เลือกตั้งและการเมือง
"เฉลิมชัย" บอกยังไม่มีดีลปรับครม. ท้าเปิดชื่อใครคุย ลั่นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ไม่ได้ดีแต่ปาก
โดย gamonthip_s
6 เม.ย. 2567
44 views
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวพบปะสมาชิกพรรคภายหลังจากพิธีทางศาสนาเสร็จสิ้น โดยระบุตอนหนึ่งว่า ประชาธิปัตย์ยุคนี้ ไม่ได้ดีแต่ปาก เก่งแต่พูด แต่เปิดโอกาสให้กับทุกคน เพราะต้องการยึดโยงประชาธิปไตยอยู่กับทุกคนทุกกลุ่ม วันนี้พรรคประชาธิปัตย์สู้จริงๆ และประชาธิปัตย์จะไม่มีวันมาบอกว่าสู้เขาไม่ได้ เพราะวันนี้มีศูนย์เทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งตนได้มอบหมาย ให้นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้รับผิดชอบ และเชื่อว่านายสุชัชวีร์ทำได้ และต้องพิสูจน์ความสามารถให้ได้ว่าดีกว่าเขา โดยต้องเริ่มทันที ไม่ใช่มานั่งโม้ นั่งคุยตรงนี้ เราทำทันที ตั้งศูนย์เทคโนโลยีมาเพื่อทำโครงการสื่อสาร
โดยนายเฉลิมชัยยังระบุอีกว่า ภายในวันที่ 27 เมษายน ทุกอย่างจะเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด ตนไม่ใช่คนจบนอก แต่จะเป็นทุกอย่างให้ประชาธิปัตย์ แต่ทุกคนต้องมาช่วยกัน
ขณะเดียวกันนายเฉลิมชัย ยังระบุอีกว่า สิ่งที่ตนอยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลง ถ้าภายในไม่เป็นหนึ่งเดียว จะไม่มีพลัง และประชาธิปัตย์เป็นองค์กรสาธารณะ เป็นองค์กรทางการเมือง ตนอยากฝากไปทุกกลุ่ม แม้ว่าจะไม่เลือกประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทำผิด ถ้าคุณบอกว่าประชาธิปัตย์ไม่ดี ก็ให้ไปดูว่ายุคไหน ใครบริหาร แต่ต้องให้เกียรติความเป็นพรรคการเมือง ถ้าวันนี้ผมบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดี ด่านายเฉลิมชัยได้เลย อย่าไปด่าพรรค เหมือนกับคุณมีบริษัทอยู่บริษัทหนึ่ง บริหารไม่ดี อย่าไปด่าบริษัท ให้ด่าผู้บริหาร พรรคการเมืองต้องตั้งให้ง่าย ยุบให้ยาก ไม่ใช่ตั้งยากและยุบง่าย ไม่มีทางที่จะพัฒนาการเมืองไปได้อย่างเด็ดขาด นี่คือหนึ่งในนโยบายของเรา พรรคต้องให้โอกาสแต่อย่าไปยุบเขาเลยถ้าไม่มีความจำเป็น
นายเฉลิมชัย ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่มีการประชุมใหญ่ สามัญประจำปีของ พรรควันที่ 27 เมษายนนี้ สิ่งที่ทุกคนเรียกร้องว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคปิด เป็นพรรคที่มีในกลุ่มพรรคพวกเท่านั้น ตนจะเปิดพรรคประชาธิปัตย์ 27 เมษายนนี้ เราจะเปิดพรรคประชาธิปัตย์ให้ทุกคนมีส่วนร่วม หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาสู่พรรค ที่จะเป็นสมาชิกพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคหรือหัวหน้าจะถูกลดลงมา เพื่อให้ทุกคนสามารถสัมผัสได้ ถ้าคุณมีความสามารถ และมีจิตใจที่ยึดโยงกับพรรคประชาธิปัตย์ เราแก้ไขเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดทุกที่ให้เยาวชน และคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ เปิดให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะเดินแล้ว รวมถึงคนรุ่นเก่าที่อาจเข้าใจผิด จะเชิญพวกท่านเหล่านั้นให้กลับมาช่วยกันเป็นพลังพรรคประชาธิปัตย์กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
นายเฉลิมชัยยังกล่าวอีกว่า เรากำลังจะก้าวผ่านจุดเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ตนอยากถามทุกคนว่า อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อยากให้ประเทศไทยดีขึ้นหรือไม่ ขอให้มาช่วยประชาธิปัตย์ วันนี้เรากำลังจะเปลี่ยน ถ้าทุกคนไม่มาช่วยกัน ไม่มีโอกาสนั้นหรอกครับ พรรคประชาธิปัตย์ถึงจะ 78 ปี แต่ไม่ใช่คนแก่ประเภทไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ภาษา แต่เป็น 78 ปี ที่มีประสบการณ์พร้อม ผ่านวิกฤตเหตุการณ์ต่างๆ และพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง และอยู่เคียงข้างกับประเทศไทยในยามที่ประเทศไทยมีวิกฤตทุกครั้ง นี่คือประชาธิปัตย์
โดยนายเฉลิมชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่าไปฟังคนอื่นเขามาก ขอมาฟังตน ผมนักเลงพอที่จะรับผิดชอบ ไม่ต้องห่วง ผมจบด็อกเตอร์ เรียนมาไม่ได้ซื้อ ไม่ใช่กิตติมศักดิ์ด้วย แต่จะเป็นทุกอย่างเท่าที่สมาชิกอยากให้เป็น
