เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ ยันหากมีรัฐมนตรีเอี่ยวสแกมเมอร์ ดำเนินคดีทันที ลั่นต่อให้เป็นชื่อ “อนุทิน” ก็ต้องถูกจับ
21 ต.ค. 2568
67 views
นายกฯ หยอดหวานชมการทำงาน ผบ.ตร. ในฐานะเพื่อนและทำงานได้ดี เผยรัฐมนตรีช่วยการคลัง เตรียมชี้แจงต่อสาธารณะภายใน 5-10 วัน ย้อนกลับสื่อหากเปิดชื่อว่าใครผิด คนนั้นก็ต้องถูกดำเนินคดี ต่อให้เป็นชื่อ “อนุทิน” ก็ต้องถูกจับ
ภายหลังจากการแถลงข่าวปราบปรามยาเสพติดเสร็จสิ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบรรดาผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจ ได้เดินไปยังรถซุ้มน้ำซึ่งให้บริการสื่อมวลชนและตำรวจที่มาร่วมแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
โดยนายอนุทินสั่งน้ำบ๊วยโซดารับประทาน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สั่งเมนูเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังยกป้ายเมนู เพื่อถามเมนูให้กับบรรดาผู้บังคับบัญชาของตำรวจพร้อมกับสั่งแทนให้ เมื่อได้น้ำมาแล้ว นายอนุทินก็ดื่มน้ำอย่างสบายใจและมีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับเสิร์ฟแก้วน้ำให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจอีกด้วย
โดยนายอนุทินบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “เมื่อตนเจอหน้า ผบ.ก็ชื่นใจ” เพราะว่าท่านทำงาน ทุกคนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น เพื่อนกันตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมารู้จักกันเพราะทำงาน ก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ท่านทำงานให้รัฐบาลให้ประชาชน
หลังจากนั้นนายอนุทินก็ได้เดินออกมาจากร้านน้ำ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประเด็นที่มีการตั้งข้อคำถามว่า นายกรัฐมนตรีจะตัดวงจรที่เข้ามาฟอกเงินในประเทศไทย หรือจะตัดใจจากรัฐมนตรีท่านหนึ่ง นายอนุทินจะเลือกอะไร นายอนุทินเปิดเผยว่า เลือกทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
ส่วนกรณีของนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่เผชิญมรสุมข้อครหาในตอนนี้ นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่ต้องให้กำลังใจ” บุคคลระดับนี้ไม่ต้องการกำลังใจ เขามาทำงาน แต่ตนก็บอกกับนายวรภัคไปว่า หากถูกกล่าวหาอะไรก็ควรต้องออกมาชี้แจง เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงาน นายวรภัคก็รับปากแล้วบอกว่าขอเวลา 5-10 วันก่อนจะออกมาชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่กระทรวงการคลัง รวมทั้งขอให้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ตน ซึ่งนายวรภัคก็รับปาก
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีผลต่อการต้องปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ หากพบความเชื่อมโยง นายอนุทินตอบกลับว่า เวลาตนทำงานกับใคร ตนจะไม่ดูว่าใครชื่ออะไร แต่จะดูเพียงแค่พยานหลักฐานและเส้นทางที่มาที่ไปของบุคคลคนนั้น ถ้าบุคคลนั้นมีเส้นทางที่ชัดเจนว่ามีที่มาที่ไม่ถูกต้อง เปิดชื่อมาเจอคนไหน ก็ต้องดำเนินคดี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นและไม่เข้าใจว่าทำไมผู้สื่อข่าวถึงยังไม่เข้าใจประเด็นนี้ ทางตำรวจก็ทำงานสอบสวนอยู่แล้ว “ต่อให้เปิดมาเจอชื่ออนุทิน ตำรวจก็ต้องจับ” เปิดมาชื่อใครก็โดนหมด จึงขอให้มั่นใจ ถ้าเราไม่ผิด ทำไมต้องไปเดือดร้อนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งว่า จำเป็นต้องตัดใจหรือไม่ นายอนุทินบอกว่า ไม่ต้องตัดใจ ไม่ใช่พ่อไม่ใช่ลูกกัน ไม่ใช่พี่ไม่ใช่น้องกัน ต่อให้เป็นพ่อลูกกันทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนจะมีการอุ้มสมกันหรือไม่ นายอนุทินยืนยันว่าไม่มี ทุกคนทำตามหน้าที่ทำตามครรลอง
ส่วนการประชุม GBC ในวันนี้ นายอนุทินกล่าวว่า ตนได้รับรายงานว่าการประชุมคืบหน้าไปได้ด้วยดี ซึ่งเรามีจุดยืนและมีเงื่อนไขที่ได้แจ้งกับทางประเทศคู่กรณีว่า ต้องยอมรับและปฏิบัติตาม 4 ข้อเงื่อนไข ซึ่งประเทศคู่กรณีก็รับทราบ การเจรจายังเป็นไปตามกรอบ
แท็กที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี ,อนุทิน ชาญวีรกูล ,สแกมเมอร์