เลือกตั้งและการเมือง

ป.ป.ช.จ่อชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีกล่าวหาโยกงบฝ่าฝืน รธน.ม.144 - คลิปเสียงคุย “ฮุนเซน”

8 ต.ค. 2568

132 views

ป.ป.ช.เผยคืบหน้าคดีกล่าวหา “แพทองธาร” ปมโยกงบฝ่าฝืน รธน.ม.144 ไต่สวนเสร็จแล้ว รอชงที่ประชุมใหญ่ชี้ขาด - คดีคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เพิ่งได้คำวินิจฉัยศาล รธน.ฉบับเต็ม ขอดูข้อเท็จจริงก่อน

นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีกล่าวหาฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 โดยกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึง คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 รวมไปถึง สส. และ สว. ที่ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 ดังกล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้องค์คณะไต่สวนดำเนินการเสร็จแล้ว เป็นการไต่สวนในทางลับ โดยเป็นปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการแปรญัตติ และเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ หรือการส่งใช้ตามกฎหมาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอสรุปสำนวน เพื่อส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา คาดว่าน่าจะไม่ล่าช้า  ต้องผลรอการประชุมคณะกรรมการ

ส่วนกรณีกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วนั้น ป.ป.ช.เพิ่งได้รับคำวินิจฉัยของศาลมาไม่นานนัก โดยต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาดูว่า ข้อเท็จจริงที่ศาลวินิจฉัยมา ป.ป.ช. รับฟังข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งได้มีการตั้งองค์คณะไต่สวนแล้ว โดยการกระทำอาจแยกเป็น 2 ส่วน คือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เป็นความผิดทางอาญา เป็นการกล่าวหาความผิดด้านความมั่นคง และความผิดด้านมาตรฐานจริยธรรม ในส่วนศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งนายกฯ การใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งไม่น้อยกว่า 10 ปี

สำหรับขั้นตอนการไต่สวน องค์คณะไต่สวนต้องพิจารณว่าการกระทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ป.ป.ช. ใช้เป็นหลักในการไต่สวน จะไปทางไหน ระหว่างทางอาญา กับทางจริยธรรม

ส่วนระยะเวลาในการพิจารณานั้น ส่วนตัวไม่อยากให้ความเห็น แต่จากประสบการณ์ทำคดีฝ่าฝืนจริยธรรม คิดว่าไม่น่าใช้เวลานานมาก แต่อาจมีขั้นตอนหลังแต้งข้อกล่าวหาจะใช้เวลามาก  ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ถ้าเสร็จ 6 เดือนเลย อาจกระทบองค์คณะไต่สวน ยืนยันว่านโยบายของ ป.ป.ช. ต้องไม่ล่าช้า  เพราะอยู่ในช่วงปฏิรูปองค์กร คดีไหนสื่อสนใจ และสำคัญ จะกำหนดกรอบการทำงานทุกเรื่อง มี 15 วัน 30 วัน 60 วัน ต้องมีความคืบหน้าขึ้นมา

ขณะที่ประเด็นมาตรฐานจริยธรรม ปัจจุบันมีการตัดสินทั้งศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกา เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาแล้ว ป.ป.ช.จะวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องของการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม และที่ศาลฎีกา พิพากษาออกมา คือเรื่องตัดสิทธิทางการเมือง ที่เรียกว่าประหารชีวิตทางการเมือง ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดไป ห้ามใช้สิทธิเลือกตั้ง 10 ปี มาตรฐานจริยธรรม ใช้ตัวเดียวกัน ใช้บังคับกับ สส. สว. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายกฯ และรัฐมนตรีด้วย เพราะฉะนั้น เราใช้ข้อกฎหมายเดียวกัน แนวคำพิพากษาเดียวกัน ยกเว้นข้อเท็จจริงแตกต่าง ไม่เคยมีแนวคำวินิจฉัยออกมา ถ้ามีข้อเท็จจริง เช่น กรณีนี้ เข้าใจว่าสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ป.ป.ช. ต้องนำมาดูอยู่แล้ว แนววินิจฉัยอาจไม่แตกต่างกันมาก ยกเว้นมีข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายแตกต่าง ถ้าไม่มีอะไรที่พลิกแพลง หรือเปลี่ยนแปลง แนวคำวินิจฉัยก็ไม่น่าเปลี่ยนแปลง หลายคดีที่ผ่านมา ที่ ป.ป.ช.ชี้มูล และศาลฎีกาพิพากษามา


คุณอาจสนใจ

Related News