เลือกตั้งและการเมือง

กมธ.ปปง. มองอายัดทรัพย์ดิไอคอน ร้อยล้านยังน้อยไป ชี้เรื่องของ สคบ. สอบปม เทวดา

16 ต.ค. 2567

115 views

16 ต.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส. เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (ปปง.) กล่าวถึงการนำเรื่องธุรกิจดิไอคอน เข้าหารือในประชุมว่า เบื้องต้นเป็นการหารือ เพื่อพิจารณาว่าจะเป็นการเอาผิดผู้บริหาร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างไร เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากและเป็นที่สนใจของสังคม เพราะฉะนั้นกรรมาธิการจะดูในเบื้องต้นก่อน โดยอาจจะเชิญนักกฎหมายมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแง่มุมข้อกฎหมายและจะสรุปออกมาว่าการประชุมครั้งหน้าจะเดินเรื่องดิไอคอนต่อ และจะเชิญหน่วยงานไหนมาชี้แจงต่อกรรมาธิการบ้าง

ส่วนกรณีที่ "บอสพอล" บอกว่าไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นการทำงานของแม่ข่ายและมีสินค้าจริง จึงอาจจะไม่เข้าข่ายการฟอกเงินนั้น นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า การขายสินค้าประเภทขายตรง ถ้าไปดูที่ผ่านมาก็จะมีการจ่ายเงินและส่งสินค้า แต่รูปแบบของ The Icon เป็นไปในทางอ้อม มีสมัครเป็นสมาชิกซื้อสินค้าแล้วฝากสินค้าไว้ ก็ต้องไปดูว่า หลักการขายสินค้าและแหล่งกำเนิดภาษี รายได้ที่จะต้องมาจากการส่งมอบสินค้า หรือเป็นรายได้ที่มาจากการสมัครเป็นสมาชิก ที่ไม่ใช่รายได้จากการขายสินค้า ดังนั้นจึงจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับทางบัญชี และทางสรรพากรที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่บอกว่า ตนเองมีสินค้าแล้วเป็นการขายของมันง่ายเกินไป

ส่วนความน่าเชื่อถือในเรื่องของการซื้อสินค้าแล้วให้สต๊อกสินค้าไว้ก่อนนั้น ตนมองว่ากรณีนี้มีความน่าเชื่อถือน้อย ผู้เสียหายก็ชี้แจงได้ชัดเจนอยู่แล้วว่าบางครั้งเบิกสินค้าไปแล้วขายไม่ได้ แต่การประชาสัมพันธ์หรือการสื่อสารทางการตลาด กลับบอกว่ายอดขายสูง ซึ่งยอดขายเกิดจากการที่เอาเงินจากการเป็นสมาชิกมาเป็นรายได้ไม่ใช่การขายสินค้าโดยตรง จึงทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและหลงเชื่อมาเป็นสมัครสมาชิกเพิ่ม ซึ่งในส่วนนี้ก็มีช่องทางกฎหมาย ที่มีความผิดปกติและสามารถเอาผิดได้

นายเลิศศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางตำรวจสอบสวนกลางได้รับแจ้งความไปเยอะแล้ว เมื่อรับแจ้งความแล้ว ตำรวจสอบสวนกลางก็ต้องรายงานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่ง ปปง.ก็รับเรื่องไปแล้ว และสามารถเช็กเส้นเงินทั้งหมดของผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้บริหาร หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งนี่จะเห็นชัดเจนไม่สามารถเลี่ยงได้ และกรรมาธิการ ปปง.ก็มีอำนาจที่จะขอตรวจสอบดูว่าทางปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินไปถึงไหนแล้ว และมีอะไรผิดปกติหรือไม่

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าแน่นอนว่าจะต้องเชิญทาง เลขาธิการ ปปง.มาชี้แจงในเรื่องนี้ ซึ่งจากข่าวที่ออกมาบอกว่าปปง.อายัดไว้ 100 กว่าล้าน ซึ่งเป็นการอายัดตามความเสียหาย แต่ตนมองว่า 100 กว่าล้าน ดูน้อยเกินกว่าความเป็นจริง เพราะขณะนี้เฉพาะผู้เสียหายที่ไปร้องหรือแจ้งข้อกล่าวหาไว้มีจำนวนมากกว่า 100 กว่าล้าน ที่ปปง. อายัดไว้แน่นอน

