เลือกตั้งและการเมือง

‘ภูมิธรรม’ โชว์หนังสือ ‘พิศาล’ ลาออก อ้างไม่อยากทำพรรคเดือดร้อน เลื่อน ‘ขจิตร ชัยนิคม’ ขึ้น สส.แทน

โดย petchpawee_k

16 ต.ค. 2567

12 views

ภูมิธรรม โชว์ หนังสือ พลเอกพิศาล ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่งผลพ้น สส. ยืนยันแกนนำพรรคไม่กดดัน จากนี้เป็นเรื่องตำรวจติดตามตัวเลื่อน ‘ขจิตร ชัยนิคม’ ขึ้น สส.แทน

วานนี้  15 ต.ค. 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ให้ตัวแทนมายื่นหนังสือลาออกกับนายทะเบียนพรรค โดยแจ้งความประสงค์ที่จะลาออกและมีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ซึ่งขั้นตอนในการติดตามตัวและความคุ้มครองจากสภาผู้แทนราษฎรก็หมดลงไปด้วย ซึ่งตนในนามเลขาธิการพรรคเพื่อไทยยังยืนยันคำเดิมอยากให้พลเอกพิศาลกลับมาต่อสู้คดีถึงแม้จะลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วก็ตาม แต่ยังยืนยันสิ่งที่อยากให้เกิดคือให้ท่านกลับมาเข้าสู่กระบวนการ ส่วนเหตุผลในการลาออกตนยังไม่ได้ดูในรายละเอียดขอให้ถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย


จากนั้นนายภูมิธรรม ได้ถือหนังสือลาออก ของพลเอกพิศาลเพื่อเตรียมมอบให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า พลเอกพิศาลได้ให้ตัวแทนมายื่นเอกสารกับนายทะเบียนของพรรค โดยไม่ได้มีการประสานกับตนหรือแกนนำพรรคคนอื่น แต่ให้คนของท่านมายื่น ซึ่งก่อนจะมายื่นหนังสือพลเอกพิศาลก็ไม่ได้มาติดต่อตนแต่อย่างใด จากนั้น นายภูมิธรรมได้โชว์หนังสือลาออกของพลเอกพิศาลให้กับผู้สื่อข่าวพร้อมอ่านเนื้อหาระบุว่า


"จากที่ตนตกเป็นข่าวในคดีอาญาศาลจังหวัดนราธิวาสตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2547 ซึ่งในขณะนี้ที่ผมอยู่ระหว่างการรักษาอาการป่วย และอยู่ระหว่างการพักฟื้น ซึ่งได้ยื่นใบลา กับสภาผู้แทนราษฎร และได้รับอนุมัติตามระเบียบ อย่างไรก็ตามตนได้ทราบ ข้อเท็จจริงว่าได้มี การนำประเด็นของตน ไปเคลื่อนไหวอันจะมีผลให้ เกิดความขัดแย้งในสังคม และผูกโยงให้มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยซึ่งตนเป็นสมาชิก และความเป็น สส. ทั้งที่พรรคเพื่อไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าวแต่อย่างใด จึงเห็นว่าเพื่อไม่ให้เครื่องดังกล่าวมีผลกระทบกับพรรคเพื่อไทย จึงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะทำให้ขาดสมาชิกกับภาพความเป็นสส. ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อสภาผู้แทนราษฎร สำหรับคดีความที่เกิดขึ้น จะขอมาดำเนินการชี้แจงด้วยตัวเอง เมื่ออาการป่วยทุเลาลง"


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพลเอกพิศาลได้บอกหรือไม่ว่าจะกลับมาต่อสู้คดีตามข้อความในหนังสือลาออกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ตามนี้แหละ ซึ่งหลังจากพลเอกพิศาลลาออกจะได้เลื่อนนายขจิตร ชัยนิคม ขึ้นมาเป็นส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่พลเอกพิศาลลาออกเพราะทนการกดดันจากสังคมหรือ ผู้ใหญ่บอกให้ลาออก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอบแทนไม่ได้ ก่อนจะหัวเราะแล้วบอกว่ารอให้ท่านมาแล้วถามท่าน แต่ในหนังสือลาออกท่านบอกว่า เมื่อทุเลาจะกลับมาแต่ไม่ได้บอกเวลา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะกลับมาหลังวันที่ 25 ตุลาคมนี้ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบไม่ได้คุยกัน ก็แค่นี้ตนจะเอาหนังสือมาให้หัวหน้าพรรค

