้การกับพยาน โดยตนเองไม่เข้าใจว่าทำไมนายเอกภพถึงทำแบบนั้น ทำให้จากที่คดีดิไอคอนควรจะเป็นคดีความปกติ กลับเป็นภาพคดีการจ่ายสินบน โดยเบื้องต้น ตนเองก็เตรียมจะให้ทนายอีกชุดไปแจ้งความเอาผิดนายเอกภพและพยานคนดังกล่าว ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

----------------------

'พยานเท็จ' แฉกลับ เล่าที่มาก่อนเปิดตัวแฉดิไอคอน กรุ๊ป

รายการข่าวข้นคนข่าว เนชั่นทีวี สัมภาษณ์พยานสายลับที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พาออกมาเปิดตัว โดยบอกว่า ทีมข่าวได้คุยโดยตรงกับพยานคนดังกล่าว พบว่า เรื่องราวกลับตาลปัตร โดย พยานมี 2 คน ขอเรียกว่า คุณเอ และ คุณบี

ทางรายการข่าวข้นคนข่าว ระบุว่า คุณเอ ให้ข้อมูลว่า ตัวเขาและเพื่อนมีอาชีพเป็นนักการตลาดออนไลน์ มีความรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ จึงติดต่อไปที่ เพจสายไหมต้องรอด ทางเพจแจ้งว่าจะเล่นงานดิไอคอน เป็นบริษัทแรก

จากนั้นมีการนัดเจอกัน 14 ตุลาคม ที่ร้านซ้งเป็ดพะโล้ ย่านสายไหม เพื่อให้ข้อมูล และถัดจากนั้น 15 ตุลาคม นัดหมายให้ไปพบที่กองปราบ โดยส่งรถตู้ไปรับ (วันนั้น คือวันที่ แก๊งทนายรวมตัวกันไปแจ้งความ และมีการเปิดตัวพยานคนดังกล่าว) ซึ่งมีการดึงคุณเอ ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า ก่อน

ถัดจากนั้น 16 ตุลาคม ดีเอสไอ ติดต่อ ให้คุณเอ และเจ้าของเพจ ไปพบ เพื่อให้ข้อมูล  ทางคุณเอ ยืนยันว่า บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นแค่นักการตลาดออนไลน์

และถัดจากนั้น 18 ตุลาคม เจ้าของเพจไปให้สัมภาษณ์สื่อ เรื่องเส้นเงินคริปโต  คุณเอ บอกว่า ข้อมูลนี้เป็นแค่ข้อมูลต้องสงสัยที่คุยกันในกลุ่มเฉยๆ เป็นแค่ข้อสันนิษฐาน และจากนั้น ก็มีการพาคุณเอ ไปพบ สอท.และ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่า เป็นพยานเท็จ เรื่องราวไม่มีมูล

ซึ่งหลังเรื่องพยานเท็จปรากฎออกมา คุณเอ อ้างว่า เจ้าของเพจ ยังติดต่อไปหา บอกให้ พูดในทางเดียวกันเพื่อจะได้รอดจากคดี

"เจ้าของเพจ บอกให้พูดในแนวทางเดียวกัน ถ้าพูดแนวทางเดียวกันก็จะรอดจากการโดนฟ้อง ยืนยันว่าไม่ใช่การแก้ตัว แต่เป็นข้อเท็จจริง ที่ถูกนำตัวไปใช้บิดเบียนข้อเท็จจริงว่าเป็นหลังบ้านของบริษัท ซึ่งไม่จริง แต่หากทางบริษัทยังจะดำเนินคดี ก็เคารพในการตัดสินใจ"

ในรายการ มีการเปิดแชตข้อความ อ้างว่าเป็นข้อความที่ส่งไปที่เพจ หลังถูกพาไปเปิดตัวว่าเป็นสายลับหลังบ้านดิไอคอน

---------------------------------------

'เอกภพ' โต้ 'พยานสายลับ' ลั่น "ผมก็มีหลักฐาน" – จ่อฟ้องดำเนินคดี

วานนี้ (31 ต.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ตอบกลับกรณีพยานเท็จ โดยชี้แจงว่า ครั้งแรกที่เขามาคุยด้วย เป็นดิจิทัลฟุตปริ๊น เขาอาจจะลืมไปว่า ตนมีหลักฐานตรงนี้ทั้งหมด ทั้งแชตไลน์ ทั้งที่ส่งข้อความมา ทั้งคอลไลน์ ตนมีหลักฐานทั้งหมด ตอนนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วเหมือนกัน

ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมตำรวจออกมาพูดแบบนี้ ตอนแรกยังถามพยานอยู่เลยว่า ทำไมตำรวจออกมาพูดแบบนี้ ซึ่งเขาก็อ้างว่า “ไม่ทราบครับ ผมก็พูดตามที่ผมเล่าให้พี่เอกฟัง” นายเอกภพ ยังบอกด้วยว่า ตนพยายามถามพยานคนนี้เรื่องนี้เช่นกัน จนกระทั่งมีนักข่าวไปสัมภาษณ์ตัวเขาเอง และเขาพูดคนละอย่าง ทำให้ตัวตนถึงบางอ้อเลย ว่า อ๋อที่ตำรวจพูดแบบนั้น เพราะพยานพูดแบบนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่เลย และตัวตนมีหลักฐานทั้งหมด โชคดีมากที่เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้

“ตนทำเพจมา 5-6 ปี มีคนให้ข้อมูลจริงบ้างไม่จริงบ้าง  ไม่เคยฟ้องใครเลย แต่กรณีมันเห็นชัดว่าเจตนา คุณเขามาเล่าเป็นฉาก พอถึงเวลาพูดอีกอย่างนึงทำให้เขาเสียหาย” นายเอกภพ กล่าว

นายเอกภพ บอกว่า ตนพยายาม และกำลังช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน แต่กลายเป็นว่ามีคนมาชักใบให้เรือเสีย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/GXI6fT-GhCM