เลือกตั้งและการเมือง

‘ชาดา’ นำทีมปกครอง บุกจับผับดังพัทยา ทั้งเสพ-ค้ายา ครบวงจร รวบนักเที่ยวฉี่ม่วงกว่า 200 คน

โดย petchpawee_k

25 พ.ค. 2567

204 views

ชาดา นำทีมกรมการปกครอง บุกจับ เดอตี้พัทยา ผับครบวงจร ขาย แจก อม ดม เคี้ยว รวบผู้ค้า นักเที่ยวฉี่ม่วงกว่า 200 ยาเกลื่อนพื้น ยึดอาวุธปืน พร้อมลูกกระสุนคารถยนต์


เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


สั่งการให้สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน  โดยร้อยตำรวจเอกเขตรัฐ ชาญศิลป์ ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ (DOPA FORCE) เจ้าพนักงานร่วม 5 สำนัก จากกรมการปกครอง จำนวนกว่า 150 นาย บุกเข้าตรวจสอบสถานบันเทิง เดอตี้ ผับ (Dirty Pattaya)  ภายในซอยกอไผ่ พัทยาใต้ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


สืบเนื่องมาจากกรมการปกครอง ได้รับรายงานและร้องเรียนว่าสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นผับที่รู้กันในวงการสายตื๊ด ว่ามีครบวงจร ทั้งจำหน่าย จ่ายแจก เสพ ดม อม เคี้ยว และเป็นสถานบันเทิงผิดกฎหมาย มีนักเที่ยววัยรุ่นจำนวนมาก เข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด และจำหน่ายยาเสพติด เป็นประจำเกือบทุกวัน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง รวมถึงเปิดให้บริการปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้วางแผนนำกำลังบุกมาตรวจสอบ พบว่าเป็นผับตั้งอยู่ใจกลางเมือง และรอบข้างมีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน


เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่าผับดังกล่าวกำลังเปิดเพลงดังสนั่น มีนักเที่ยวกว่า 300 คน กำลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะดนตรีอย่างเมามันส์ เจ้าหน้าที่กรมการปกครองจึงสั่งให้ยุติกิจกรรมทั้งหมด ปิดเพลงเปิดไฟ แล้วสั่งแยกผู้หญิง ผู้ชาย ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน จากนั้นได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 219 คน เป็นผู้ชาย 103 คน เป็นผู้หญิง 116 คน ยังตรวจเจอ ยาเสพติด ซองใสแบบซิปที่นักเที่ยวทิ้งไว้เกลื่อนพื้น และถังขยะจำนวนมาก


นอกจากนี้ ได้คุมตัวนักเที่ยวออกมาตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายภายในตัวรถยนต์ เบื้องต้นพบว่า นักเที่ยวทราบชื่อคือ นายธนนันท์  อายุ 23 ปี มีอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุน 9 นัด ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย และกระบอกที่สองเป็นอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 10 นัด เป็นของ นายภูวไนย  อายุ 30 ปี ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ โดยอ้างว่า พกติดรถไว้ป้องกันตัว โดยนักเที่ยวอีกหลายรายยังพบยาเสพติดซุกซ่อนไว้ในรถอีกด้วย


ทั้งนี้ พ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าร่วมตรวจสอบ และควบคุมตัวผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้ง ผู้ครอบครองอาวุธปืน ผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วง รวมทั้งผู้ดูแลร้าน พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืน และยาเสพติด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา โดยผู้ดูแลร้าน แจ้งข้อกล่าวหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ พร้อมทั้ง เสนอทำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News