เลือกตั้งและการเมือง
ชื่นชม ‘วราวุธ’ รัวอังกฤษแถลงดุดัน ประณามเขมรรุนแรงโจมตีพลเรือน ชาวเน็ตยกเป็นสปีชที่เข้มแข็งที่สุด
โดย petchpawee_k
26 ก.ค. 2568
1.5K views
รมว.พม.แถลงการณ์ภาษาอังกฤษ ประณามเหตุโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวเน็ตชื่นชม เป็น “สปีช” ที่เข้มแข็งที่สุด
เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.68) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศร้ายแรง ส่งผลกระทบกลุ่มเปราะบาง สวัสดิภาพทางสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
คลิปแถลงการณ์ของนายวราวุธ กลายเป็นกระแสในโซเชียล เนื่องจากแถลงเป็นภาษาอังกฤษ และท่าทาง น้ำเสียง ที่เข้มแข็ง จริงจัง ทำให้ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมาก
ในแถลงการณ์ นายวราวุธเน้นย้ำถึงผลกระทบและความสูญเสียที่ประชาชนไทยได้รับ จากการโจมตีอย่างโหดเหี้ยมและจงใจโดยกัมพูชา ในพื้นที่พลเรือนของไทย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การละเมิดพรมแดน แต่คือการละเมิดความเป็นมนุษย์ ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของพลเรือนผู้บริสุทธิ์
นายวราวุธ กล่าวถึงเหตุการณ์ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกฝังลงบนผืนแผ่นดินไทย เมื่อวันที่ 16 และ 23 ก.ค.68 ไม่ได้แค่ทำให้ทหารบาดเจ็บ แต่ยังทำให้ทหาร 2 นาย ต้องสูญเสียขาไปพร้อมกับชีวิตและอนาคตที่พวกเขาเคยมี และกัมพูชายังกระทำสิ่งที่ก้าวข้ามขีดจำกัดที่ไม่อาจให้อภัยได้ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 พลเรือนกลายเป็นเป้าหมาย โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไม่มีความปราณีแม้แต่กับเด็กเล็ก ๆ ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล สถานที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน กลับกลายเป็นฉากแห่งความสยดสยอง
ผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คน รวมถึงเด็กชายอายุ 9 ขวบ 2 คน และเด็กหญิงอายุ 15 ปี 1 คน พวกเขาไม่ได้ตายในสนามรบ แต่ตายขณะมีชีวิตธรรมดา ๆ ความฝันของพวกเขา อนาคตของพวกเขา ถูกทำลายภายในเวลาไม่กี่วินาที มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 30 คน แม่ต้องสูญเสียลูกชาย ปู่ย่าตายายต้องฝังหลาน พ่อยืนอยู่ข้างเตียงโรงพยาบาล มองดูคนที่เขารัก พยายามเอาชีวิตรอด หรือพยายามใช้ชีวิตที่ไม่มีแขนหรือขาอีกต่อไป
สิ่งที่ครอบครัวเหล่านี้ต้องสูญเสียไป ไม่อาจเยียวยาได้ด้วยถ้อยคำหรือด้วยความเงียบ นี่ไม่ใช่ “ความเสียหายข้างเคียง” แต่มันคือ อาชญากรรมต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เหตุโจมตีเหล่านี้ได้ทำลายความรู้สึกปลอดภัยของประชาชนธรรมดาและสร้างความหวาดกลัวในชุมชนที่เคยสงบสุข ความทุกข์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในรายงาน มันไม่ใช่แค่สถิติ แต่คือเรื่องส่วนตัว เรื่องถาวร และไม่เป็นธรรม
เราขอประณามการกระทำเหล่านี้ ด้วยถ้อยคำที่หนักแน่นที่สุดและไม่ลดละ นี่คือ การรุกรานอธิปไตยของประเทศไทยโดยตรง และเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง กัมพูชาจะต้องรับผิดตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาเจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติม , อนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิด , อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก มาตรา 38 , อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ มาตรา 10 และ 11 และปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW) ครั้งที่ 69 ที่เรียกร้องให้คุ้มครองผู้หญิงและเด็กในพื้นที่ขัดแย้ง
เราขอเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ อย่าเพิกเฉย อย่านิ่งเฉย เพราะเมื่อเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณเช่นนี้ ความเงียบ คือการสมรู้ร่วมคิด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แห่งราชอาณาจักรไทย ขอเรียกร้องให้กัมพูชา ยุติการรุกรานในทันที เคารพอธิปไตยของไทย และแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความเสียหายที่ไม่อาจย้อนคืน ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ เพื่อสันติภาพ เพื่อความยุติธรรม เพื่อเด็กเหล่านั้น ที่จะไม่มีวันได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจของระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ชื่นชมแถลงการณ์ครั้งนี้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำที่สื่อสารตรงไปตรงมา แต่ไม่ยั่วยุ มีข้อมูลชัดเจน กระชับ ประกอบกับน้ำเสียงที่เข้มแข็ง จริงจัง ขึงขัง ถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดของคนไทยได้อย่างดี รวมทั้งยังสื่อสารไปยังประชาคมโลกได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็น แสดงถึงจุดยืนของไทย สะท้อนถึงความรู้สึกของประชาชนที่ต้องการให้ประเด็นเหล่านี้ ได้รับรู้ในระดับสากล
ถึงขั้นที่ชาวเน็ตส่วนหนึ่งบอกว่า อยากให้นายวราวุธ เป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ และยกให้เป็น “สปีช”ที่เข้มแข็งที่สุด