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าการลาออกของพลเอกพิศาลช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำคำเดิมว่าไม่ทราบ เราได้ทำหน้าที่ของเราไปแล้ว ตนในฐานะกำกับดูแล สตช. ได้สั่งการ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว " ที่บอกว่าไม่ทำอะไรแล้วจะฟ้องผม มาตรา 157 ผมได้ดำเนินการทุกอย่างหมดแล้ว การดำเนินการหาตัว ก็เป็นไปอย่างที่เจ้าหน้าที่ชี้แจง เป็นข่าว ที่บอกว่าไปบุกค้นบ้านพักที่จังหวัดสงขลาในภาคใต้ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้เดินทางไปเอง รวมถึงมีการส่งเรื่องให้ตำรวจสากล ให้เป็นไปตามกระบวนการ ถือว่าตรงนี้จบแล้ว ของเรามีหน้าที่ดำเนินการควบคุมตัว โดยเป็น หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการทั้งหมด "

จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ โดยมีนายภูมิธรรมและนายสุรวงศ์ยืนรออยู่ก็จะเดินขึ้นไปพร้อมกัน

-------------------------

วานนี้  15 ต.ค. 2567 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีโดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยที่ถูกออกหมายจับในคดีตากใบ ว่าในส่วนของพรรคจะมีการดำเนินการอย่างไรนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอให้มีการประชุมพรรคเพื่อไทยในช่วงเย็นวันนี้ เมื่อถามว่าพล.อ.พิศาลได้ยื่นหนังสือลาออกแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “อ้าว เพิ่งทราบ”

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่รออยู่แล้วได้เข้าแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีและยื่นหนังสือลาออกของพล.อ.พิศาล ดังกล่าวให้กับนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นห้องประชุมคณะรัฐมนตรีทันที

---------------------------

“อังคณา” มอง “พิศาล” ลาออกเป็นเรื่องส่วนตัว แต่รัฐบาลไม่สามารถปฏิเสธหน้าที่ตามตัวผู้ต้องหาขึ้นศาลคดี จวก “ภูมิธรรม” บางเรื่องไม่ต้องพูดจะดีกว่า เพราะเหมือนการปัดความรับผิดชอบ

นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การลาออกเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่จะลาออกเพื่อหนีความผิดหรือหนีการขึ้นศาล

อย่างไรก็ตาม นางอังคณา ย้ำว่า การลาออกดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคไทยรักไทยในอดีต หรือรัฐบาลใดก็ตาม จะหมดภาระผูกพันในการให้ความยุติธรรมต่อประชาชนในคดีตากใบ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อนำตัวจำเลยทั้งหมด มาปรากฏต่อหน้าศาล ก่อนคดีจะหมดอายุความ

นางอังคณา กล่าวต่อไปว่า การลาออกของ พล.อ.พิศาล จะทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ว่าหน้าที่ของรัฐบาลยังอยู่ ขอความกรุณาให้รัฐบาลใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ทั้งหมด โดยยกตัวอย่างกรณีหลักการการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ที่วันนี้ประเทศไทยก็ได้ส่งไปให้หลายประเทศ หรือการออกหมายแดงโดยอินเตอร์โพล

"วันนี้ศาลยังไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูก แต่เป็นการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลจะเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายก็เคารพ แต่ในวันนี้เรายังไม่เห็นความพยายามของรัฐบาลในการดำเนินการตามหลักสากล ของการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน"  

นางอังคณา ระบุว่า อย่างในกรณีของ พล.อ.พิศาลซึ่งอ้างว่าป่วย รัฐบาลก็ต้องเคารพสิทธิของผู้ป่วย แต่การนำตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมรัฐบาลสามารถทำได้อยู่แล้วขึ้นอยู่ว่าจะทำหรือไม่ทำเท่านั้น ส่วนตัวจึงอยากให้กำลังใจรัฐบาลไทยด้วย และมองว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษและตำรวจไทยมีความสามารถมาก ในการติดตามบุคคลต่างๆ รวมถึงสามารถดักฟังโทรศัพท์ได้ แต่อยู่ที่ว่ารัฐบาลมีความจริงใจ หรือมีเจตจำนงทางการเมืองในการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทย

"หากรัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย แต่พูดคำเดียวว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็ถือว่าน่าละอายมาก เท่ากับว่ารัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบและปล่อยให้เกิดวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด"  

นางอังคณา ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งออกมาให้สัมภาษณ์บางครั้ง ส่วนตัวมองว่าบางเรื่องไม่ต้องพูดออกมาก็น่าจะดีกว่า เพราะพูดแล้วจะเป็นเหมือนการผลักภาระ หรือปฏิเสธความรับผิดชอบ ทั้งที่ความจริงรัฐบาลสามารถทำได้อยู่แล้ว และหากในนโยบายของรัฐบาลพูดถึงหลักนิติธรรม เรื่องนี้ก็จะเป็นบทพิสูจน์หนึ่งว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องหลักนิติธรรมเพียงใด



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/4kcxNt144Rs

คุณอาจสนใจ