เลือกตั้งและการเมือง

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด อดีต สส.พลังประชารัฐ ทุจริตสมัยเป็น ผอ.โรงเรียนอนุบาล

โดย nicharee_m

26 ส.ค. 2568

1.1K views

ป.ป.ช.ภาค 3 ชี้มูลความผิด “เกษม ศุภรานนท์” อดีต สส.โคราช พรรคพลังประชารัฐ ทุจริตสมัยเป็น ผอ.โรงเรียนอนุบาล

วันนี้ (26 สิงหาคม 2568) ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายยศกร ศรีคลัง ผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริตภาค 3 และนางสาวสุกัญญา พลายมนต์ พนักงานไต่สวนระดับสูง สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้มูลความผิด นายเกษม ศุภรานนท์ อดีต สส.จังหวัดนครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ สมัยเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา

โดยกล่าวหาว่า ขณะดำรงตำแหน่ง ผอ.รร.อนุบาลนครราชสีมา นายเกษมได้มีการเรียกเก็บเงินกับผู้ประกอบการร้านค้าภายในโรงเรียนโดยมิชอบ และไม่ได้นำเงินที่เก็บเข้ามาเป็นรายได้ของโรงเรียน และกรณีการเบิกจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันของนักเรียนโดยมิชอบ โดยกรณีดังกล่าวนั้นได้มีการสอบปากคำพยานบุคคลไปแล้วกว่า 40 ปาก พร้อมกับมีเอกสารหลักฐานกว่า 60 รายการ

ซึ่งปรากฎข้อเท็จจริงว่า นายเกษมผู้ถูกกล่าวหา เมื่อย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการเก็บเงินกับผู้ประกอบการในโรงเรียน ซึ่งมีทั้งหมด 8 ราย โดยเปลี่ยนจากการเก็บค่าเช่าจากรายวัน มาเป็นการเก็บล่วงหน้าในครั้งเดียว โดยเรียกเก็บรายละ 1 – 4 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2,700,000 บาท โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีผู้ประกอบการ 5 ราย นำเงินไปส่งมอบให้กับนายเกษมผู้ถูกกล่าวหาโดยตรง และตัวผู้ถูกกล่าวหาได้มีการเบียดบังเงินรายได้ส่วนนี้ไปกว่า 1 ล้านบาท

ซึ่งในประเด็นเรียกเก็บเงินร้านค้าภายในโรงเรียนนี้ ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามมาตรา 147, 149, 151 และมาตรา 157 ส่วนในประเด็นการเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนโดยมิชอบ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ตัวผู้ถูกกล่าวหาได้สั่งการให้ครูในโรงเรียนนำเงินค่าอาหารกลางวันเด็กมามอบให้กับผู้ถูกกล่าวหา โดยอ้างว่าจะนำเงินไปพัฒนาโรงเรียน โดยได้มีการว่าจ้างเอกชนที่มีความสนิทสนมกันมาทำป้ายโรงเรียนมูลค่ากว่า 500,000 บาท และมีการทำเอกสารประมาณราคากลางย้อนหลัง

ซึ่งจากการสอบปากคำพยานทางด้านโยธาพบว่า มูลค่าของป้ายโรงเรียนมีมูลค่าเพียง 300,000 บาท ซึ่งเท่ากับว่าการก่อสร้างป้ายโรงเรียนนั้น มีราคาการก่อสร้างแพงกว่าความเป็นจริง โดยประเด็นนี้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็ได้ชี้มูลความผิดทางอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 เป็นการชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ยังไม่ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด

คุณอาจสนใจ

Related News