เลือกตั้งและการเมือง

'สุทิน' ป้องกองทัพ ยันไม่เกี่ยวสมัยคสช.ฟ้อง 112 'ทักษิณ'

โดย panwilai_c

11 มิ.ย. 2567

60 views

ความเคลื่อนไหวหลังนายทักษิณ ชินวัตร จะยื่นขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุดในคดี ม.112 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหม ระบุว่ากองทัพว่าไม่เกี่ยวกับการฟ้องคดี 112 กับนายทักษิณ



นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร เตรียมขอความเป็นธรรมอัยการสูงสุด กรณีถูกคสช.ฟ้อง ในคดี ม.112 ว่า ยังไม่ทราบ แต่หลายคนรู้สึกอยู่ว่าคดีที่เกิดขึ้น ในยุคที่มีการยึดอำนาจ รัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตย"มีความไม่เป็นธรรม"



นักข่าวถามว่า เหมือนกองทัพบกเอง ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง คุณสุทิน ก็บอกจริงๆ "ขณะนั้น ไม่ใช่เรื่องของกองทัพ แต่เป็นคณะพิเศษ คือคสช. ที่ใช้กลไกกองทัพ ดังนั้นการบริหารงานของกองทัพในสมัยนั้น จึงไม่ใช่เรื่องของกองทัพแล้ว ซึ่งเรื่องการตั้งข้อกล่าวหา จากนี้คงต้องไปพิสูจน์กัน ตามกระบวนการยุติธรรม



ด้านพันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ พูดถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุดในคดีมาตรา 112 โดยอ้างว่าพนักงานสอบสวนโดนข่มขู่จาก คสช. ​ว่า​ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม และไม่มีอำนาจเข้าไปพิจารณา จึงต้องสอบถามไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ที่มีอำนาจ



แต่พูดในเชิงหลักการ ว่า ในกระบวนการยุติธรรม คดีทางอาญาจะเปิดโอกาสให้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหา สามารถยื่นขอความเป็นธรรมได้ตลอด ไม่มีการห้ามในขั้นตอนใด และอำนาจการพิจารณาก็เป็นของอัยการสูงสุด



เมื่อถามว่าลักษณะเช่นนี้ต้องการที่จะเปลี่ยน ผู้ทำคดีหรือไม่ พันตำรวจเอกทวี บอกว่า​ จากที่ฟังโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่ายังไม่ได้รับเรื่อง จึงไม่เห็นรายละเอียด ดังนั้นไม่อยากตอบสมมุติ เพราะอาจจะเกิดความสับสน ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุดมีทุกคดี แต่ไม่ได้เป็นข่าว



นักข่าวถามถึง ข้ออ้างที่ว่าคสช.ข่มขู่พนักงานสอบสวนฟังขึ้นหรือไม่​ พันตำรวจเอกทวี บอกว่า หลักใหญ่เรื่องการสอบสวนชอบหรือไม่ชอบนั้นเป็นหลักสำคัญของคดีอาญา เช่นพนักงานสอบสวนมีอำนาจหรือไม่ หรือพนักงานสอบสวน สอบสวนโดยชอบหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานสอบสวน หรือพยาน หรือส่วนอื่นๆที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดการบังคับขู่เข็ญ หรือการกระทำใดๆ เพื่อให้เกิดการจูงใจ ซึ่งเป็นประเด็นสามารถร้องขอความเป็นธรรมได้



เมื่อถามว่าคดีม 112 ของนายทักษิณ ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ รับเป็นเจ้าภาพ ในการแจ้งความดำเนินคดีในขณะนั้น พันตำรวจเอกทวี บอกว่า อำนาจการสอบสวน จะมีแค่พนักงานสอบสวน ทหารไม่ใช่พนักงานสอบสวน และถ้าเป็นคดีพิเศษ ก็จะเป็นอำนาจของกรมคดีสอบสวนพิเศษ ถือเป็นขั้นตอนตามปกติ



เมื่อถามว่ายืนยันว่า คสช.ใช้ช่องทางตามปกติ ในการดำเนินคดีกับคุณทักษิณใช่หรือไม่ พันตำรวจเอกทวี บอกว่า กระบวนการสอบสวน จะเป็นตำรวจหรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI คนอื่นไม่มีอำนาจสอบสวน เว้นแต่เป็นเรื่องเฉพาะ การปรับ เรื่องการสอบสวนของก.ตร. ก็สามารถดำเนินการได้



ทั้งนี้ พันตำรวจเอกทวี เลี่ยงที่จะฟันธง ว่าการยื่นฟ้องในยุคคสช. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่



ขณะที่ อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีนายทักษิณ ได้ก็ออกมาโพสต์ สวนทางกับรายงานที่ว่านายทักษิณ ร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่า พนักงานสอบสวนคดีนี้ โดนข่มขู่ทำคดี



โดย นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น อสส. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวนครับ"



ทั้งนี้ นายตระกูล เป็นพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ตาม ป.วิอาญา มาตรา20 ที่กำหนดให้ อัยการสูงสุด เป็นพนักงานสอบสวน รับผิดชอบการทำคดี ซึ่งนายตระกูล วินิจนัยภาค เป็นอัยการสูงสุดในขณะนั้น

คุณอาจสนใจ

Related News