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กล่าวในวาระครบรอบ 78 ปีก่อตั้งพรรค โดยระบุว่า ที่แน่ ๆ แก่ขึ้นอีกปี พูดได้เต็มปากว่าเราเป็นสถาบันทางการเมือง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ต้องอยู่คู่กับประเทศไทยอีกนาน ซึ่งจะต้องมีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์โลกปัจจุบัน วันนี้สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือพรรคสดใสขึ้น และเห็นถึงหัวใจของการเปลี่ยนแปลงคือการตั้งศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสื่อสาร ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ในแง่การสื่อสารถึงประชาชน นำเสนอสิ่งต่างๆสู่สังคม วันนี้โลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี จึงต้องขับเคลื่อนให้ทันโลก
ส่วนที่ประกาศในการสัมมนาสส. และกรรมการบริหารพรรค ที่จังหวัดชลบุรี เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะมีการระดมศิษย์เก่าของพรรคที่ลาออกกลับบ้าน วันนี้สามารถเปิดเผยได้หรือไม่ว่ามีใครบ้าง นายเฉลิมชัย ระบุว่า เรามีการพูดคุยกันอยู่ตลอด เพียงแต่รอการประชุมสามัญใหญ่ประจำปีที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ ที่จะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรค ในเรื่องสัดส่วนการเลือกกรรมการบริหารพรรคให้เกิดความชัดเจน อะไรที่ท้วงติงว่าไม่เหมาะสมเราก็แก้ไข เพื่อเปิดกว้างให้กับคนรุ่นใหม่ และสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรคที่จะย้ายกลับมา ว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าแล้ว ซึ่งจะก้าวอย่างมั่นคง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการบริหารแต่อย่างใด
ครั้งนี้ นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยนั้น ว่า การปรับครม.ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะอำนาจอยู่ที่ท่าน ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ประเด็นที่บอกว่ามีการพูดคุย ตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า
"ท่าน (นายกฯ) ต้องบอกมาชัดเจนว่าใครไปคุยอะไร ที่ไหนอย่างไร ถ้าพูดไม่ชัดเจน ประชาธิปัตย์เสียหาย และประชาธิปัตย์เป็นองค์กร ความเป็นประชาธิปัตย์มันมากกว่าตำแหน่งของท่าน เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ใช่ ต้องอย่าพูด เราก็เตือนเราก็บอกท่าน การพูดในสิ่งที่ไม่ชัดเจนมันไม่ดีกับทุกฝ่าย ถ้าไม่ทำได้ ก็เป็นสิ่งที่ดี"
เมื่อถามย้ำว่ามีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปพูดคุย แต่ไม่ได้บอกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคใช่หรือไม่ นายเฉลิม กล่าวยืนยันว่า ไม่ทราบ แต่ในส่วนของตนไม่มี ไม่เคยคุยอะไรกับใคร ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีข้อบังคับและหลักเกณฑ์อยู่ ตนพูดตลอดนักการเมืองเวลาคุยกัน มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อย่าไปตีความว่ามีการพูดคุย เพราะนี่คือการพูดคุยปกติจริง ๆ แต่หลายคนอาจจะไม่กล้าพูด นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าพรรคอะไรเป็นพรรคการเมืองคุยได้ทั้งหมด แต่การคุยขอให้ไปดูที่เนื้อหาสาระว่าพูดคุยอะไร พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล
ส่วนหากจะต้องร่วมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มีเงื่อนไขต้องได้กระทรวงใดหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวย้ำคำเดิมว่า มีกระบวนการในการพิจารณาตรงนี้มากกว่ามาคุยกันหรือนั่งตกลงกัน ดังนั้นตนคิดว่าต้องเข้าสู่กระบวนการก่อน ถึงจะพิจารณาได้ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ใครจะคิดทำอะไรก็ทำ ไม่ใช่
เมื่อถามว่าการปล่อยข่าวทั้งหมดเป็นการดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตนมั่นใจ ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนปล่อย ส่วนจะปล่อยเพื่อดิสเครดิตหรือไม่ ขอให้ไปคิดดู ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามการเมืองน้ำเน่าแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนยืนยันย้ำว่า ไม่มี เพราะหากก้าวไม่ข้ามประเทศไทยก็เดินหน้า ให้คิดดูว่าจังหวะเวลาที่ปล่อยข่าว แล้วออกมาพูด มีการรับลูกกัน ใครควรจะเป็นคนปล่อย แต่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ 100%
ส่วนจะเป็นผู้จะเป็นผู้ที่เสียตำแหน่ง ปล่อยข่าวดักทางเองหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย ระบุว่า ถ้าทราบ ตนบอกไปแล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง พรรคประชาธิปัตย์ ,เฉลิมชัยศรีอ่อน ,ดร.เอ้สุชัชวีร์ ,การเมืองยุคใหม่