เลือกตั้งและการเมือง

“วราวุธ” หวาน เรียก “อนุทิน” พี่ชายสุดที่รักของผม เสนอหารายได้เข้ารัฐ ด้วยการแก้กฎหมาย

29 ก.ย. 2568

87 views

“วราวุธ” ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน หยอดหวาน เรียก “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี ว่า “พี่ชายสุดที่รักของผม” เสนอหารายได้เข้ารัฐ ด้วยการแก้กฎหมายกรมสรรพกร จัดเก็บโฆษณาในยูทูบ แนะลดรายจ่ายด้านการทำให้ประชาชนแข็งแรง แทนทุ่มเทเงินเป็นแสนล้านให้ 30 บาทรักษาทุกที่ ฝากใช้แนวทางทำรัฐธรรมนูญ 40 เป็นจุดเริ่มต้นทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ บอกถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิด-วิธีทำ ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม


เวลา 12.15 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลว่า “ได้ฟังสิ่งที่นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล พี่ชายสุดที่รักของผม” ได้แถลงไปแล้ว ในภาพรวมก็เข้าใจว่าทำไมนโยบายถึงมีไม่มาก และเป็นนโยบายที่สั้น และระยะเวลาที่ทำงาน 4 เดือนแล้วจะยุบสภา แต่หัวใจสำคัญ ไม่ได้สำคัญว่าท่านมีเวลาทำงานแค่ไหน สำคัญอยู่ที่ว่าเวลาที่ท่านมีอยู่นั้น ตนเชื่อว่าด้วยโยบายของรัฐมนตรีและนายกฯ สามารถที่จะวางแผน วางโครงสร้างให้กับประเทศผ่านการแก้กฎหมาย และวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับประเทศไทยในอนาคตได้อย่างมั่นคง

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ตนขอแนะนำนายกฯให้จัดทำแผนเผชิญวิกฤตในหลายค้าน ไม่จะเป็นเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ต้องมีความเชื่อมโยง บูรณาการกันอย่างเป็นระบบ ไม่แยกส่วน ที่สำคัญการเขียนนโยบายที่ไม่ครอบคลุมทุกกระทรวง อย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้นจะทำให้รัฐมนตรีบางกระทรวง ทำงานได้ลำบาก เพราะสิ่งที่รัฐมนตรีจะทำไม่ได้อยู่ในนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีในกระทรวงนั้นๆจะนำอะไรไปมอบให้กับข้าราชการในการปฏิบัติต่อไป และปัจจุบันโลกเราเปลี่ยนผ่านรวดเร็วมาก เทคโนโลยีต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นรัฐมนตรีจำเป็นที่จะต้องนำพาประเทศไทยผ่านการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีของโลก สามารถไปสู่กับนานาอารยประเทศได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ประเด็นเศรษฐกิจ ตนเห็นด้วยกับนายกฯที่จำเป็นจะต้องเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน แต่ท่านต้องไม่ลืมในส่วนของภาครัฐเองจำเป็นที่จะต้องเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้ภาครัฐด้วยเช่นกัน และหนึ่งในช่องทางที่สามารถสรรหารายได้ให้กับภาครัฐง่ายๆ ในส่วนของการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำ เช่นแก้กฎหมาย หรือประกาศของกรมสรรพากร ว่าให้ผู้ที่ลงโฆษณาในยูทูป ส่งสัญญาจ้างโฆษณาให้กับกรมสรรพกรทราบ เราจะได้รู้ว่าบริษัทไหนโฆษณาเท่าไหร่ เราจะสามารถเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่กรมสรรพกรต้องทำตัวเป็นมิตรกับหน่วยภาษีของท่าน ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาไปจับผิดเอาภาษีเพื่อให้ได้ตามเป้า ต้องแนะนำให้หน่วยภาษียินยอมชำระภาษีได้อย่างถูกต้อง

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ส่วนการลดรายได้ภาครัฐ คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ 30 บาทรักษาทุกที่ เป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลได้เป็น 1ในประเทศต้นๆของโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่าภาครัฐต้องนำเงินรายได้ภาษีจำนวนมากปีหนึ่งนับแสนล้านบาทมารักษาพี่น้องประชาชน ลองเปลี่ยนวิธีว่าหากประชาชนสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วย เงินค่าใช้จ่ายเป็นรแสนล้านบาทที่มารักษาประชาชนก็สามารถเอาไปใช้พัฒนาประเทศในมิติอื่นได้ เป็นการประหยัดงบประมาณของประเทศ

“พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่สนับสนุนนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยการแจกอย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาคุณภาพของประชาชนในทุกช่วงวัย ต้องให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหา สาเหตุของความอยากจน การแก้ไขปัญหาโดยที่มีภาครัฐเป็นพี่เลี้ยงในการพัฒนาศักยภาพของพี่น้องประชาชนในหลายๆมิติ” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะฝากไปถึงนายกฯคือการที่จะเริ่มแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พรรคชาติไทยก่อนที่จะมาเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ในปี 2538 นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยในขณะนั้นได้ฝากมรดกชิ้นสำคัญให้พี่น้องประชาชนคนไทยคือ รัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดของประเทศไทย รัฐธรรมนูญดังกล่าวมีที่มาจากการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่ครอบคลุมพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม มีทั้งการคัดเลือกและการเลือกตั้งจากทุกจังหวัด จึงเป็นเหตุให้เป็นรัฐธรรมนูญที่มีความสมบูรณ์ที่สุด และอยากขอฝากนายกฯลองพิจารณาแนวทางที่พรรคชาติไทยในขณะนั้นได้ดำเนินการเอาไว้ เพื่อเป็นจุดเริ่มการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มั่นคงของประเทศไทย

“อะไรที่ดีอยู่แล้วขอให้นายกฯทำต่อ อะไรที่จะต้องปรับแก้ ทำแล้วคนไทยดีขึ้นให้ทำเสีย ที่สำคัญ ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นเวลา 4 ปี หรือ 4 เดือน” นายวราวุธ กล่าว...

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ข่าวการเมือง ,วราวุธศิลปอาชา

คุณอาจสนใจ

Related News