สังคม
ตร.จับผู้ต้องหาฉ้อโกงออนไลน์ ชักชวนผู้อื่นร่วมลงทุน เสียหายเกือบ 200 ล้านบาท
โดย parichat_p
18 มี.ค. 2566
110 views
นอกจากคนไทยจะตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว อาชญากรรมทางออนไลน์ ที่มาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งคนไทยถูกหลอกมากที่สุด คือถูกมิจฉาชีพหลอกให้ร่วมลงทุน มีตัวเลขสร้างความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาท โดยล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ให้จับอดีตพริตตี้ ซึ่งหลอกลวงผู้เสียหายกว่า 100 คนสูญเงินเกือบ 200 ล้าน
กลวิธีสร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยการโพสต์รูปลงโซเชียล เพื่อสร้างภาพลักษณ์การใช้ชีวิตหรูหรา มีรสนิยม เนื่องจากเป็นสูตรสำเร็จที่ได้ผล ทำให้คนทั่วไป ทั้งรู้จักมาก่อนหรือไม่รู้จักหลงเชื่อ โดยเฉพาะการหลอกลวงและการ ฉ้อโกงทางออนไลน์
ผู้เสียหายรายนี้เปิดเผยว่า รู้จักกับผู้ที่ฉ้อโกงเงินเก็บทั้งชีวิตของเธอไปจนหมดบัญชี ทางเฟสบุ๊ค และเห็นว่ามีโปรไฟล์ดี มีบ้าน รถ ปลดหนี้ได้
เมื่อเห็นถึงความสำเร็จ จึงเชื่อโดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงโอนเงินไปร่วมลงทุนที่ ผู้โพสต์อ้างว่าเป็นนักเทรดชนะการแข่งขันระดับโลก ซึ่งช่วงแรกที่ร่วมลงทุนไปก็ได้ผลตอบแทนมาจริง แต่เมื่อโอนเงินไปหมดบัญชีและชวนญาติ รวมทั้งกลุ่มเพื่อนมาร่วมลงทุนด้วยก็เริ่มติดต่อไม่ได้ เงินก็สูญหายไปด้วย
ผู้เสียหายได้แจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจได้พยายามติดตามตัว จนพบว่า นางสาวเวธิกา อายุ 30ปี หลบหนีอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และควบคุมตัวมาสอบสวน หลังถูกจับกุมได้มีกลุ่มผู้เสียหายติดตามมาดูหน้า พร้อมบอกว่าหน้าตาผู้ต้องหาศัลยกรรมเปลีย่นไป
พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามอาชญกรรมทางเศรษฐกิจ ตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับคดีฉ้อโกงมากถึง 11 หมายจับในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยอ้างว่าบัญชีที่ใช้ลงทุนเทรดหุ้นถูกบล็อค เพราะถูกจับได้ว่ามีการชักชวนผู้อื่นให้ร่วมลงทุน จึงถอนเงินออกมาไม่ได้
โดยผู้ต้องหารายนี้ยังโฆษณาชวนเชื่อ ชักชวนกลุ่มพริตตี้ ให้มาร่วมลงทุน โดยพบผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหาย เกือบ 200 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะทยอยเงินคืนผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเงินส่วนใหญ่ที่ได้มาน่าจะนำไปใช้ซื้อบ้าน ซื้อรถ เสริมความงาม และใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปกับการสร้างภาพแทบหมดแล้ว
การหลอกลวงให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ เป็นการหลอกลวงที่คนไทยสูญเงินเป็นจำนวนมาก แบบหมดเนื้อหมดตัว โดยเพราะส่วนใหญ่ผู้เสียหายหลงเชื่อไปก่อนแล้ว จึงโอนเงินไปด้วยความหวังว่า จะได้กำไรก้อนใหญ่กลับคืนมา โดยสถิติการแจ้งความทางออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีผู้เสียหายประเภทถูกฉ้อโกงจากการลงทุนกว่า 7,600 ล้านบาท
ถูกหลอกให้รัก มากกว่า พันล้านบาท หลอกกู้เงินทางออนไลน์ แต่ไม่ได้เงินกลับสูญเงินกว่า 2,600 ล้านบาท แต่หลังจาก พรก.ปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ นำมาใช้ เปิดทางให้ตำรวจทำงานได้รวดเร็วขึ้น คาดว่าการหลอกลวงทางออนไลน์จะลดลง
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตำรวจสอบสวนกลาง ,ฉ้อโกงออนไลน์ ,อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