สำหรับกรณีที่อาจจะมีบิ๊กบอสที่ไม่ใช่ "บอสพอล" เพียงคนเดียวนั้น ตนมองว่าเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ที่จะต้องฟังและติดตามดูจากพยานหลักฐานต่างๆ

นายเลิศศักดิ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการล็อบบี้กันในสภา ที่มีบุคคลภายนอกมาแอบอ้างแล้วบอกว่าเคลียร์กรรมาธิการได้นั้น ว่า กรรมาธิการประกอบไปด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วแต่ละคณะก็จะมีที่ปรึกษาและเลขา ด้วยศักดิ์ศรีของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นกรรมาธิการที่มาจากประชาชนประชาชนเดือดร้อนเราไม่ยอมที่จะให้ใครมาขอหรือเคลียร์เพื่อช่วยเหลือคนบางคนที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะฉะนั้นเรื่องที่เป็นคลิปเสียง ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับกรรมาธิการ และไม่สามารถเคลียร์ได้ โดยเฉพาะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด เราติดตามคดีสำคัญๆมาหลายคดีแล้ว เช่นการฉ้อโกงของ บริษัทสตาร์ค ซึ่งเราก็ทำมาแล้วและทำจนถึงที่สุดและในกรณี The icon ก็เช่นเดียวกัน กรรมาธิการก็จะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ถ้าการพิจารณาตามปกติใช้เวลา เราจะตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมา ประกอบด้วยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ให้เข้ามาดู และจะทำจนถึงที่สุดให้คดีนี้ไปถึงศาล และประชาชนได้รับการเยียวยาชดเชย


"ส่วนคลิปที่กล่าวอ้างถึง ยืนยันอีกครั้งว่าสภาผู้แทนราษฎรไม่มีการรับเคลียร์อะไรกับใครแน่นอน ประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ได้มีการตรวจเช็กอยู่ และบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในคลิป ไม่มีตำแหน่งแห่งหนใดอยู่ในกรรมการชุดนี้แน่นอน ให้ประชาชนสบายใจได้ว่ากรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด จะเข้ามาติดตามคดี The Icon อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีนอกมีใน เพื่อประชาชนที่เสียหายแน่นอน"นายเลิศศักดิ์กล่าว


นายเลิศศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีเทวดาที่บอกว่ามาช่วยประสาน ว่า ตรงนั้นเป็นการเกี่ยวกับสคบ.หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องของสคบ.เป็นเรื่องภายในหน่วยงานเขา ถ้าฟังจากผู้เกี่ยวข้องที่มาชี้แจงแล้ว มันเกี่ยวกับบุคคลใดที่อยู่ในสคบ.ก็เป็นอำนาจของกรรมาธิการคณะนี้ที่จะสามารถที่จะเชิญมาชี้แจงได้ อย่างไรก็ตามตนยังไม่ทราบในรายละเอียดว่าเทวดาคือใครบ้าง แต่เบื้องต้นกรรมาธิการมีแนวทางในการติดตาม ไม่ใช่หน่วยงานที่จะไปดำเนินคดีโดยตรง หน่วยงานของสภาคือกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด มีหน้าที่ติดตามหน่วยงานที่ดำเนินการทางกฎหมายกับทาง The Icon ฉะนั้นเราจะตามจนถึงที่สุดให้คำมั่นสัญญากับประชาชนทั่วประเทศว่า เราจะทำให้ถึงที่สุดแน่นอนและถ้ามีความจำเป็นเราก็จะตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาและจะดูไปถึงเรื่องของข้อกฎหมายด้วย เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่จะทำให้เกิดการฉ้อโกงประชาชน จะต้องมาดูว่ายังมีช่องโหว่อีกหรือไม่ เราจะต้องมารวบรวมและแก้ไขกฎหมายและนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป


ส่วนทางพรรคประชาชนจะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในเรื่องนี้ด้วยนั้น เห็นตรงกันกับวิปรัฐบาล ซึ่งหากข้อสรุปของสภา บอกว่าจะให้กรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดเป็นผู้ดำเนินการ ศึกษาและติดตามปัญหา The Icon ต่อทางกรรมาธิการก็ยินดี

คุณอาจสนใจ

Related News