จนท.เร่งเสริมคันป้องกันน้ำเขตเศรษฐกิจสิงห์บุรี หลังเขื่อนป่าสักระบายน้ำ

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์ล่าสุด ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเต็มความจุแล้ว จึงต้องระบายน้ำเพื่อรักษาความมั่นคงของเขื่อนไว้ ขณะที่สิงห์บุรี เอ่อพนังกั้นน้ำ เจ้าหน้าที่เร่งเสริมคันป้องกันไหลเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ



สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสิงห์บุรี วันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเร่งช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นมวลน้ำ ไม่ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจใจกลางหลักของจังหวัด เนื่องจากขณะนี้มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่รอบนอกล้อมรอบเขตพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดแล้ว ขณะเดียวกันทางเทศบาล ได้นำเรือ รับส่งผู้ประสบภัย ที่ต้องเดินทางเข้าออกจากพื้นที่ พร้อมจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง



ขณะศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานว่า ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเต็มความจุแล้ว จึงจำเป็นต้องระบายน้ำเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของเขื่อน ในอัตราประมาณ 901 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไหลลงไปรวมกับน้ำที่มาจากคลองชัยนาท - ป่าสัก ก่อนจะไหลผ่านเขื่อนพระรามหก



ด้านกรมชลประทาน สรุปสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 3,099 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ซึ่งจะไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำสะแกกรังอีก 306 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาตามลำดับ กรมชลประทาน รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มศักยภาพ ก่อนจะเร่งผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย



ปัจจุบัน ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ +17.71 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง เพื่อควบคุมระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ที่เหมาะสม กรมชลประทาน มีแผนที่จะปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราไม่เกิน 3,100 ลบ.ม./วินาที หากน้ำทางตอนบนลดลง จะปรับลดการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่อไป