กมธ.ปปง. แกะรอยเส้นทางการเงิน "เฉิน จื้อ-บริษัทปริ้นซ์" เชื่อมีทรัพย์สินในไทย

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (ปปง.) แถลงข่าวก่อนการพิจารณาแนวทางการดำเนินการกรณี นายเฉิน จื้อ ซึ่งอาจเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ว่า กมธ.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับนายเฉิน จื้อ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ กมธ.โดยตรง ตนจึงเสนอที่ประชุมให้นำเรื่องนี้มาพูดคุยกัน กมธ. เนื่องจากนายเฉิน จื้อ ถูกสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ อายัดทรัพย์ จึงเชื่อว่าบุคคลนี้น่าจะมีทรัพย์สินในประเทศไทยประมาณหนึ่ง

วันนี้ กมธ.จึงเชิญ ปปง. อัยการ และตำรวจอินเตอร์โพล เพื่อที่จะมาแกะเส้นทางการเงินของบริษัทในเครือของเขาทั้งหมด รวมถึงประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจที่มีข่าวว่ามีนักการเมือง 7 คน เกี่ยวข้องกับกระบวนการสแกมเมอร์ แม้สถานทูตเกาหลีจะออกมาปฏิเสธ แต่เราเชื่อว่าเป็นมารยาททางการทูตหรือไม่ที่ปฏิเสธ เราจะตามต่อ

ส่วนที่สหรัฐฯ และอังกฤษ ยึดทรัพย์นายเฉิน จื้อ แต่ที่ไทยยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้ เป็นเหตุผลให้ กมธ.นำเรื่องนี้มาพิจารณาและตั้งใจจะตามทรัพย์สมบัติของนายเฉิน จื้อ และธุรกิจในเครือว่ามีอะไรบ้าง ถ้า กมธ.สืบพบได้ว่ามีทรัพย์สิน เราจะรีบแจ้งรัฐบาลเพื่อดำเนินการต่อโดยเร็ว เพราะถ้าช้า จะมีการยักย้ายทรัพย์สินออกนอกประเทศหรือไม่ เป็นสิ่งที่พวกเรากังวล ดังนั้นวันนี้เราจะพิจารณาหาทรัพย์สินของเขาก่อน เราเชื่อว่าเขามีทรัพย์สินในไทย ซึ่งจะหาให้ได้

นายดนุพร กล่าวด้วยว่า ตนได้รับข้อมูลในทางลับเป็นจำนวนมาก ซึ่งการทำงานเรื่องนี้ ไม่ใช่ผลงานของพรรคในพรรคหนึ่ง ตนได้คุยกับนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มา 2 ครั้งแล้ว รวมถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งวันนี้มี สส.พรรคประชาชน ที่สนใจเรื่องนี้เข้ามาฟังใน กมธ.ด้วย พร้อมยืนยันว่า การพิจารณาเรื่องนี้ของ กมธ.เป็นการทำงานเพื่อประชาชนจริง ๆ และวันนี้เรามีผู้ใหญ่ที่เคยเป็นอดีตเลขาธิการ ปปง.มาเป็นที่ปรึกษาใน กมธ.ด้วย รวมถึงจะติดตามเส้นทางการเงินให้ถึงที่สุด เพราะเรื่องนี้กระทบกับภัยความมั่นคงของประเทศ และกระทบกับประชาชนจำนวนมาก ส่วนการดำเนินการเรื่องนี้ล่าช้าจนนายวิโรจน์ต้องออกมาจี้รัฐบาลนั้น ฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถก้าวก่ายฝ่ายบริหารได้ แต่ถ้าเราได้ข้อมูลมาก็จะส่งข้อมูลให้รัฐบาล

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ บริษัทปริ้นซ์ที่กัมพูชากับบริษัทปริ้นซ์ที่ไทยเชื่อมโยงกัน นายดนุพร ระบุว่า วันนี้จะทราบผล ซึ่ง ปปง.อาจจะต้องรับบางเรื่องไปตามข้อมูลให้เราต่อไป ส่วนที่สภาฯ จะปิดสมัยประชุมในสัปดาห์หน้าก็เหลืออีกสัปดาห์หนึ่ง เราพยายามจะสรุปและทราบให้ได้ว่าทำไมสหรัฐฯ และอังกฤษ อยู่ไกลกว่า แต่ขยับได้เร็วกว่าเรา เชื่อว่าอาจจะไม่ได้มีแค่บริษัทปริ้นซ์ ที่อาจจะเกี่ยวพัน ซึ่งบริษัทปริ้นซ์ได้ออกมาปฏิเสธ แต่ในอดีตมีการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกันหลายเรื่อง จึงเชื่อว่าอาจจะมีหลายบริษัท เพราะมีบ้านที่อังกฤษ มีทรัพย์สินอยู่ที่สหรัฐฯ มูลค่าหลายพันล้าน จึงเชื่อว่าประเทศไทยอาจจะเป็นเป้าหมายหนึ่งในการฟอกเงินก็ได้ เพราะมันใกล้มาก

นายดนุพร ยังเปิดเผยด้วยว่า สัปดาห์ที่ผ่าน กมธ.ได้พิจารณาเรื่องการส่งออกทอง ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการซื้อขายปกติ แต่การส่งออกทองจำนวนมาก ขณะนี้ เป็นไปได้ว่าจะมีการแปรเป็นเงินสดทั้งบาทและดอลลาร์ ในการเตรียมย้ายถ่ายเททองทำสแกมเมอร์ หรือที่ทำการมิจฉาชีพในรูปแบบอื่น ๆ เราจึงจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าสัปดาห์นี้ยังไม่ได้ข้อยุติ สัปดาห์หน้าจะเอาเรื่องทองและบริษัทปริ้นซ์ มาพูดคุยให้จบ

ส่วนบริษัทปริ้นซ์ กับการส่งออกทองเชื่อมโยงกันหรือไม่ ยังไม่มีใครยืนยัน เราได้เชิญสมาคมผู้ค้าทอง และ ปปง. ให้แกะรอยว่าทองไปที่ไหนบ้าง พบว่าประเทศไทยเป็นทางผ่านของทองไปที่กัมพูชา ซึ่งมูลค่าน่าจะเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสวิตเซอร์แลนด์ โดยได้รับการยืนยันว่าเป็นการเปลี่ยนทองเก่าเป็นทองใหม่ ซึ่งสมาคมค้าทองคำ ก็ยืนยันแบบนั้น แต่ ปปง.เห็นค่อนข้างตรงกับเราว่าเป็นไปได้ว่าทองเหล่านี้ จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย